“แก้วสรร” คว้าเบอร์ 12 สู้ศึกผู้ว่าฯ กทม.ในนามกลุ่มกรุงเทพใหม่ ใช้ช้างงานเป็นโลโก้ เปิดชื่อทีมงาน “ขวัญสรวง” น้องชายฝาแฝด-หมอพิษณุ ผอ.รพ.ศูนย์สุราษฎร์-แอ๊ด คาราบาว ร่วมด้วย วอนคนกรุงเทพฯเลิกแบ่งข้าง พร้อมสัญญาลูกผู้ชาย “เลือกแก้วสรร หยุดวิสาหกิจคอร์รัปชัน” ด้าน “ดร.แดน” กระเป๋าฉีกขาด 20 ล้าน สมัครผู้ว่าฯ กทม.แต่ยัน I shall return การเมืองไทยแน่นอน
เมื่อเวลา 09.25 น. นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เดินทางมาสมัครในนามกลุ่มกรุงเทพใหม่ โดยได้รับหมายเลข 12 ทั้งนี้ นายแก้วสรร กล่าวว่า กลุ่มกรุงเทพใหม่ของเรา ได้เลือกคนเก่งในสาขาต่างๆ มาเป็นทีมงาน เช่น นายภราเดช พยัฆวิเชียร อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเป็นผู้วางแผนส่งเสริมฟื้นการท่องเที่ยว นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ จะมาช่วยผลักดันด้านเกษตรชีวภาพ นายขวัญสรวง อติโพธิ อดีต ส.ว.กทม.และอาจารย์คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดูงานวิศวกรรมและผังเมือง นายยืนยง โอภากุล “แอ๊ด คาราบาว” ด้านศิลปวัฒนธรรม นพ.พิษณุ มณีโชติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์สุราษฎร์ธานี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขมือหนึ่ง ดูงานด้านสาธารณสุข และนายอภิชาติ ทองอยู่ นักพัฒนาเอกชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาธนาคารโลก และอดีตโฆษกพรรคมหาชน ดูงานด้านสาธารณะสัมพันธ์และการเมือง ส่วนงานด้านการเงินการคลัง การปฏิรูปการศึกษา และงานด้านส่งเสริมที่อยู่อาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างทาบทามผู้เสียสละ
นายแก้วสรร กล่าวว่า ทั้งนี้ ขอเปิดใจเกี่ยวกับคำตอบที่ถูกถามประจำ ว่า ไม่กลัวตัดคะแนนกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเพื่อนตนในพรรค ปชป.ก็วิตกในเรื่องนี้เช่นกัน แต่ตนอยากชี้แจงว่า ขอให้พอกันทีได้หรือไม่ คนกรุงเทพฯ ไม่ใช่ควายที่จะเอาสีไปป้ายเป็นเหลืองหรือแดง คนกรุงเทพฯ เป็นอิสรชน อย่าไปแบ่งฝ่ายแบ่งข้าง และอย่ามาแบ่งตนด้วย แต่ขอให้พิจารณาที่ผลงาน ความตั้งใจและคุณสมบัติ การเลือกตั้งจะต้องยุติความแตกแยก แบ่งสีแบ่งพรรค เพราะพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือในการทำงาน ไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาแบ่งสี
“ที่ผมอาสาตัวมาในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจที่แท้จริง จึงอยากฝากบอกไปยังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า อย่าเลือกผม เพราะผมเป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณ ส่วนคนที่ชอบคุณทักษิณ ก็อย่าเพิ่งปฏิเสธผมตั้งแต่แรก ขอให้ดูสิ่งที่ผมเสนอก่อนว่าพอใจหรือไม่ แทงใจดำหรือไม่” นายแก้วสรร กล่าว
ส่วนทีมงานที่ตอบรับมาร่วมงานด้วยนั้น ตนได้ติดต่อทาบทามตั้งแต่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ในช่วงนั้นมีการจับกลุ่มทันที และได้เสนอตัวกับพรรคประชาธิปัตย์ก่อนว่าจะร่วมมือกับผมหรือไม่ โดยตนได้พูดคุยกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ขณะที่การวางตัวรองผู้ว่าฯ นั้น ขอยังไม่เปิดเผย งานต้องมาก่อน ส่วนตำแหน่งมาทีหลัง อย่างไรก็ตาม การเมืองที่ดีต้องสามารถเอาคนเก่งมาทำงานโดยไม่ต้องลงสมัคร ไม่ต้องลง ส.ส.ก็มาทำงานได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า ปัญหาเร่งด่วนของ กทม.คืออะไร นายแก้วสรร กล่าวว่า สิ่งที่อุบาทว์ที่สุด คือ การหาเงินของนักการเมือง ซึ่งปัจจุบันการคอร์รัปชันกลายเป็นวิสาหกิจแบบวางแผนของนักการเมือง การโกงของนักการเมืองเป็นสิ่งที่กินเมืองที่สุด ซึ่งตนขอสัญญาว่า จะไม่มีคนโกงในทีมงานชุดของตน หากจับได้จะให้ออกและลงโทษด้วย ส่วนทฤษฎีที่ใครว่าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิกนั้น ตนว่าไม่จริง และถ้าให้ไปล่าเทศกิจทั้งวัน ผู้ว่าฯ กทม.ก็ไปเป็นตำรวจเลยดีกว่า
ต่อข้อถามว่า มั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้มากน้อยขนาดไหน นายแก้วสรร บอกว่า หากตัดสินใจลงแล้ว จะต้องมั่นว่ามีสิทธิ์ลุ้น ซึ่งตนก็มั่นใจตรงจุดนี้ เมื่อลงแล้วห้ามกลัวใคร ไม่ต้องหวั่นว่าคนไหนลงแล้วเสียงจะหายหรือเปล่า ทั้งนี้ ตนได้เปิดบัญชีเพื่อขอรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนมีแนวคิดจะให้บริจาคผ่านทาง sms แต่มันกลายเป็นความบัดซบมาก เพราะถ้าประชาชนส่งข้อความมา 10 บาท กสช.และโบรกเกอร์จะหักไป 7.5 บาท ถือเป็นการลิดรอนสิทธิ
นายแก้วสรร กล่าวถึงโลโก้ของกลุ่มกรุงเทพใหม่ด้วยว่าเป็นรูปช้างงาน ซึ่งหมายถึงการเมืองคือการทำงาน ไม่ใช่อำนาจ ทั้งนี้ ระบุว่ ามดตัวเล็กไป ทำงานไม่ได้ และมดมันอาจโดนดีดีทีฆ่าได้
ต่อมาเวลา 11.00 น.ที่ลานหน้าองค์พระ ศาล่าการ กทม. นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้แถลงเปิดใจว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ เนื่องจากระดมทุนไม่ทัน ยังขาดเงินทุนประมาณ 20 ล้านบาท แต่ยินดีหากผู้สมัครรายอื่นจะนำนโยบายของตนไปใช้หาเสียง และพร้อมให้การสนับสนุนหากผู้สมัครรายนั้นมีความตั้งใจจริงโดยไม่ได้มุ่งหวังตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนยังยืนยันที่จะทำงานเพื่อสังคมต่อไปและจะกลับมาใหม่อีกครั้ง “I shall return” ไม่ว่าจะเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น หรือระดับชาติ เพราะตนจะกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากตนเป็น ดร.ทางด้านเศรษฐศาสตร์