มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเชิญโหวตผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม-ยอดแย่แห่งปี ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ม.ค. ประกาศผลโหวต 30 เม.ย. พร้อมจ้างเอแบคโพลล์สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคทั่วประเทศ 3 พันราย ประกอบให้เห็นกันจะจะ ขณะที่สถานการณ์ผู้บริโภคปี 2551 เรื่อง “หนี้” ยังครองแชมป์ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด เหตุถูกทวงไม่เป็นธรรม ส่วน “ประกันภัย” ครองอันดับ 2 “ฟิตเนส” อันดับ 3
วันที่ 17 ธันวาคม น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเครือข่ายนักวิชาการและภาคเอกชน ในการจัดโครงการผลิตภัณฑ์ บริการ และโฆษณา ยอดเยี่ยม/ยอดแย่ประจำปี 2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ต่อสังคมในเรื่องของสิทธิผู้บริโภคและการละเมิดสิทธิผู้บริโภคและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่ให้ความเคารพต่อสิทธิผู้บริโภค โดยเชิญชวนประชาชนร่วมโหวต ด้วยแบบสอบถามหรือเข้าตอบแบบสอบถามได้ที่ www.consumerthai.org หรือเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการค้าภายใน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวฯลฯ
“นอกจากนี้ ทางมูลนิธิฯ ได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้บริโภคทั่วประเทศกว่า 3,000 ราย โดยเอแบคโพลล์เป็นผู้วิจัย เพื่อให้ทราบความคิดเห็นของผู้บริโภคอีกด้านหนึ่งด้วย โดยทางมูลนิธิฯจะประกาศผลโหวตในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทยวันที่ 30 เมษายนของทุกปี ซึ่งจะประกาศแน่นอน เพราะเป็นเรื่องจริงที่ประชาชนโหวตเข้ามาจริงๆ” น.ส.สารี กล่าว
น.ส.สารี กล่าวต่อว่า นับเป็นปีแรกที่มูลนิธิฯ จัดให้มีการโหวตดังกล่าว โดยอยากเชิญชวณให้ผู้บริโภคทั้งหลายได้ร่วมโหวตผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมและยอดแย่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ และการโฆษณาในประเทศที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค รวมถึงพฤติกรรมที่น่ายกย่องของผู้ประกอบธุรกิจในประเทศเพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการ มาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน พญาไท ราชเทวี กทม.10400 มาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 20 ม.ค.2552
น.ส.สารี กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์ผู้บริโภคประจำปี 2551 ซึ่งได้เก็บข้อมูลตั้งแต่ ธ.ค.2550 - พ.ย.2551 พบว่า มีผู้บริโภคร้องเรียนมาจำนวน 3,435 ราย โดยหมวดหนี้สินมีผู้ร้องเรียนมากสุดถึง 2,300 ราย คิดเป็น 56.95% ซึ่งเป็นเรื่องหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้นอกระบบ ทั้งนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้ง เพราะประเด็นที่ได้รับการร้องเรียนเกิดจากการติดตามทวงถามหนี้อย่างไม่เป็นธรรมจากสถาบันทางการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลอย่างเข้มงวด
“อันดับ 2 ที่มีผู้บริโภคร้องเรียนมา คือ เรื่องการประกันภัย 496 ราย ทั้งกรณีที่สัมพันธ์ประกันภัยขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถรับประกันภัย การจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้เอาประกันคู่กรณี จ่ายค่าซ่อมรถให้กับอู่คู่สัญญา หรือจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับพนักงานบริษัท รวมถึงประกันชีวิตที่ถูกบริษัทบอกล้างสัญญาอย่างไม่เป็นธรรมทั้งๆที่ได้ชำระค่าเบี้ยมานานกว่า 2 ปีแล้ว” น.ส.สารี กล่าว
น.ส.สารี กล่าวต่อว่า รองมาคือเรื่องคุณภาพการบริการ มี 217 ราย โดยเฉพาะเรื่องสถานบริการฟิตเนส ที่ร้องเรียนมามากสุดในช่วง พ.ย. เพราะมีการเปลี่ยนโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้า ถัดมาคือเรื่องอสังหาริมทรัพย์ 122 ราย, เรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ 105 ราย, เรื่องโทรคมนาคมจากการเก็บค่าบริการเสริมอัติโนมัติบริการดูดวง และเอสเอ็มเอส 59 ราย,เรื่องการละเมิดทั่วไป 54 ราย, เรื่องการสาธารณสุข 46 ราย, เรื่องสาธารณูปโภค 20 ราย, เรื่องปัญหาครอบครัว 9 ราย, เรื่องสิ่งแวดล้อม 6 ราย และเรื่องอื่นๆ 1 ราย
