รมช.คลัง ไฟเขียวเพิ่มสวัสดิการ ขรก.ลูกจ้างประจำ ผู้รับบำนาญ และคนในครอบครัว เบิกค่าทำฟันได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 รายการ โดยทดรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จเบิกย้อนหลังได้ แย้มข่าวดีอีก 1 เดือน ขรก.รับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มเป็น 4 แสนบาท จากเดิม 2 แสนบาท ข้าราชการ 68,100 คน เตรียมรับเละ โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ทุ่มงบ 6,940 ล้านบาท เพื่อเพิ่มค่าครองชีพเป็น 1,500 บาท จากเดิม 1,000 บาท ไปก่อนหน้านี้
วันนี้ (30 มิ.ย.) ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้ประสานกับสำนักงานเลขาธิการทันตแพทยสภา และคณะกรรมการพิจารณากำหนดประเภท และอัตราค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ และบุคคลในครอบครัว เบิกค่ารักษาพยาบาลด้านทันตกรรมได้เพิ่มขึ้น 8 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงการคลัง ออกประกาศคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค.นี้
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า รายการอุปกรณ์และอวัยวะเทียมด้านทันตกรรม ที่จะกำหนดเพิ่ม เช่น ฟันปลอมทั้งปากแบบถอดได้ 2 ชิ้น เบิกได้ 4,400 บาท ครอบฟันแท้ เบิกได้ซี่ละ 2,100 บาท เดือยฟันเบิกได้ซี่ละ 1,000 บาท แต่เบื้องต้นผู้มีสิทธิต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน และนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกจากต้นสังกัด เพราะกรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างจัดทำโปรแกรมเพื่อรองรับการเบิกจ่าย
นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับการขยายเพดานเงินบำเหน็จดำรงชีพให้ผู้รับบำนาญ ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากเดิมอัตรา 15 เท่า ของบำนาญรายเดือน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท เป็น 15 เท่าของบำนาญรายเดือน แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
เรื่องนี้ได้เสนอ ครม.พิจารณา และมีมติเห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎกระทรวง และคาดว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จะประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมบัญชีกลางดูแลและรีบดำเนินการตอนจ่ายเงินด้วย
นายมนัส เชื่อว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎกระทรวงเรียบร้อยแล้วจะส่งร่างดังกล่าวกลับมายังกรมบัญชีกลางเพื่อยืนยัน และเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้งหากเห็นชอบจะส่งกลับมาให้กระทรวงการคลัง เพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในประกาศกฎกระทรวง และส่งไปประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
หลังจากนั้น จะเป็นขั้นตอนที่ผู้รับเบี้ยหวัด บำนาญ ที่มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ต้องตรวจสอบว่าเมื่อครั้งที่ออกจากราชการได้ขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ 15 เท่าไปแล้วจำนวนเท่าใด หากคำนวณแล้วเกิน 200,000 บาท และถูกตัดไว้ให้รับเพียง 200,000 บาท ก็สามารถยื่นขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มเติมส่วนที่ถูกตัดไว้ได้ แต่เมื่อรวมกับครั้งแรกแล้วต้องไม่เกิน 400,000 บาท นายมนัส กล่าว
โดยที่ผ่านมาที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลังเบิกจ่ายเงินงบประมาณจากงบกลางรายการเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วจำนวน 73,145 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดสรรให้กับข้าราชการบำนาญ โดยกระทรวงการคลัง ประเมินว่า หากมีการขยายเพดานวงเงินบำเหน็จดำรงชีพเป็นไม่เกิน 4 แสนบาท จะช่วยเหลือผู้รับบำเหน็จที่เดือดร้อน 68,100 คน ซึ่งต้องใช้งบดำเนินการ 6,940 ล้านบาท
ส่วนวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติ ครม.เรื่องการพิจารณาช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2551 ที่ปรับเพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราวให้กับข้าราชการระดับ 1-5 เดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 1,500 บาท
เนื่องจากกระทรวงการคลัง เห็นว่า การเพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราว เดือนละ 1,000 บาท เมื่อนำไปรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้ว ไม่เกินเดือนละ 11,700 บาท และกรณีจำนวนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้ว ไม่เกินเดือนละ 8,200 บาท ให้ข้าราชการและลูกจ้างได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวให้ถึง 8,200 บาท
