สังเวยอัคคีนรก “ซานติก้าผับ” ปลัด กทม.สั่งเด้ง 2 ผู้อำนวยการเขต โดนทั้ง ผอ.เขตวัฒนาคนปัจจุบัน รวมทั้ง ผอ.คนเก่าที่ปัจจุบันย้ายไปเป็น ผอ.เขตปทุมวัน ฐานเป็นคนเซ็นอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีไฟไหม้ซานติก้า ผับ เขตวัฒนา ของกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า เขตวัฒนาต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบจากเหตุการณ์ ดังกล่าว เนื่องจากมีความบกพร่องในการอนุญาตให้ใช้อาคารที่ไม่ถูกกฎหมายล่าสุด นายพงศ์ศักติฐ์ เสนสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้ลงนามคำสั่งให้นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา และนายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตปทุมวันอดีตผู้อำนวยการเขตวัฒนา มาช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว โดยจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(28ม.ค.) เป็นต้นไป จนกว่าการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่มีนายชาตินัย เนาวภูต ผู้อำนวยการสำนักการโยธา(สนย.) เป็นประธานจะแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับทางผอ.สนย.ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ พบความผิด 3 ประการ คือ 1.มีการปล่อยให้ลงนามคำสั่งก่อสร้างสถานบันเทิงซานติก้า ในปี 2546 2.การก่อสร้างผิดแบบ และ 3.ปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง การอนุญาตการใช้อาคารสถานที่ นอกจากนี้ ได้มีการกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบฯ ให้รีบดำเนินการให้เร็วที่สุด พร้อมกล่าวว่า ในกรณีนี้ หากพบว่ามีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้อง และต้องรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวให้ส่งชื่อมา ทาง กทม.จะดำเนินการในทันที
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กล่าวว่า ผลสอบของคณะกรรมการที่ออกมานั้น ถือว่าเป็นการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งในการอนุญาตก่อสร้างอาคาร การอนุญาตให้ใช้อาคารที่ผิดประเภท และการบกพร่องในการตรวจสอบหลังการอนุญาตให้ใช้อาคารด้วย อย่างไรก็ตามการสั่งให้มาช่วยราชการของ ผอ.เขต 2 คน เป็นการช่วยราชการชั่วคราว เพื่อให้การสอบสวนดำเนินการต่อไปได้อย่างโปร่งใส จนกว่าจะมีการสอบสวนแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามตนก็จะให้ความเป็นธรรมและรอบคอบในการดำเนินการให้มากที่สุด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่านายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.รายงานเบื้องต้นกรณีซานติก้าผับว่า พบความบกพร่องบางส่วน เช่น การก่อสร้าง การขอใช้สถานที่ การตรวจสอบหลังการใช้สถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมีความเห็นให้ นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนาคนปัจจุบัน และนายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตวัฒนาในอดีต ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ให้เข้ามาช่วยราชการที่สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร และมีผลทันทีที่ปลัด กทม.ลงนาม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนเพียงแค่ได้รับรายงาน แต่หนังสือคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวยังมาไม่ถึงตนเอง
ด้าน นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้าย 2 ผู้อำนวยการเขต คือ นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน อดีตเป็นผู้อำนวยการเขตวัฒนา ที่อนุมัติให้มีการเปิดสถานบันเทิงซานติก้า ผับ เมื่อปี 2546 และนายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คนปัจจุบัน ฐานละเลยการตรวจสอบการก่อสร้างสถานบันเทิงดังกล่าว ให้มาช่วยราชการที่สำนักปลัด กทม. มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) เป็นต้นไป และมอบหมายให้รองผู้อำนวยการเขตทั้ง 2 เขต รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการเขตชั่วคราว จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ แล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นเวลา 12.10 น.นายสุรเกียรติ์ และนายวรพจน์ เข้าพบนางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัด กทม. เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว โดยมีสีหน้าเป็นกังวลกับเรื่องดังกล่าวมาก หลังจากนั้นให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ตนงงกับคำสั่งดังกล่าวมาก และจะเข้าชี้แจงอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอหารือกับปลัด กทม.ก่อน เนื่องจากคำสั่งย้ายดังกล่าวถือเป็นเรื่องความเป็นความตายของตนและมีผลกระทบกับตำแหน่งของตน ทั้งนี้ จะขอใช้เวลาในช่วงนี้เพื่อทบทวนในสิ่งที่ได้ทำลงไปก่อน
นายชาตินัย เนาวภูต ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเพลิงไหม้อาคารซานติก้า ผับ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ ได้ขอขยายเวลาการสอบสวนออกไปอีก 15 วัน หลังจากที่ครบกำหนดเมื่อวันอังคาร ที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายละเอียดและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ประกอบกับมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากภายนอก กระทรวงยุติธรรม 2 คน มาร่วมตรวจสอบด้วย จึงยังไม่สามารถสรุปผลการสอบสวนได้ ทั้งนี้คณะกรรมการได้นัดประชุมกันอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 30 ม.ค. นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการสอบสวนที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำจำนวน 15 ปาก ขาดเพียงอดีตเจ้าหน้าที่เขตวัฒนาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เข้ามาให้ปากคำ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำหน้าที่เป็นนายตรวจ แต่ได้เกษียณราชการไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แม้คณะกรรมการทำหนังสือเรียกถึง 2 ครั้งแล้วก็ตาม ทั้งนี้หากสุดท้ายแล้วไม่เข้ามาให้ปากคำ คณะกรรมการก็จะสรุปผลสอบเท่าที่มีหลักฐานปรากฏ โดยล่าสุดคณะกรรมการเพิ่งจะได้แบบอาคารซานติก้า ผับ มาตรวจสอบ จากที่ก่อนหน้านี้เขตอ้างว่าค้นหาไม่พบ อย่างไรก็ตาม หลังคณะกรรมการได้ตรวจสอบแบบแล้วพบว่ามีการใช้อาคารผิดประเภท เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอาคารพักอาศัยมาเป็นสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
