"สุขุมพันธุ์" ผุด 4 นโยบายเอาใจวัยใสเมืองกรุงทั้งตั้งคณะทำงานประจำเขต- สานต่อเรียนดี เรียนฟรีมีคุณภาพต่อเนื่องพร้อมยกระดับโรงเรียนกทม.เทียบชั้นเตรียมอุดม -สื่อสารอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงด้วย GREEN WIMAX และเพิ่มพื้นที่ปล่อยพลังทำกิจกรรมให้เหล่าโจ๋มากขึ้น ลั่นหากไม่เป็นผู้ว่าฯจะนำนโยบายด้านเยาวชนเสนอผู้ชนะให้ทำแทน ส่วน "แซม"หาเสียงกับชาวรามัญ ย่านบางขุนเทียน ชูเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงนโยบายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนให้กทม.เป็นมหานครชั้นนำต่อไปในอนาคตประกอบด้วย 4 แนวทางดังนี้
1) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยส่งเสริมให้มีการจัดการเลือกตั้งตัวแทนเยาวชนของแต่ละพื้นที่เพื่อเข้ามาแสดงความคิดเห็นในฐานะคณะทำงานประจำเขต เป็นกระบอกเสียงให้เยาวชนเพื่อ ส่งผ่านความคิดเห็นไปสู่ผู้บริหารในการผลักดันสู่การปฏิบัติจริง
2) สร้างความสุขในการเรียนรู้ เด็กกทม.จะต้อง work hard play smart 4 ปีต่อจากนี้ เด็กกทม.เกือบล้านคน จะต้องได้เรียนดี เรียนฟรี แบบมีคุณภาพทั้งวิชาการในห้องเรียนและวิสัยทัศน์นอกห้องเรียน ยกระดับโรงเรียนสังกัดกทม.ให้เทียบชั้นกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชน สร้างวิสัยทัศน์เด็ก กทม.ให้กว้างไกลด้วยการเรียนรู้นอกห้องเรียน ต่อยอดการสร้างห้องสมุดที่ทันสมัยใช้ฟรีให้ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มเติมศูนย์เยาวชนระดับมาตราฐานให้เด็กทุกคนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
3) สร้างความสุขด้วย GREEN WIMAX ที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วกทม.ยกระดับเด็กกทม.ด้วยการเปิดโลกกว้างแห่งการติดต่อสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตได้จากทุกมุมของกทม.
4) สร้างความสุขด้วยความสนุกที่สร้างสรรค์ โดยจะเพิ่มเติมพื้นที่สำหรับวัยรุ่นทั่วกทม. เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ในทุกด้าน เช่น ลานอินดี้ ฮิปฮอป ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์กีฬา ศูนย์เยาวชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า หากตนได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯกทม. ตนมีคณะทำงานด้านเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นเยาวชนที่มีประสบการณ์ ได้ร่วมงานในคณะทำงานด้านเยาวชนของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ทั้งสิ้น 11 คน อาทิ น.ส.สุภัทกิตติ เจตทวีกิจ นายรวิน วงศ์อุไร นายชุติ ธำรงศรีสุข นายนภดล ชุมพลกูลวงศ์ นายสุทธิกร กิ่งแก้ว น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ แต่หากตนไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะนำนโยบายด้านเด็กและเยาวชนนำเสนอกับผู้ว่าฯกทม. เพราะถือว่านโยบายด้านเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตนยอมให้ถูกมองว่าหน้าด้าน แต่ตนอยากให้ผู้ว่าฯกทม.ทำนโยบายเพื่อเด็กนำไปเป็นกรอบในการปฏิบัติราชการต่อไป
ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย(พท.) ลงพื้นที่หาเสียงกับชาวชุมชนวัดบางกระดี่ ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน โดยนายยุรนันท์ได้นุ่งโสร่งใส่ชุดรามัญ พบปะกับชาวบ้าน รับทราบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่บางขุนเทียน โดยบอกกับชาวบ้านว่า ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน และขณะนี้ยังไม่พบวิธีที่จะลดการสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งจากการกัดเซาะของของน้ำทะเล เท่าที่ทำได้จะใช้ภูมิปัญาของชาวบ้านก่อน เช่น การทำแนวกันคลื่นไม้ไผ่ และการแก้ปัญหาต้องยึดความต้องการชาวบ้านเป็นหลัก พร้อมยอมรับว่าพื้นที่ชายขอบ กทม.มีปัญหามากมาย สิ่งใดที่มีปัญหาต้องเร่งดูแลพัฒนา ขณะเดียวกันอันไหนดีอยู่แล้วจะต้องได้รับการขยายผลควบคู่ไปด้วย เช่น พื้นที่ชุมชนวัดบางกระดี่ มีจุดเด่นในเรื่องวิถีชีวิตชาวบ้านที่แตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข โดยจะดึงจุดเด่นวิถีชีวิตชาวมอญมาพัฒนาการด้านท่องเที่ยว ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าชุมชนวัดบางกระดี่ คือ ชุมชนชาวมอญในพื้นที่กทม.นั่นเอง จะส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว โชว์เอกลักษณ์ไทยรามัญ เพราะต่างชาติที่เที่ยวประเทศไทยเขาสนใจไปดูวัฒนธรรมดั้งเดิม การแต่งกาย
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงนโยบายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนให้กทม.เป็นมหานครชั้นนำต่อไปในอนาคตประกอบด้วย 4 แนวทางดังนี้
1) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยส่งเสริมให้มีการจัดการเลือกตั้งตัวแทนเยาวชนของแต่ละพื้นที่เพื่อเข้ามาแสดงความคิดเห็นในฐานะคณะทำงานประจำเขต เป็นกระบอกเสียงให้เยาวชนเพื่อ ส่งผ่านความคิดเห็นไปสู่ผู้บริหารในการผลักดันสู่การปฏิบัติจริง
2) สร้างความสุขในการเรียนรู้ เด็กกทม.จะต้อง work hard play smart 4 ปีต่อจากนี้ เด็กกทม.เกือบล้านคน จะต้องได้เรียนดี เรียนฟรี แบบมีคุณภาพทั้งวิชาการในห้องเรียนและวิสัยทัศน์นอกห้องเรียน ยกระดับโรงเรียนสังกัดกทม.ให้เทียบชั้นกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชน สร้างวิสัยทัศน์เด็ก กทม.ให้กว้างไกลด้วยการเรียนรู้นอกห้องเรียน ต่อยอดการสร้างห้องสมุดที่ทันสมัยใช้ฟรีให้ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มเติมศูนย์เยาวชนระดับมาตราฐานให้เด็กทุกคนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
3) สร้างความสุขด้วย GREEN WIMAX ที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วกทม.ยกระดับเด็กกทม.ด้วยการเปิดโลกกว้างแห่งการติดต่อสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตได้จากทุกมุมของกทม.
4) สร้างความสุขด้วยความสนุกที่สร้างสรรค์ โดยจะเพิ่มเติมพื้นที่สำหรับวัยรุ่นทั่วกทม. เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ในทุกด้าน เช่น ลานอินดี้ ฮิปฮอป ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์กีฬา ศูนย์เยาวชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า หากตนได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯกทม. ตนมีคณะทำงานด้านเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นเยาวชนที่มีประสบการณ์ ได้ร่วมงานในคณะทำงานด้านเยาวชนของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ทั้งสิ้น 11 คน อาทิ น.ส.สุภัทกิตติ เจตทวีกิจ นายรวิน วงศ์อุไร นายชุติ ธำรงศรีสุข นายนภดล ชุมพลกูลวงศ์ นายสุทธิกร กิ่งแก้ว น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ แต่หากตนไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะนำนโยบายด้านเด็กและเยาวชนนำเสนอกับผู้ว่าฯกทม. เพราะถือว่านโยบายด้านเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตนยอมให้ถูกมองว่าหน้าด้าน แต่ตนอยากให้ผู้ว่าฯกทม.ทำนโยบายเพื่อเด็กนำไปเป็นกรอบในการปฏิบัติราชการต่อไป
ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย(พท.) ลงพื้นที่หาเสียงกับชาวชุมชนวัดบางกระดี่ ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน โดยนายยุรนันท์ได้นุ่งโสร่งใส่ชุดรามัญ พบปะกับชาวบ้าน รับทราบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่บางขุนเทียน โดยบอกกับชาวบ้านว่า ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน และขณะนี้ยังไม่พบวิธีที่จะลดการสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งจากการกัดเซาะของของน้ำทะเล เท่าที่ทำได้จะใช้ภูมิปัญาของชาวบ้านก่อน เช่น การทำแนวกันคลื่นไม้ไผ่ และการแก้ปัญหาต้องยึดความต้องการชาวบ้านเป็นหลัก พร้อมยอมรับว่าพื้นที่ชายขอบ กทม.มีปัญหามากมาย สิ่งใดที่มีปัญหาต้องเร่งดูแลพัฒนา ขณะเดียวกันอันไหนดีอยู่แล้วจะต้องได้รับการขยายผลควบคู่ไปด้วย เช่น พื้นที่ชุมชนวัดบางกระดี่ มีจุดเด่นในเรื่องวิถีชีวิตชาวบ้านที่แตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข โดยจะดึงจุดเด่นวิถีชีวิตชาวมอญมาพัฒนาการด้านท่องเที่ยว ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าชุมชนวัดบางกระดี่ คือ ชุมชนชาวมอญในพื้นที่กทม.นั่นเอง จะส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว โชว์เอกลักษณ์ไทยรามัญ เพราะต่างชาติที่เที่ยวประเทศไทยเขาสนใจไปดูวัฒนธรรมดั้งเดิม การแต่งกาย
