“สุขุมพันธุ์” ยันสานนโยบาย “อภิรักษ์” ดูแลผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสต่อเนื่อง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้พิการมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายพัฒนากทม. ขณะที่ “ปลื้ม” เตรียมเปิดตัวทีมงาน 28 ธ.ค.นี้ แถมโวโพลอันดับ 2 ไม่เหนือความคาดหมาย ด้าน “แซม” พร้อมสนับสนุนกิจกรรมชาวมุสลิม อ้อนขอเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากพรรคเพื่อไทย
วันนี้ (26 ธ.ค.)ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงนโยบายวาระคนพิการที่ 4 แยกราชประสงค์ บริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ โดยมีตัวแทนผู้พิการทุกประเภท จากสมาคมผู้พิการแห่งประเทศไทย มาร่วมเสนอแนะความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่เสนอให้ กทม. เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยสานต่อนโยบายของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง กทม. กับผู้พิการ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้พิการ โดยเฉพาะการปรับปรุงทางเท้าทั่วพื้นที่ กทม.และสามารใช้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และรถบีอาร์ที ของ กทม.ทุกสถานี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าตนจะเป็นผู้ว่าฯ ของชาว กทม.ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ ซึ่งรวมถึงผู้พิการด้วย โดยมีนโยบายที่จะเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการมากขึ้น เพราะที่ผ่านมายังถือว่าไม่ให้ความสำคัญกับผู้พิการมากนัก ทั้ง กทม. มีเพียงถนนราชดำริเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่ทำทางลาดสำหรับผู้พิการ ดังนั้นตนมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ กทม.ไปสู่มหานครชั้นนำของโลก พร้อมที่จะสานต่อนโยบายของ นายอภิรักษ์ และขยายแผนพัฒนา กทม.จากเดิม 12 เป็น 20 ปี เพราะ กทม.เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนา กทม.ด้วย ขณะเดียวกันจะจัดสรรเบี้ยยังชีพสำหรับผู้พิการให้ได้รับอย่างทั่วถึง ให้เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. โดยจะมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ และที่ปรึกษาผู้ว่าฯ อย่างละคน คอยให้การดูแลสมาคมผู้พิการแห่งประเทศไทยโดยเฉพาะ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความคิดเห็นของเอแบคโพลล์ ที่คะแนนความนิยมของผู้สมัครค่อนข้างสูสีกัน แม้จะนำมาเป็นอันดับ 1 ก็ตาม ว่า ตนรับทราบและเคารพผลสำรวจที่ออกมา แต่ไม่ได้นำมาใส่ใจ ซึ่งยังยืนยันที่จะขอเดินหน้าที่จะหาเสียงต่อไปเหมือนเดิม ไม่ประมาทแม้ผลจะบอกว่านำมาเป็นอันดับ 1 ก็ตาม หากตนประมาทก็คงไม่ตื่นแต่เช้าทุกเช้าเพื่อเดินหาเสียงแบบทุกวันนี้ ส่วนการปราศรัยช่วงโค้งสุดท้าย ตนจะขอดูอารมณ์ของประชาชนช่วงหลังปีใหม่ก่อน หากเบื่อหน่ายการเมืองตนก็ไม่อยากรบกวน ขณะที่ทีมงานรองผู้ว่าฯ กทม.ขอให้ติดตามตอนต่อไป
ขณะที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียง ที่มัสยิดเราะห์ม่าตุ้ล อิสลาม เขตสวนหลวง โดยกล่าวว่า ตนมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ชาวมุสลิมใน กทม.สามารถใช้ชีวิตแบบฮาลาล ได้อย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องอาหารเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมไปถึง ธุรกิจ เสื้อผ้า และวิถีชีวิตประจำวันทั้งหมด ซึ่งตนมีที่ปรึกษาคือ นายอนิรุทธ์ สมุทรโคจร นายกสมาคมธุรกิจอุตสาหกรรมไทยมุสลิม และกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดูแลด้านตะวันออกกลาง ที่จะเข้ามามีบทบาทเป็นทีมที่ปรึกษา และอำนวยความสะดวกให้กับชาวมุสลิมใช้ชีวิตและมีวิถีชีวิตแบบฮาลาลได้อย่างครบถ้วน
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม เวลา 08.30 น.ที่หมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตสวนหลวง กทม.ตนจะเปิดตัวทีมงานที่ปรึกษาในแต่ละด้าน ซึ่งช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้เดินสายทาบทามเอาไว้ และยืนยันว่า แต่ละคนมีประสบการณ์ทำงาน กทม.ในแต่ละด้านด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลโพลที่นำมาเป็นอันดับ 2 รองจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ว่า รู้สึกอย่างไร ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า ตัวเลขโพลที่ออกมาไม่ได้เหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับโพลมาก เพราะการลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ได้มาลงเพื่อวัดคะแนน หรือเช็กกระแสนิยม แต่ลงเพื่อหวังชนะเลือกตั้งและได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งหากเป็นผู้ว่าฯตนจะเน้นการผลิตผลงานที่รวดเร็ว เน้นการทำงานด้วยใจและความลึกในงานแต่ละด้านด้วยทีมงานที่มากประสบการณ์ และว่า ทั้งนี้ อยากฝากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเลือกใคร ให้ลองพิจารณาผู้สมัคร ที่จะเป็นอนาคตให้กับคนกรุงเทพฯได้ และเป็นคนที่มีประสบการณ์พร้อมจะทำงานได้ทันที ไม่มีความขัดแย้งในเรื่องการเมืองกับฝ่ายใดทั้งสิ้น
ส่วนนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เข้าพบผู้นำศูนย์กลางอิสลาม พร้อมรับปากว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะเข้ามาช่วยดูแล และสนับสนุนการทำกิจกรรมต่างๆ ของพี่น้องชาวมุสลิม
นายยุรนันท์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นเอแบคโพลล์ ว่า กระแสตอบรับจากประชาชนดีขึ้นกว่าโพลครั้งก่อน แต่ฐานเสียงดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าจะทำให้ชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนการเลือกตั้ง ตนจะเร่งลงพื้นที่เพื่อเสนอนโยบายกับคน กทม.ให้มากกว่าเดิม ด้านงบประมาณในการหาเสียงตนตั้งใจที่จะใช้จำนวนจำกัด เพราะหากใช้งบจำนวนมากก็ต้องเข้าไปเอาเงินคืนมากเช่นกัน ส่วนไหนที่ทำได้จะทำเองและมีเพื่อน ส.ส. ส.ก.เข้ามาช่วย จึงไม่ได้ขอเงินจากทางพรรคมากนัก
นายยุรนันท์ กล่าวอีกว่า ตนอยากให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตยของคนกรุงเทพฯ อยากเห็นการเมืองที่ทำงานแก้ปัญหาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย เป็นการเมืองในระบบที่สร้างสรรค์ขึ้น
“หลังจากที่ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว ผมก็อยากให้คนกรุงเทพเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารงาน กทม. ซึ่ง ส.ส.111 ที่โดนยุบจากพรรคไทยรักไทยและ ส.ส.อีก 37 คนที่โดนยุบจากพรรคพลังประชาชนเอง ก็พร้อมที่จะมาช่วยกันแก้ปัญหาในกรุงเทพฯ” นายยุรนันท์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนที่ นายยุรนันท์ จะเดินทางมาที่ศูนย์อิสลามกลาง ได้ไปหาเสียงที่ตลาดบางกะปิและโรงเรียนช่างหนัง โดยไปเจอกับ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ที่สวนพฤษชาติ จึงถูกสื่อมวลชนรุมซักถามว่าตั้งใจมาช่วย นายยุรนันท์ หาเสียงหรือไม่ ซึ่ง นางสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจมาช่วยหาเสียง แต่ก็อยากให้ช่วยเลือก นายยุรนันท์ เพราะตั้งใจเข้ามาทำงานแก้ปัญหากทม.
