“มานิต” เร่งแก้ระบบแจ้งจ่ายทามิฟลู เผยเตรียมนำข้อมูลเชื้อดื้อยารามา หารืออนุฯหวัด

รมช.สธ.ตรวจสอบพบระบบการแจ้งข้อมูลการจ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ทราบปริมาณการใช้ยาต่อวันที่ชัดเจน ต้องปรับปรุงระบบการแจ้งข้อมูลการจ่ายยาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อใช้คำนวณการสำรองยาให้เพียงพอ เตรียมความพร้อมหากเกิดการระบาดในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ พร้อมระบุกรณีพบเชื้อดื้อยาที่รามา เตรียมนำข้อมูลให้อนุฯหวัดพิจารณาว่าจะสำรองซานามิเวียร์หรือไม่ต่อไป

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ว่า ได้มาติดตามช่องทางพิเศษที่รับตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดทุกชนิด ติดตามการใช้ยาโอเซลทามีเวียร์ และระบบการส่งข้อมูลการใช้ยาของโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ที่ส่งข้อมูลการใช้ยาผ่านองค์การเภสัชกรรม ว่า แต่ละโรงพยาบาลมีการใช้ยาเพื่อรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไปกี่เม็ด ซึ่งขณะนี้พบว่าระบบยังไม่สมบูรณ์ คงต้องมีการปรับเปลี่ยนและปรับข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าในรอบ 1 วัน ทั่วประเทศมีการจ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ไปกี่เม็ด เพื่อใช้ในการคำนวณการสำรองยาให้เพียงพอ หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งเป็นช่วงปกติที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดมากที่สุด คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

นายมานิต กล่าวต่อไปว่า ต้องปรับปรุงระบบการแจ้งข้อมูลการใช้ยาโอเซลทามีเวียร์ ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งผ่านระบบขององค์การเภสัชกรรมได้ เนื่องจากขององค์การเภสัชกรรมจะทราบแต่ยอดคงเหลือ ไม่มีลงข้อมูลยอดการใช้ยาแต่ละวัน ซึ่งยาที่เข้ามาของระบบโรงพยาบาลบางแห่ง ไม่ได้มาจากแหล่งขององค์การเภสัชกรรมเพียงแหล่งเดียว ทำให้ยอดไม่นิ่ง ต้องการปรับยอดให้นิ่ง

“สำหรับการจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศรีสัชนาลัยไม่มีปัญหา เพราะมีผู้ป่วยจำนวนน้อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่จ่ายยาโอเซลทามีเวียร์ เป็นผู้ป่วยในที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ได้มอบนโยบายว่า เมื่อตรวจพบผู้ป่วยเข้าข่าย ตามแนวทางปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรืออาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข ให้ยาโอเซลทามีเวียร์ทันที หากอาการไม่หนักให้จ่ายยาและกลับไปพักที่บ้านได้ และให้สังเกตคนในครอบครัวหากป่วยมีไข้ให้รีบมารักษาในโรงพยาบาลทันที” นายมานิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมานิต ได้กล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พบเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า จากการสุ่มตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังไม่พบเชื้อดื้อยา แต่เมื่อมีการพบในห้องทดลองของ รพ.รามาธิบดี ในวันจันทร์นี้ จะมีการนำข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมร่วมของ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข โรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 เพื่อให้นักวิชาการร่วมกันพิจารณาว่าเชื้อดื้อยาที่พบในแล็บของ รพ.รามา มีปริมาณเท่าใด แนวทางการรักษาอย่างไร และพิจารณาว่าจำเป็นต้องสำรองยาซานามิเวียร์ ซึ่งเป็นยาป้องกันการดื้อยา เพิ่มหรือไม่

นายมานิต กล่าวด้วยว่า การพบเชื้อดื้อยา ทางการแพทย์ถือว่าเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก สำหรับการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ได้กำชับสถานพยายาลและคลินิกระมัดระวังการใช้ยาอย่างเคร่งครัด ส่วนยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับเด็กชนิดแคปซูลจะแจกได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนยาโอเซลทามิเวียร์ชนิดน้ำต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการผลิต เพราะต้องพิถีพิถัน เนื่องจากมีเรื่องการตกตะกอนของตัวยาอยู่