งานฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษสมัยที่ 18 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดือดไม่น้อยเมื่อมีแฟนๆ “ผีแดง” บางกลุ่มขว้างขวดและสาดเบียร์ตรงประตูทางเข้า-ออกสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังไม่มีความคืบหน้ากรณีซื้อขาด คาร์ลอส เตเบซ
แม้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แสดงเจตนารมณ์อยากให้ คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าจอมขยันเซ็นร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างถาวร แต่การเจรจาระหว่าง เดวิด กิลล์ ประธานบริหาร (ซีอีโอ) กับ เคีย ชูรับเชียน เจ้าของบริษัทมีเดีย สปอร์ต อินเวสเมนต์ (เอ็มเอสไอ) ผู้ถือสัญญาดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา กลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อคืนวานนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 0-0 ตอน เตเบซ ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังปรากฏว่าบรรดา “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงโห่การตัดสินใจของท่านเซอร์กันระงม พร้อมตะโกนลั่น “เฟอร์กี, เฟอร์กี จับ เตเบซ เซ็นสัญญา”
ซึ่งจากการไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นภาพสุดท้ายหรือไม่ที่จะได้เห็น “เตฟ” สวมยูนิฟอร์มทีมอีกต่อไป ทำให้มีรายงานว่าแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด กลุ่มหนึ่งที่ยังปักหลักประท้วงทีมอยู่บริเวณหน้าสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนถึงเวลา 5 โมงเย็น หลังแมตช์จบไปแล้วร่วม 2 ชั่วโมง มีอารมณ์โกรธเกี้ยวถึงขั้นขว้างกระป๋องและขวดพลาสติกเบียร์บริเวณหน้าสนามรวมถึงราดเบียร์ด้วย
โดย นีล คาวานาฟ ที่เดินทางมาให้กำลังใจทีมรักเผยกับ “นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์” สื่อชั้นนำ “มันน่าอดสูสิ้นดี เตเบซ คือหนึ่งในฮีโร่ แฟนๆ ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไป สโมสรควรรับฟังตรงนี้ไว้ด้วย แม้เราจะคว้าแชมป์ได้ในวันนี้ แต่ก็เสี่ยงเหลือเกินกับการสูญเสียหนึ่งในสตาร์ประจำทีมไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่มาก”
“ความรู้สึกของแฟนๆ ทุกคนบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจน เมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ทุกคนตัดสินใจส่งเสียงโห่กัน แต่ก็มีการยืนให้ปรบมือให้เกียรติแก่ เตเบซ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เลวร้ายกว่าคือการที่ เตเบซ ไปมีข่าวอาจย้ายไปอยู่กับลิเวอร์พูล มันคงเป็นฝันร้าย เราไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เรามาที่นี่เพื่อจะบอกบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าต้องไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น” แฟนพันธุ์แท้จากเลสเตอร์เชียร์ ทิ้งท้าย
สำหรับ ลิเวอร์พูล แหล่งข่าวรายงานว่าพร้อมสอดมือยื่นข้อเสนอ 22 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) ฉก เตเบซ มาจากอ้อมอก แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งศูนย์หน้าหุ่นมะขามข้อเดียวตบท้ายถึงประเด็นนี้ “นี่เป็นวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกสำหรับผม ซึ่งผมชื่นชอบแฟนๆ (แมนฯ ยูไนเต็ด) และอยากขอบคุณพวกเขา อย่างไรก็ดี บางทีอาจต้องกล่าวคำอำลากัน มันเป็นสถานการณ์ที่ยากไม่น้อยที่ผมจะได้อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป”
แม้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แสดงเจตนารมณ์อยากให้ คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าจอมขยันเซ็นร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างถาวร แต่การเจรจาระหว่าง เดวิด กิลล์ ประธานบริหาร (ซีอีโอ) กับ เคีย ชูรับเชียน เจ้าของบริษัทมีเดีย สปอร์ต อินเวสเมนต์ (เอ็มเอสไอ) ผู้ถือสัญญาดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา กลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อคืนวานนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 0-0 ตอน เตเบซ ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังปรากฏว่าบรรดา “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงโห่การตัดสินใจของท่านเซอร์กันระงม พร้อมตะโกนลั่น “เฟอร์กี, เฟอร์กี จับ เตเบซ เซ็นสัญญา”
ซึ่งจากการไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นภาพสุดท้ายหรือไม่ที่จะได้เห็น “เตฟ” สวมยูนิฟอร์มทีมอีกต่อไป ทำให้มีรายงานว่าแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด กลุ่มหนึ่งที่ยังปักหลักประท้วงทีมอยู่บริเวณหน้าสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนถึงเวลา 5 โมงเย็น หลังแมตช์จบไปแล้วร่วม 2 ชั่วโมง มีอารมณ์โกรธเกี้ยวถึงขั้นขว้างกระป๋องและขวดพลาสติกเบียร์บริเวณหน้าสนามรวมถึงราดเบียร์ด้วย
โดย นีล คาวานาฟ ที่เดินทางมาให้กำลังใจทีมรักเผยกับ “นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์” สื่อชั้นนำ “มันน่าอดสูสิ้นดี เตเบซ คือหนึ่งในฮีโร่ แฟนๆ ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไป สโมสรควรรับฟังตรงนี้ไว้ด้วย แม้เราจะคว้าแชมป์ได้ในวันนี้ แต่ก็เสี่ยงเหลือเกินกับการสูญเสียหนึ่งในสตาร์ประจำทีมไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่มาก”
“ความรู้สึกของแฟนๆ ทุกคนบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจน เมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ทุกคนตัดสินใจส่งเสียงโห่กัน แต่ก็มีการยืนให้ปรบมือให้เกียรติแก่ เตเบซ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เลวร้ายกว่าคือการที่ เตเบซ ไปมีข่าวอาจย้ายไปอยู่กับลิเวอร์พูล มันคงเป็นฝันร้าย เราไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เรามาที่นี่เพื่อจะบอกบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าต้องไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น” แฟนพันธุ์แท้จากเลสเตอร์เชียร์ ทิ้งท้าย
สำหรับ ลิเวอร์พูล แหล่งข่าวรายงานว่าพร้อมสอดมือยื่นข้อเสนอ 22 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) ฉก เตเบซ มาจากอ้อมอก แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งศูนย์หน้าหุ่นมะขามข้อเดียวตบท้ายถึงประเด็นนี้ “นี่เป็นวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกสำหรับผม ซึ่งผมชื่นชอบแฟนๆ (แมนฯ ยูไนเต็ด) และอยากขอบคุณพวกเขา อย่างไรก็ดี บางทีอาจต้องกล่าวคำอำลากัน มันเป็นสถานการณ์ที่ยากไม่น้อยที่ผมจะได้อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป”
