“แซม” ชูนโบบาย Meeting Link สร้างสะพานคนเดินข้ามเชื่อมฝั่งธนฯ-พระนคร ช่วยแก้ปัญหาจราจร เผยนำต้นแบบมาจากสะพานมิเลเนียม 1- 2 ข้ามแม่น้ำเทมส์ กรุงลอนดอนแต่จะเปิดให้ประชาชนมีส่วนรวมออกแบบใส่ความเป็นไทยก่อนโหวตที่ตรงใจใช้ก่อสร้าง คาดใช้งบ 300 ล้านบาท เผยอาจไม่จัดปราศรัยใหญ่เหตุแกนนำของพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเพียบ
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 10 และคณะลงพื้นที่หาเสียงที่วัดเศวตฉัตร ท่าเรือคลองสาน และท่าเรือท่าดินแดง เขตธนบุรี พร้อมชู นโยบาย Meeting Link ว่า ตนมีแนวความคิดที่จะสร้างสะพานคนเดินข้ามจากท่าน้ำท่าดินแดง เขตธนบุรี ข้ามไปยังท่าน้ำราชวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ ให้เป็น Meeting Link เชื่อมโยงฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครเข้าด้วยกันเหมือนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำเทมส์ คือสะพานมิเลเนียม 1และ 2 โดยสะพานคนเดินข้ามดังกล่าวจะเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง (Landmark) แห่งใหม่ของกทม.ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชอปปิ้งที่ย่านเยาวราชจะต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสะพานแห่งนี้โดยคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ทั้งนี้สะพานคนเดินข้ามดังกล่าวจะมีระยะทางยาว 200 เมตร ความกว้างไม่ต่ำกว่า 5 เมตร โดยจะใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท
นายยุรนันท์ กล่าวต่อว่า เหตุที่ตนตัดสินใจเลือกที่จะทำสัญลักษณ์ประจำเมืองแห่งใหม่ที่นี่ เนื่องจากมีความเหมาะสมที่สุดหลังจากที่ทีมงาน ส.ส. ส.ข. ในพื้นที่ของพรรคฯได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่มานานแล้วและพบว่าเขามีความต้องการที่จะได้สะพานคนเดินข้าม ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สะสร้างสะพานนี้ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก ความปลอดภัยซึ่งจะกำหนดเวลาเปิด-ปิดที่แน่นอนมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้า และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายสำให้ประชาชน ที่สำคัญเป็นการตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาจราจรจากฝั่งธนฯ ไปฝั่งพระนครได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ต้องเวนคืนที่ดินอีกด้วย ส่วนเรือข้ามฟากก็จะยังอยู่แต่สะพานคนเดินข้ามแห่งนี้จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของประชาชน
“ประชาชนที่เดินข้ามสะพานแห่งนี้จะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์กลางแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมๆกับได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวมงามทั้ง 2 ฝั่ง โดยรูปแบบของสะพานตนจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมด้วยการออกแบบซึ่งจะต้องสะท้อนให้เห็นชีวิต วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของไทยลงไปจากนั้นจะให้มีการโหวตแบบที่ตรงใจทุกคนมากที่สุด” นายยุรนันท์ กล่าว
นายยุรนันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการจัดเวทีปราศรัยหาเสียงของตนนั้น เบื้องต้นคิดว่าจะไม่มี เนื่องจากตนเห็นว่าการจัดปราศรัยไม่ได้บอกว่าคนกรุงเทพฯ จะหันมาเลือกตน หรือจะทำให้คนกรุงเทพฯ เปลี่ยนใจมาเลือกตนได้ เพราะคนที่มาฟังคือคนของพรรคอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาที่เป็นประเพณีว่าต้องจัดเวทีปราศรัย เพื่อแสดงถึงศักยภาพของพรรค ซึ่งเหมาะสมกับการเมืองระดับประเทศมากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นการปกครองท้องถิ่น ที่สำคัญแกนนำของพรรคหลายคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน รวมกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนอีกประมาณ 20 คน ก็ขึ้นเวทีปราศรัยไม่ได้ และครั้งนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรีมาช่วยเรียกคะแนนด้วย ดังนั้นหากจัดการปราศรัยก็คงไม่เข้มข้นเท่าที่ควร ตนคิดว่าจะเลือกวิธีการลงพื้นที่ให้มาก และทั่วกทม.มากที่สุดจะดีกว่า อย่างไรก็ตามต้องหารือกับทางพรรคฯอีกครั้งก่อนว่าจะจัดปราศรัยหรือไม่ ในช่วงโค้งสุดท้าย