ผู้จัดการรายวัน - กรมบัญชีกลางรายงานผลเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 8 เดือนแรกของปี ส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินไปแล้ว 9.9 แสนล้านคิดเป็น 60.06%ของวงเงินงบประมาณรวม คาดสิ้นปีมียอดสูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 94%
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงินในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (ตุลาคม – พฤษภาคม 2551)ว่า มีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 996,969 ล้านบาทหรือร้อยละ 60.06 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 1,660,000 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 2.17 โดยจำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 808,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.98 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,326,271 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.90 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 188,214 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.40 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 333,729 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 6.85
สำหรับเดือนพฤษภาคม 2551 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังในเดือนนี้ทั้งสิ้น 119,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.23 ของวงเงินงบประมาณโดยรวม แต่ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ1.15 โดยจำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 108,354 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.17 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,326,271 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.88 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 11,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.48 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 333,729 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 9.05
ทั้งนี้ โครงการที่ได้งบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเอื้ออาทร, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายอำนาจ และการบำรุงรักษาระบบโครงข่ายทาง มีอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายต่อวงเงินงบประมาณร้อยละ 82.92 77.61 และ 72.29 ตามลำดับ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนการใช้จ่ายเงิน และส่งผลให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะของกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้งบประมาณหลังโอนปรับปรุงถึง 128,866.56 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายมนัสกล่าวต่อท้ายว่า ในสิ้นปีนี้คาดว่าน่าจะเบิกจ่ายได้ประมาณ 94.50% ซึ่งเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ 94%
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงินในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (ตุลาคม – พฤษภาคม 2551)ว่า มีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 996,969 ล้านบาทหรือร้อยละ 60.06 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 1,660,000 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 2.17 โดยจำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 808,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.98 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,326,271 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.90 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 188,214 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.40 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 333,729 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 6.85
สำหรับเดือนพฤษภาคม 2551 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังในเดือนนี้ทั้งสิ้น 119,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.23 ของวงเงินงบประมาณโดยรวม แต่ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ1.15 โดยจำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 108,354 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.17 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,326,271 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.88 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 11,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.48 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 333,729 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 9.05
ทั้งนี้ โครงการที่ได้งบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเอื้ออาทร, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายอำนาจ และการบำรุงรักษาระบบโครงข่ายทาง มีอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายต่อวงเงินงบประมาณร้อยละ 82.92 77.61 และ 72.29 ตามลำดับ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนการใช้จ่ายเงิน และส่งผลให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะของกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้งบประมาณหลังโอนปรับปรุงถึง 128,866.56 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายมนัสกล่าวต่อท้ายว่า ในสิ้นปีนี้คาดว่าน่าจะเบิกจ่ายได้ประมาณ 94.50% ซึ่งเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ 94%