สภาการพยาบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง “พยาบาล” ทำเกินหน้าที่ ยันผ่าตัด “ขริบจู๋” ทำไม่ได้ แนะหมอสั่งไม่ถูกต้อง ให้ปฏิเสธ ขณะที่ สธ.เรียกหมอ-คนไข้ ไกล่เกลี่ย 27 ม.ค.นี้
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สภาการพยาบาลจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพยาบาลวิชาชีพขริบอวัยวะเพศ ให้เด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้จากการดูบันทึกการรักษา รวมทั้งจะเรียกให้พยาบาลรายดังกล่าวเข้าชี้แจง หรือคณะกรรมการ หรืออาจลงไปตรวจสอบที่คลินิก เพื่อพิจารณาด้านจริยธรรมสำหรับบทลงโทษมีตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต ยึดใบประกอบวิชาชีพ
ส่วนแนวทางการพิจารณาจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ ซึ่งหากกรณีนี้ไม่มีความซับซ้อนมาก คาดว่า จะใช้เวลาในการดำเนินการภายใน 2 เดือน จากนั้นจะรายงานให้กรรมการสภาทราบโดยด่วน
“หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ คือ พยาบาลวิชาชีพทำการขริบปลายอวัยะวะเพศ โดยไม่ได้รับความยินยอม และไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้ป่วย ถือเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตหน้าที่ของวิชาชีพการพยาบาล
ซึ่งพยาบาลสามารถทำการผ่าตัดเล็กได้ เช่น จี้หูด เย็บแผล ตัดไฝ ถอดเล็บ แต่ไม่มีการกำหนดเรื่องการขริบว่าสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามแพทย์เองไม่สามารถมอบหมายงานการผ่าตัดที่ไม่มีแพทย์คอยควบคุม หรือรวมปฏิบัติงานได้ ซึ่งส่วนนี้อยู่ที่แพทยสภาจะดำเนินการอย่างไร หรือหากแพทย์มอบหมายงานที่ไม่ถูกต้องไม่ใช่หน้าที่ของพยาบาล ก็สามารถที่จะปฏิเสธได้” นายกสภาการพยาบาล กล่าว
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จะกำชับไปยังพยาบาลทั่วประเทศให้ปฏิเสธการทำงานที่เกินขอบเขตหน้าที่ เนื่องจากหากไม่มีความชำนาญ หรือเป็นไปตามระเบียบที่ให้พยาบาลสามารถทำเวชกรรมภายใต้การควบคุม พ.ร.บ.การประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ ซึ่งมีระเบียบข้อบังคับอยู่แล้วอยู่ที่จะสนใจหรือไม่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 มกราคม เวลา 09.30 น.นพ.ปัญญา กีรติหัตถยากร ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาการร้องเรียน กระทรวงสาธารณสุข ได้นัดไกล่เกลี่ยกรณีคลินิกเวชกรรมมหาชน พระประแดง ทำการผ่าตัดผิดที่จากฝีในปากเป็นผ่าตัดขริบที่อวัยวะเพศโดยเรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาหารือร่วมกัน