“เฉลิม” ปากหวานรักข้าราชการ สธ.เลือกได้จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการอีก ชมเปาะ “วิทยา” รมว.สธ.ใหม่ เป็นคนดี มีมารยาท จะไม่ขออภิปรายในสภา ช่วยให้กินได้นอนหลับ ฝากสานงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมปัดเป็นผู้นำฝ่ายค้าน อ้างคุณสมบัติไม่พอ ไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะบารมีไม่ถึง
เวลา 16.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.สาธารณสุข ได้แถลงอำลาตำแหน่ง พร้อมกับ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ผู้บริหารระดับสูงวน สธ.ข้าราชการ มอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ โดย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.เป็นตัวแทนพร้อมพระพุทธรูปประจำกระทรวงเป็นที่ระลึก
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วันนี้ประทับใจมาก เพราะข้าราชการมาส่ง มากกว่าตอนที่มาต้อนรับที่เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขใหม่ๆ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้มาทำงานที่ สธ.โชคดีที่การทำหน้าที่ที่ผ่านมา ไม่เคยมีม็อบมาประท้วง แพทย์ชนบทไม่ออกมาเคลื่อนไหว ทำงานกับปลัดก็เป็นคนที่มีระเบียบวินัย คล่องแคล่ว คล่องตัว วันนี้จึงไม่อยากบอกว่าเป็นการอำลา เพราะหากลาแล้วจะกลับมายาก ดังนั้น หากมีโอกาสสามารถเลือกได้ ก็อยากมาทำงานให้ สธ.ต่อไป แต่แค่ข้าราชการ สธ.คิดถึงเมื่อจากไป ก็ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ดีใจกับ สธ.ที่ได้นายวิทยา แก้วภราดัย มาเป็น รมว.สธ.คนใหม่ เพราะเป็นคนดี รู้จักคุ้นเคยกันมานาน ตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจกองปราบปราม ซึ่ง นายวิทยา สนิทสนมกับนายสุธรรม แสงประทุม และเป็นทีมงานเดียวกับ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายวิทยา เป็นคนดี มีมารยาท และให้ความเคารพนับถือตนเองมาโดยตลอด
“การทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในสภา ผมจะขอไม่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายวิทยา เพราะรักข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข แค่ผมไม่วิพากษ์วิจารณ์แค่นี้ ท่านก็คงกินได้นอนหลับแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาที่ สธ.อีก พร้อมกันนี้อยากฝากนโยบายเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้ดำเนินการไปครึ่งหนึ่งแล้ว เหลือแต่มาสานต่อเท่านั้น”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงมติพรรคเพื่อไทย ที่ลงมติให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ตนเองไม่พร้อมจะทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ถ้าทำหน้าที่ชั่วคราวก็ยินดี ทั้งนี้ ยังไม่ทราบมติพรรคเพื่อไทยที่มอบหมายให้ตนเองทำหน้าที่นี้ ซึ่งตนคงไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 110 วรรค 1 ระบุว่า ผู้นำฝ่ายค้านจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีเสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสภา ไม่มีสมาชิกร่วมรัฐบาล และต้องเป็น ส.ส.แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามวรรค 1 ให้พิจารณาคนทำหน้าที่แทนชั่วคราว ดังนั้น ตนจึงรับเป็นเพียงตัวแทนผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อปฏิบัติหน้าที่อภิปรายในสภาเท่านั้น
“หากพิจารณาในพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็น ส.ส.พรรคอาจมอบหมายให้ผมทำหน้าที่เป็นตัวแทนฝ่ายค้าน แต่ไม่ใช่ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งมีหน้าที่อภิปรายในนามพรรค ประสานงานระหว่างพรรคฝ่ายค้าน อีกทั้งผมก็มีบารมีไม่ถึง ความเป็นอาวุโสในพรรคน้อยที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย แต่หากนับประสบการณ์ทางการเมือง ก็ถือว่าเป็นผู้แทนมาหลายสมัย มีทักษะในการอภิปรายในสภา”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เวลา 16.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.สาธารณสุข ได้แถลงอำลาตำแหน่ง พร้อมกับ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ผู้บริหารระดับสูงวน สธ.ข้าราชการ มอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ โดย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.เป็นตัวแทนพร้อมพระพุทธรูปประจำกระทรวงเป็นที่ระลึก
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วันนี้ประทับใจมาก เพราะข้าราชการมาส่ง มากกว่าตอนที่มาต้อนรับที่เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขใหม่ๆ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้มาทำงานที่ สธ.โชคดีที่การทำหน้าที่ที่ผ่านมา ไม่เคยมีม็อบมาประท้วง แพทย์ชนบทไม่ออกมาเคลื่อนไหว ทำงานกับปลัดก็เป็นคนที่มีระเบียบวินัย คล่องแคล่ว คล่องตัว วันนี้จึงไม่อยากบอกว่าเป็นการอำลา เพราะหากลาแล้วจะกลับมายาก ดังนั้น หากมีโอกาสสามารถเลือกได้ ก็อยากมาทำงานให้ สธ.ต่อไป แต่แค่ข้าราชการ สธ.คิดถึงเมื่อจากไป ก็ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ดีใจกับ สธ.ที่ได้นายวิทยา แก้วภราดัย มาเป็น รมว.สธ.คนใหม่ เพราะเป็นคนดี รู้จักคุ้นเคยกันมานาน ตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจกองปราบปราม ซึ่ง นายวิทยา สนิทสนมกับนายสุธรรม แสงประทุม และเป็นทีมงานเดียวกับ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายวิทยา เป็นคนดี มีมารยาท และให้ความเคารพนับถือตนเองมาโดยตลอด
“การทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในสภา ผมจะขอไม่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายวิทยา เพราะรักข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข แค่ผมไม่วิพากษ์วิจารณ์แค่นี้ ท่านก็คงกินได้นอนหลับแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาที่ สธ.อีก พร้อมกันนี้อยากฝากนโยบายเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้ดำเนินการไปครึ่งหนึ่งแล้ว เหลือแต่มาสานต่อเท่านั้น”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงมติพรรคเพื่อไทย ที่ลงมติให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ตนเองไม่พร้อมจะทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ถ้าทำหน้าที่ชั่วคราวก็ยินดี ทั้งนี้ ยังไม่ทราบมติพรรคเพื่อไทยที่มอบหมายให้ตนเองทำหน้าที่นี้ ซึ่งตนคงไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 110 วรรค 1 ระบุว่า ผู้นำฝ่ายค้านจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีเสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสภา ไม่มีสมาชิกร่วมรัฐบาล และต้องเป็น ส.ส.แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามวรรค 1 ให้พิจารณาคนทำหน้าที่แทนชั่วคราว ดังนั้น ตนจึงรับเป็นเพียงตัวแทนผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อปฏิบัติหน้าที่อภิปรายในสภาเท่านั้น
“หากพิจารณาในพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็น ส.ส.พรรคอาจมอบหมายให้ผมทำหน้าที่เป็นตัวแทนฝ่ายค้าน แต่ไม่ใช่ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งมีหน้าที่อภิปรายในนามพรรค ประสานงานระหว่างพรรคฝ่ายค้าน อีกทั้งผมก็มีบารมีไม่ถึง ความเป็นอาวุโสในพรรคน้อยที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย แต่หากนับประสบการณ์ทางการเมือง ก็ถือว่าเป็นผู้แทนมาหลายสมัย มีทักษะในการอภิปรายในสภา”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
