“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” อยากเห็น “วัด” เป็นศูนย์กลางของสังคม เตรียมพัฒนาวัดกว่า 400 แห่งใน กทม.ให้มีบทบาทมากขึ้นในการจัดกิจกรรมทางศาสนา และการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน พร้อมเผยแผ่ธรรมะให้ประชาชนผ่านแท็กซี่ “แซม” ลุยหาเสียงผู้สูงอายุ ประกาศนโยบายดูแลคนชรา จัดกลุ่มลักษณะเป็นบ้านพักผู้สูงอายุ ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ อยู่ประจำ เปิดรับอาสาสมัครมาดูแล พร้อมเปิดตัว “แม่วัย 80 ปี” ช่วยหาเสียง
หลังจากที่ได้เข้าคาระวะผู้นำมุสลิมและแถลงนโยบายเพื่อพี่น้องไทย-มุสลิม เมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ (18 ธ.ค.)ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ หมายเลข 2 เข้าขอพรผู้นำศาสนาคริสต์ในช่วงเช้า และบ่ายเข้านมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนั้น ได้เสนอแนวคิดที่จะพัฒนาวัดใน กทม.400 กว่าแห่ง ให้มีบทบาทมากขึ้นในการจัดกิจกรรมทางศาสนาและการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงการปรับปรุงวัดให้มีความร่มรื่นสวยงาม เป็นศูนย์กลางชุมชนและศูนย์รวมทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ตนให้ความสำคัญกับวัด และพุทธศาสนา เพราะปัจจุบันสังคมไทยต้องเผชิญกับปัญหารอบด้าน การอยู่ใกล้ชิดพระธรรมคำสั่งสอน ตั้งแต่วัยเยาว์ จะสามารถช่วยให้สังคมมีความสมานฉันท์ ร่มเย็นเป็นสุขมากขึ้น และตนจะส่งเสริมแนวคิดนี้กับกับศาสนาอื่นด้วย เช่น บ้าน โรงเรียน มัสยิด (บรม) และ โรงเรียน บ้าน โบสถ์ (รบบ)
ทั้งนี้ กิจกรรมที่ตนอยากให้เกิดขึ้นคือ
1.การส่งเสริมให้วัดเป็นโรงเรียนสอนศาสนาและทำกิจกรรมของครอบครัวทุกวันอาทิตย์
2.การส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมธรรมะในสวน กทม.
3.การส่งเสริมให้เทศกิจร่วมกับพระวินยาธิการหรือตำรวจพระ ตรวจจับผู้ที่ปลอมตัวเป็นพระออกเรี่ยไรบิณฑบาต เพื่อป้องกันพระวินยาธิการถูกทำร้าย
4.การทำความสะอาดวัดทั้ง 443 แห่งให้ร่มรื่น สะอาด สวยงาม
5.การเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงพระธรรม เช่น ฟังธรรมะในรถแท็กซี่ ซึ่งจะเป็นโครงการระหว่าง กทม.กับ สหกรณ์รถ Taxi โดย กทม.จัดหาทำแผ่นธรรมะบรรยาย แจกจ่ายแก่แท็กซี่ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ เพื่อเปิดให้ผู้โดยสารฟัง
วันเดียวกัน (18 ธ.ค.) นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จากพรรคเพื่อไทย พาสื่อชมกิจกรรมที่กลุ่มผู้สูงอายุย่านงามวงศ์วาน รวมตัวกันจัดขึ้นเป็นประจำ พร้อมเปิดตัว นางเรณู ภมรมนตรี มารดา อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นอดีตรองนางสาวไทย ที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำ
นายยุรนันท์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม.เปรียบเสมือนพ่อบ้านที่ต้องดูแลคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงอายุ ให้เหมือนดูแลพ่อแม่ที่บ้าน หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ ก็จะจัดกลุ่มลักษณะเป็นบ้านพักผู้สูงอายุทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ และอยู่ประจำ และเปิดรับอาสาสมัครมาดูแล ซึ่งอาจเป็นผู้สูงอายุอาสามาดูแลกันเอง โดยจะประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย พร้อมจัดกิจกรรม เช่น งานศิลปะ จิตรกรรม วรรณกรรม ฝึกอาชีพ เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้ว่าตนเองมีคุณค่า และจะมีการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ มีข้อมูลผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ใน กทม.มีชื่อในทะเบียนบ้านเกือบ 600,000 คน แต่ยังได้รับเบี้ยเลี้ยงไม่ครบทุกคน ก็จะแก้ปัญหานี้ด้วย
ด้าน นางเรณู กล่าวว่า อยากได้พ่อเมืองที่ดูแลคนแก่ให้ดี ขอให้เลือก นายยุรนันท์ เพราะดูแลได้ดีมาก ตนเป็นมารดามีอายุ 80 ปี ส่วนยายอายุกว่าร้อยปีแล้ว สำหรับผู้สูงอายุคนอื่นๆ ก็ต้องการให้ผู้ว่าฯ ช่วยดูแลความสะดวก เช่น การขึ้นรถโดยสารฟรี
