xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์เผยเหตุดับ “เจนกิจ” เหยื่อสัตว์นรก ระเบิดเจาะคอทะลุตัดเส้นเลือดใหญ่!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเจนกิจ กลัดสาคร เหยื่อระเบิดกลางที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดทะลุคอด้านซ้ายตัดเส้นเลือดใหญ่
แพทย์รามาฯ ชี้ “เจนกิจ” เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิด เสียเลือดมาก คอทะลุ โดนเส้นเลือดใหญ่ หลอดลม หลอดอาหาร ปอดช้ำ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดรักษาตัวที่ รพ.2 คน บาดเจ็บที่สมอง โพรงกระดูกด้านหน้า และแผลลึกที่สะโพก

วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ รพ.รามาธิบดี รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รองผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี พร้อมด้วย ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันแถลงข่าวผลการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บเริ่มนำส่ง รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่เวลา 03.45-05.50 น. รวมทั้งสิ้น 11 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายเจนกิจ กลัดสาคร ซึ่งเสียชีวิตหลังจากถึงโรงพยาบาล และมีผู้บาดเจ็บสาหัสต้องนอนรักษาอาการ 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าสังเกตุอาการและประเมินการผลรักษา โดยรายแรกเป็นชายอายุประมาณ 39 ปี กระดูกบริเวณใบหน้าแตกทะลุ เศษวัสดุแปลกปลอมเข้าไปฝังในโพรงกระดูกบริเวณหน้า ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายเป็นผู้หญิง อายุ52ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลลึกที่บริเวณสะโพก

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับรายแรก ผลการเอกซเรย์พบว่าเนื้อสมองช้ำเป็นจุดเล็กน้อย อาการไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นเนื้อสมองชั้นตื้นห่างจากขอบกระดูก 1-2 เซนติเมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสมองประเมินอาการ และคาดว่าอาการไม่น่าเป็นห่วง เพราะไม่มีอาการตกเลือด หรืออาการแทรกซ้อนใดๆ แพทย์ลงความเห็นว่า ยังไม่ต้องผ่าตัด ให้ใช้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นเฝ้าดูอาการว่าจะมีอาการติดเชื้อซ้ำซ้อนหรือไม่ หากไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเศษวัสดุออก ขณะนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ความจำไม่ได้รับการกระทบกระเทือนสามารถจดจำเหตุการณ์ได้

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีบริเวณสะโพกนั้นมีเศษวัสดุแปลกปลอมฝังอยู่ แพทย์ได้ล้างแผลให้และรอดูอาการ คาดว่าจะสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1-2 วัน เพราะบาดแผลไม่น่าเป็นห่วง สำหรับผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ อีก 8 ราย มีแผลลักษณะคล้ายสะเก็ดระเบิดฝัง ถลอกตามร่างกาย แขนขา สะโพก แพทย์ได้รักษาด้วยการล้างแผลและสามารถให้กลับบ้านได้

ด้าน ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตถูกนำตัวส่งมารักษาที่ห้องฉุกเฉิน รพ.รามาธิบดี เมื่อเวลา 03.50 น. โดยแจ้งว่าถูกระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาล มาประมาณ 20 นาที โดยอาการที่เห็นมีเลือดออกบริเวณปากจำนวนมาก ไม่สามารถวัดความดันโลหิตได้ แพทย์ได้เร่งช่วยชีวิต แต่อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตลงในเวลา 04.40 น. ผลจากการชันสูตรศพ พบบาดแผลเป็นรอยทะลุที่คอด้านซ้าย ขนาด 0.8-0.9 ซม. บาดแผลทะลุเข้ากล้ามเนื้อคอด้านซ้าย ทิศทางจากซ้ายไปขวา มีแผลทะลุเส้นเลือดแดงใหญ่คอด้านซ้าย ทำให้มีเลือดออกที่หลอดอาหารส่วนบน หลอดลมเหนือบริเวณกล่องเสียง ปาก จมูก พบเศษวัสดุแปลกปลอมสันนิษฐานว่าเป็นสะเก็ดระเบิด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.4 ซม.ค้างอยู่บริเวณข้างหลอดลมด้านขวา และทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหารปริมาณ 400 ลบ.ซม.

ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าวต่อว่า ผลการตรวจอวัยวะภายในพบว่า ที่เนื้อปอดมีการฟกช้ำ และมีเลือดออกกระจายเป็นหย่อมๆ ทั่วปอดทั้งสองข้าง จากการส่องกล้องจุลทรรศ์ พบว่า ถุงลมในปอดมีขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ผนังถุงลมบางจนฉีกขาดหลายแห่ง ลักษณะที่ปอดสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากแรงระเบิดระดับกลาง ไม่สูงหรือต่ำมาก ผลการตรวจอวัยวะภายในอื่นไม่พบความผิดปกติ

“แพทย์ได้สรุปสาเหตุการตายว่าเกิดจากเศษวัสดุแปลกปลอม ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสะเก็ดระเบิด บริเวณคอด้านซ้ายทะลุเข้าเส้นเลือดแดง หลอดอาหาร ทำให้เสียเลือดมากจนช็อก ประกอบกับเนื้อปอดฟกช้ำมีเลือดออก ถุงลมฉีกขาดจากแรงระเบิด ซึ่งหากแรงระเบิดระดับนี้ โดยที่อวัยวะส่วนอื่นอาจจะไม่เสียชีวิต แต่รายดังกล่าวบังเอิญโดยที่บริเวณเส้นเลือดแดงใหญ่ จึงทำให้เสียชีวิต” ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าว

ต่อข้อถามว่า เศษวัสดุที่พบในครั้งนี้ตรงกับเศษวัสดุที่เจอในบาดแผลของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.หรือไม่ ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าวว่า เปรียบเทียบเศษวัสดุแล้วพบว่าไม่เหมือนกัน ครั้งนี้เศษวัสดุมีลักษณะแข็ง เป็นเศษเล็กๆ แต่ไม่ทราบว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องส่งหลักฐานให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเป็นผู้พิสูจน์ต่อ ซึ่งขณะนี้มีกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก มาติดต่อขอหลักฐานแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลจะจัดส่งหลักฐานให้ตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะแพทย์ได้นำเศษวัสดุที่พบในบาดแผลของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ มาแสดงให้สื่อมวลชนดู โดยใส่ไว้ในซองพลาสติกใส ขนาดเศษวัสดุเล็กๆ สีดำ จำนวน 2-3 ชิ้น พร้อมทั้งได้นำฟิลม์เอ็กซเรย์ บาดแผลของผู้เสียชีวิต มาให้สื่อมวลชนดูด้วย

สำหรับบริเวณหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีญาติของนายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 20 คน ซึ่งบางคนได้เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เดินทางมารอรับศพ โดยทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า ร้องไห้ โดยที่นางปริญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยาของนายเจนกิจ ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เนื่องจากมีอาการเศร้าโศกสะเทือนใจอย่างมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไปยังศูนย์เอราวัณ กทม. ได้สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว คือผู้ได้รับบาดเจ็บ 29 ราย เสียชีวิต 1 ราย แยกรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้
- รพ.พระมงกุฏเกล้า มีผู้เข้ารับการรักษาตัว 13 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 1 ราย
- รพ.กลาง มีผู้เข้ารับการรักษาตัว 4 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 3 ราย
- รพ.วชิระพยาบาล มีผู้เข้ารับการรักษาตัว 1 ราย ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่
- รพ.รามาธิบดี มีผู้เข้ารับการรักษาตัว 11 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 2 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น