xs
xsm
sm
md
lg

“คุกกี้” ในวันพ่อที่ไร้พ่อ “เจนกิจ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุกกี้ – “ลิปิการ์ กลัดสาคร” ถือกระถางธูปนำหน้าหีบศพพ่อ “เจนกิจ”
เป็นระยะเวลาหลายปีของวันที่ 5 ธันวาคม ที่เด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง จะกระวีกระวาดตื่นแต่เช้า และกระตือรือร้นเป็นพิเศษในการหอบกระเป๋าใบใหญ่ กระโดดขึ้นรถ และรอให้ผู้เป็นพ่อพาไปส่งที่โรงเรียนอย่างเคย เพราะวันนั้น เป็นวันพิเศษ ที่เธอจะได้รับแจกกระดาษสีสวยๆ จากครูประจำชั้น พร้อมคำแนะนำในการทำ “การ์ดวันพ่อ” เพื่อจะทำไปให้ผู้ชายคนที่สำคัญที่สุดในโลก แต่ในปีนี้ เด็กหญิงเล็กๆ คนนี้ คงไม่ได้มอบการ์ดให้กับมืออันอบอุ่นของพ่อของเธออีกแล้ว

เช้ามืดของวันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน เวลาราวๆ 03.30 น.เกือบทุกชีวิตของผู้รักชาติรักแผ่นดิน ที่เดินทางมาเรียกร้องประชาธิปไตยในบริเวณทำเนียบรัฐบาลกำลังหลับใหล จู่ๆ เสียงระเบิดจากอาวุธสงครามดังสนั่นขึ้น และเมื่อหมอกควันไอสังหารจางลง...ชีวิตของผู้บริสุทธิ์อีกหนึ่งชีวิตของ “เจนกิจ กลัดสาคร” ก็ดับดิ้นลงในวินาทีนั้น สังเวยแก่รัฐบาลมารครองเมือง ผู้ยอมทำทุกอย่าง กระทั่งอยู่เบื้องหลังการไล่ล่าฆ่าประชาชนผู้ต่อต้านตนอย่างไร้ศีลธรรม

ภาพชายวัยกลางคน สวมแว่น ดวงตาปิดสนิท เลือดสดๆ สีเข้มไหลทะลักท่วมจมูก ปาก ลำคอ และไหลนองเต็มหน้าอกและท้อง ภาพสุดท้ายของชายผู้ซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงคนหนึ่ง และเป็นพ่อของลูกๆ อีก 3 คน ที่จากไปพร้อมกับทิ้งภาระอันหนักอึ้งและความโศกเศร้าสุดบรรยายไว้ให้คนที่อยู่ข้างหลัง

“หนูเรียกพ่อว่าป๊า” ประโยคแรกของ ลิปิการ์ กลัดสาคร หรือ “น้องคุกกี้” ลูกสาวคนโตของเจนกิจ ที่บอกเล่าความหลังระหว่างป๊ากับเธอ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า ด้วยความที่ทั้งเธอและป๊าติดนิสัยขี้อายด้วยกันทั้งคู่ ทำให้นานๆ ครั้งในโอกาสพิเศษเท่านั้น ที่จะได้กอดกันและบอกรักซึ่งกันและกัน

“ปกติเวลาเล่นกันกับป๊า หนูจะชอบตีพุงป๊า ป๊าพุงใหญ่ หนูชอบเล่น แต่ป๊าจะขี้เขิน หนูก็ขี้อาย กอดป๊าบ้าง แต่ไม่ค่อยได้หอม ไม่กล้า” แต่แม้จะไม่ค่อยได้แสดงความรักต่อลูกมากนัก แต่เจนกิจก็มีวิธีการทำให้ลูกๆ รู้สึกว่าใกล้ชิดกับเขา

คุกกี้ เล่าว่า ทุกเช้า ป๊าจะเป็นคนขับรถไปส่งที่โรงเรียน เป็นเช่นนี้ทุกวัน แต่หากวันไหนติดภารกิจ หรือไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและไม่ได้ไปส่งเธอที่โรงเรียนด้วยตัวเอง ก็จะให้หยุดเรียน และหลังจากกลับมาโรงเรียน คุกกี้และน้องๆ ก็จะขลุกอยู่กับพ่อแม่ ดูทีวีด้วยกันบ้าง และถ้าทำการบ้านไม่ได้ พ่อก็จะเป็นคนดูให้ สอนและอธิบายให้ฟัง

“ป๊าเป็นนักกีฬาเปตอง ได้เข้าแข่งภายในจังหวัดและแข่งข้ามจังหวัดด้วย ป๊าสอนให้หนูเล่นเปตอง หนูชอบเล่นเปตอง แล้วก็ชอบเวลาที่อยู่กับป๊า แต่ป๊าไม่ชอบให้หนูเล่นนานๆ แล้วก็ไม่ชอบให้หนูเล่นบ่อย เพราะป๊าบอกว่า กลัวลูกสาวป๊ามือเจ็บ กลัวลูกสาวป๊ามือด้าน”

ทุกถ้อยคำการย้อนรำลึกถึงพ่อของคุกกี้ คือ ภาพแห่งความสุขที่เธอจะไม่มีวันได้พบพานมันอีก

คุกกี้ เล่าให้ฟังอีกด้วยว่า ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ป๊ามักจะสอนเสมอ ว่าให้เป็นคนดี ไม่ดื้อไม่ซน ตั้งใจเรียน และพร้อมจะส่งเสริมทุกด้านที่เธอสนใจ

“หนูอยากเป็นนักดนตรี ป๊าส่งเสริมมาก สนับสนุนสุดตัว หนูมีกีตาร์เป็นของตัวเองด้วย แล้วป๊าก็จะสอนให้รักประเทศ ป๊ารักในหลวง ที่บ้านก็มีรูปในหลวง เวลาป๊าไปพันธมิตร ป๊าจะบอกเสมอว่าไปปกป้องประเทศชาติ ป๊าไปถามหาความยุติธรรมจากรัฐบาล แต่ป๊าไม่ให้หนูไปด้วยเพราะรู้ว่าไม่ปลอดภัย เพราะมีข่าวยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรตลอด แต่หนูก็ไม่คิดว่าป๊าจะโดน”

เมื่อถามว่า คุกกี้พอจะเดาได้ไหม ว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้ “ป๊า” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยการยิงระเบิดใส่ผู้ชุมนุมบริเวณหน้าเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย และป๊าของคุกกี้โดนสะเก็ดระเบิดทะลุลำคอตัดเส้นเลือดใหญ่ และเสียชีวิต

เด็กหญิงวัย 11 ปี กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “รัฐบาล” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า เธอเชื่อว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของพ่อเธอ และรวมถึงผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ นั้น คือ รัฐบาล ที่ใช้เงินไปจ้าง นปช.-นปก.มายิงอาวุธสงครามใส่พันธมิตรฯแน่นอน

“หนูโกรธเขามาก หนูเกลียดมาก และหนูก็แค้นมากด้วย กับคนที่ฆ่าและสั่งฆ่าพ่อของหนู หนูอยากจะถามกลับเขาเหมือนกันว่า ถ้าเป็นพ่อเขาตาย เป็นแม่เขาตายบ้าง เขาจะรู้สึกอย่างไร เขาจะอยู่ได้อย่างไร” คุกกี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บช้ำ

ล่วงเข้าเดือนธันวาคม เมื่อถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันถือเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยนั้น น้องคุกกี้ เล่าว่า ทุกๆ ปี ที่โรงเรียนจะสอนทำการ์ดวันพ่อ

“ให้การ์ดป๊าทุกปี เพราะโรงเรียนจะสอนทำ ทำเสร็จกลับจากโรงเรียน ก็จะเอาการ์ดให้ป๊า ป๊าก็จะรับ แล้วก็กอดหนู บอกว่ารักหนู ป๊าจะเก็บการ์ดไว้ทุกใบ ป๊าไม่ค่อยบอกรักลูก แต่ทุกวันพ่อ เวลาป๊าได้การ์ด ป๊าจะบอกรักหนู”

เสียงของ น้องคุกกี้ เริ่มเศร้าลงเมื่อพูดถึงวันพ่อ เนื่องเพราะเป็นวันพ่อครั้งแรกในชีวิตของเธอ ที่ไร้เงาของพ่อ วันพ่อครั้งแรกที่ไม่มีพ่อให้กอด

“ปีนี้ หนูจะทำการ์ดเหมือนทุกปี ก็จะเอาไปวางไว้หน้ารูปป๊า เอาพวงมาลัยไปกราบป๊า บอกป๊าว่าหนูจะเป็นเด็กดี ขอให้ป๊าอย่าห่วง ให้ป๊าหลับให้สบาย หนูจะดูแลแม่กับน้องเอง หนูคิดถึงป๊ามาก ป๊าเคยบอกหนูไว้ก่อนป๊าจะโดนระเบิด บอกว่าถ้าป๊าเป็นอะไรตาย ป๊าจะมาหา ถ้าป๊ามาหา ดึกๆ ทีวีจะเปิดเอง แล้วเปิดช่องเอเอสทีวีด้วย ขอให้หนูกับแม่รู้ว่าป๊ามาหา ถึงตอนนั้นเอาข้าวเอาปลามาให้ป๊าด้วยนะ

แต่จนวันนี้ป๊าก็ไม่เคยกลับมาบ้าน หนูไม่เคยฝันถึงป๊า คิดถึงป๊ามาก ถ้าถามว่าวันพ่ออยากได้อะไรมากที่สุด หนูอยากฝันเห็นป๊า อยากเจอป๊า อยากกอดป๊าแล้วบอกว่ารักป๊าที่สุด อยากฝันถึงป๊าในวันพ่อ”

กำลังโหลดความคิดเห็น