xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเลื่อนกดปุ่มงบSML"เลี้ยบ" ส่งคนออมสินคุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลื่อนกดปุ่มแจกเงินหมื่นล้านเอสเอ็มแอล อ้างชาวบ้านทำประชาคมไม่ทัน "เลี้ยบ" ชง ครม.ดันคนออมสินนั่ง ผอ.เอสเอ็มแอล จี้ออกระเบียบสำนักนายกฯให้ถูกกฎหมาย ป้องกันข้อครหา ด้านกรมบัญชีกลางเผยยอดเบิกจ่ายงบมีนาคม 51 ต่ำกว่าปีก่อน 1.32% ทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน รมช.ระนองรักษ์จี้ผู้บริหารเร่งรัดเบิกจ่ายส่งทีมลุยหน่วยงานราชการให้มีการเบิกจ่ายโดยเร็ว

แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้กำหนดให้เลื่อนวันทำพิธีโอนเงินเข้าสู่หมู่บ้านที่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ เอสเอ็มแอล ออกไปเป็นวันที่ 29 เม.ย. จากเดิมที่กำหนดจะทำพิธีโอนเงินให้แก่หมู่บ้านประมาณ 5,000 แห่ง ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องการขยายเวลาให้แต่ละหมู่บ้านทั่วประเทศสามารถจัดทำประชาคมเพื่อกำหนดโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านให้มากขึ้น เพราะสมาชิกหมู่บ้านแต่ละแห่งไม่สามารถจัดทำประชาคมในช่วงวันเทศกาลสงกรานต์ได้ทัน เพราะแต่ละคนต่างมีภารกิจที่ต้องเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ ทำบุญ บางคนก็ไปท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ จึงไม่สามารถจัดประชาคมได้ตามที่รัฐบาลได้คาดหวังไว้

อย่างไรก็ตาม การเลื่อนกำหนดวันโอนเงินงบประมารเอสเอ็มแอลออกไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์นั้นจะไม่ทำให้รัฐบาลต้องเสียภาพลักษณ์ เพราะทุกอย่างต้องมีความพร้อมก่อนที่จะดำเนินการ แต่ก็มั่นใจว่าเมื่อหมู่บ้านของรับจัดสรรเงินงบประมาณมาแล้วจะโอนเงินงบประมาณก้อนแรกจำนวน 10,000 ล้านบาท ได้หมดภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้แน่นอน

***"เลี้ยบ" ชง ครม.คนออมสินนั่ง ผอ.
แหล่งข่าวระบุว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน เอสเอ็มแอล (สพศ.) ซึ่งคาดว่าจะทาบทามให้นายสุพจน์ อาวาท กรรมการผู้จัดการ สำนักกองทุนพัฒนาเมืองในภูมิภาค ที่อยู่ในความดูแลของธนาคารออมสิน เข้ามารับตำแหน่ง เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญการบริหารจัดการด้านชุมชน ซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันให้โครงการเอสเอ็มแอล สามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.สุรพงษ์ ยังได้เห็นชอบในประกาศแนวทางการดำเนินงานของเอสเอ็มแอล คาดว่าจะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.วันที่ 22 เม.ย.นี้ พิจารณาให้ร่างประกาศเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การดำเนินงานของ เอสเอ็มแอล มีผลทางกฎหมายและให้สอดคล้องกับแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานต่างๆ คล่องตัวและถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีคำครหาเกิดขึ้น

ขณะที่นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส กล่าวว่า ธนาคารออมสินได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารทั่วประเทศเร่งเข้าพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับหมู่บ้านเพื่อขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณในโครงการเอสเอ็มแอล โดยเบื้องต้นมีหมู่บ้านกว่า 52,000 แห่ง ที่ธนาคารออมสินต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการโอนเงินให้เพราะอยู่ใกล้พื้นที่และสาขาของธนาคาร โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารทุกคนต่างพร้อมในเรื่องนี้อยู่แล้วเพราะมีประสบการณ์จากโครงการเอสเอ็มแอลรุ่นแรก ประกอบกับเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชายและเข้าใจความต้องการของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงมั่นใจได้ว่าการให้คำแนะนำหรือการเป็นที่ปรึกษาในครั้งนี้จะทำหน้าที่ได้ดีและสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล

***ยอดเบิกจ่ายเดือน มี.ค.อืด
นายมนัส แจ่มเวหา
รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายเงินดังนี้งบประมาณประจำเดือนมีนาคม 2551 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 113,533 ล้านบาท หรือ 6.84% ของวงเงินงบประมาณ (1,660,000 ล้านบาท) ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน 1.32% จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 100,423 ล้านบาท หรือ 7.57% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,327,071 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับ 1.05% และรายจ่ายลงทุน จำนวน 13,110 ล้านบาท หรือ 3.94% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 332,929 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับ 2.49%

สำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (ตุลาคม 2550 - มีนาคม 2551) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 726,978 ล้านบาท หรือ 43.79% ของวงเงินงบประมาณ (1,660,000 ล้านบาท) สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน 1.39% และต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย 2.21% จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน 595,483 ล้านบาท หรือ 44.87% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,327,071 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับ 0.04% รายจ่ายลงทุน จำนวน 131,495 ล้านบาท หรือ 39.50% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 332,929 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับ 6.62%

หน่วยงานราชการที่มีอัตราการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สภากาชาดไทย หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญและรัฐวิสาหกิจ มีอัตราการเบิกจ่าย 80.75% 73.79% และ 61.83% ตามลำดับ ขณะที่โครงการที่ได้งบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเอื้ออาทร การประเมินผลและพัฒนารัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายอำนาจ มีอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายต่อวงเงินงบประมาณ 79.87% 68.56% และ 50.82% ตามลำดับ

นายมนัสเปิดเผยว่า ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ได้มอบนโยบายให้กรมบัญชีกลางติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้กรมบัญชีกลางจัดทีมผู้บริหารของกรมบัญชีกลางไปตรวจเยี่ยมส่วนราชการและพบปะ หัวหน้าส่วนราชการที่มีงบประมาณเป็นจำนวนมากหรือมีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย

"กรมบัญชีกลางได้จัดส่งทีมผู้บริหารไปตรวจเยี่ยมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 ซึ่งปรากฏว่า ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายและได้ให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว และทีมผู้บริหารของกรมบัญชีกลางจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมส่วนราชการอื่นๆ ต่อไป" นายมนัสกล่าวและว่า กรมบัญชีกลางได้เสนอ ครม.เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐแทนคณะกรรมการชุดเดิมซึ่งหมดวาระไปตามรัฐบาลชุดเดิม คณะกรรมการดังกล่าวจะทำหน้าที่เร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณภาครัฐให้สามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี รมว.คลังและ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ ร่วมเป็นกรรมการด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น