สธ.สั่งตรวจสอบคลินิกที่รับหมอฟันเก๊รักษาคนไข้ ชี้หากพบจงใจรับเข้าทำงานมีความผิด มีโทษถึงขั้นจำคุก-ปรับ แนะประชาชนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่คลินิก ให้สังเกตป้ายชื่อและรูปหน้าห้องตรวจ ถ้าไม่ตรงกันให้ถาม และถ้าสงสัยแจ้งกองการประกอบโรคศิลปะ
จากกรณีที่ นายรัชฎาธร ลาภธนเจริญ หรือ นายธนารัชชา ทองเต็ม อายุ 20 ปี อ้างตัวเป็น ทันตแพทย์สันติ บุญเลิศเยี่ยม ทันตแพทย์ 4 โรงพยาบาลขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ไปสมัครทำงานตามคลินิก ทำให้มีผู้หลงเชื่อไปรับการรักษาหลายราย ต่อมาถูก จับกุมนั้น
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าของคลินิก ที่รับบุคคลเข้าทำงานโดยไม่ตรวจสอบเอกสาร ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้สั่งการให้กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้าตรวจสอบบุคลากรของคลินิกทันตกรรม 4 แห่ง ที่ปรากฏในข่าว ว่า ในการรับสมัครทันตแพทย์เข้าทำงาน ได้ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม ที่ออกโดยทันตแพทยสภาหรือไม่ เพราะการให้บุคคลที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพมาประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541
ทั้งนี้ ในการเปิดบริการคลินิกทำฟัน ผู้ที่ให้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือเป็นทันตแพทย์ ก่อนใช้บริการ ประชาชนผู้รับบริการสามารถตรวจสอบได้ โดยให้สังเกตที่ป้ายชื่อและรูปที่ติดบนป้ายสีน้ำเงินหน้าห้องตรวจ ถ้าเห็นว่าไม่ตรงกันให้สอบถาม และถ้าสงสัยให้แจ้งได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทรศัพท์หมายเลข 02-590- 1997
ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า โดยทั่วไปในการขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 คือ 1.มีแผนการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ได้รับอนุมัติแล้วตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง 2.มีสถานพยาบาลตามลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวง 3.มีเครื่องมือ เครื่องใช้ เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะ ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลนั้น ตามชนิดและจำนวนที่กำหนดในกระทรวง 4.มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจำนวนที่กำหนดในกระทรวง 5.ชื่อสถานพยาบาลต้องเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
สำหรับสถานพยาบาลประเภทคลินิกทันตกรรม จะต้องมีมาตรฐานดังนี้ 1.มีหน่วยทำฟัน ประกอบด้วยระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูดน้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก เก้าอี้คนไข้ เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์ 2.ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินน้ำลาย และอุปกรณ์อื่น 3.อุปกรณ์เฉพาะเช่นเดียวกับคลินิกเวชกรรม ยกเว้นชุดตรวจโรคทั่วไป และชุดให้การรักษาทั่วไป 4.อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำในการประกอบกิจการ
จากกรณีที่ นายรัชฎาธร ลาภธนเจริญ หรือ นายธนารัชชา ทองเต็ม อายุ 20 ปี อ้างตัวเป็น ทันตแพทย์สันติ บุญเลิศเยี่ยม ทันตแพทย์ 4 โรงพยาบาลขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ไปสมัครทำงานตามคลินิก ทำให้มีผู้หลงเชื่อไปรับการรักษาหลายราย ต่อมาถูก จับกุมนั้น
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าของคลินิก ที่รับบุคคลเข้าทำงานโดยไม่ตรวจสอบเอกสาร ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้สั่งการให้กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้าตรวจสอบบุคลากรของคลินิกทันตกรรม 4 แห่ง ที่ปรากฏในข่าว ว่า ในการรับสมัครทันตแพทย์เข้าทำงาน ได้ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม ที่ออกโดยทันตแพทยสภาหรือไม่ เพราะการให้บุคคลที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพมาประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541
ทั้งนี้ ในการเปิดบริการคลินิกทำฟัน ผู้ที่ให้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือเป็นทันตแพทย์ ก่อนใช้บริการ ประชาชนผู้รับบริการสามารถตรวจสอบได้ โดยให้สังเกตที่ป้ายชื่อและรูปที่ติดบนป้ายสีน้ำเงินหน้าห้องตรวจ ถ้าเห็นว่าไม่ตรงกันให้สอบถาม และถ้าสงสัยให้แจ้งได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทรศัพท์หมายเลข 02-590- 1997
ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า โดยทั่วไปในการขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 คือ 1.มีแผนการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ได้รับอนุมัติแล้วตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง 2.มีสถานพยาบาลตามลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวง 3.มีเครื่องมือ เครื่องใช้ เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะ ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลนั้น ตามชนิดและจำนวนที่กำหนดในกระทรวง 4.มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจำนวนที่กำหนดในกระทรวง 5.ชื่อสถานพยาบาลต้องเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
สำหรับสถานพยาบาลประเภทคลินิกทันตกรรม จะต้องมีมาตรฐานดังนี้ 1.มีหน่วยทำฟัน ประกอบด้วยระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูดน้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก เก้าอี้คนไข้ เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์ 2.ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินน้ำลาย และอุปกรณ์อื่น 3.อุปกรณ์เฉพาะเช่นเดียวกับคลินิกเวชกรรม ยกเว้นชุดตรวจโรคทั่วไป และชุดให้การรักษาทั่วไป 4.อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำในการประกอบกิจการ
