ทันตแพทยสภาเตือน! ดัดฟันรูปแบบใหม่ เลียนแบบใช้เครื่องมือแพทย์ ทำไม่ถูกต้องขั้นตอน สกปรก ไม่ปลอดภัย อันตรายสุดๆ เสี่ยงฟันเคลื่อน ฟันตาย เสียฟันโดยไม่จำเป็น ทำให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่น เป็นแผลถึงขั้นเป็นบาดทะยัก หลุดติดคอถึงขั้นเสียชีวิต ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี เอดส์ ชี้หมอฟันเถื่อนผิด 2 พ.ร.บ.ละเมิดวิชาชีพทันตแพทย์ สถานประกอบการไม่ได้รับอนุญาต เตือนวัยรุ่นเลิกค่านิยมดัดฟันเพราะอยากเท่ ดูคล้ายมีฐานะ หยุดทำทันทีก่อนปัญหาบานปลาย
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่สถาบันทันตกรรม ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา ทพ.ไพศาล กังวลกิจ เลขาธิการทันตแพทยสภา ทพ.สมชาย กิจสนาโยธิน กรรมการทันตแพทยสภา และทพ.ญ.ปองใจ วิรารัตน์ ทันตแพทย์จัดฟัน รพ.มหาราชนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวจัดฟันแฟชั่น อันตรายที่คาดไม่ถึง
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวว่า การจัดฟันแฟชั่นเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวัยรุ่น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งการจัดฟันแฟชั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นและไม่ใช่ทำเพื่อการรักษา อีกทั้งมีขั้นตอนในการทำที่ไม่ถูกต้อง โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดฟัน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2547 วัยรุ่นนิยมซื้อลวดเล็ก ร้อยลูกปัดสีต่างๆ เพื่อให้สวยงามมาใส่เอง ซึ่งพบว่ามีทั้งสารปรอท แคดเมียม ตะกั่ว และสารหนู เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเมื่อมีการปราบปราม สั่งห้ามผลิตและจำหน่ายลวดจัดฟันแฟชั่น ราคาลวดดัดฟันก็ถูกลงในที่สุดขายไม่ได้ แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีขายอยู่ก็ได้รับความนิยมลดลง สำหรับการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เป็นการเลียนแบบใกล้เคียงกับเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้มากขึ้น มีทั้งการใส่เครื่องมือที่ติดแน่นกับฟัน และเครื่องมือที่ถอดได้ โดยมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในระดับ 2,000-2,500 บาท
“การจัดฟันรูปแบบนี้มีการพิมพ์แบบฟันจำลอง เอาลวดที่ใช้จัดฟันมาใส่ไว้ในปากคนไข้ โดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนวิธีการ ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค การใส่เครื่องมือที่ลวดอาจดันให้ฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม หรือพลาสติกกดเหงือกทำให้เหงือกอักเสบเป็นแผล รวมทั้งการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพ ใส่แล้วอาจเป็นสนิมเกิดขึ้นในปากได้ หรืออาจติดคอ ลงไปที่ปอด เป็นอันตรายถึงชีวิตได้”นายกทันตแพทยสภากล่าว
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวต่อว่า อีกทั้งผู้จัดฟันแฟชั่นยังไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ ไม่มีความรู้ที่เพียงพอในการที่จะใส่เครื่องมือจัดฟัน ทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ต่อผู้รับบริการ ถือว่ามีความผิด มาตรา 28 ประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่มิได้รับอนุญาตโดยมิได้รับยกเว้นตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 มีโทษตามมาตรา 50 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ และมีความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ทีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
“ทันตแพทยสภาจะประสานไปยังกองการประกอบโรคศิลปะในการกวดขันดูแลสถานบริการจัดฟันเถื่อนในกรุงเทพฯและประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งให้รับผิดชอบควบคุม เข้มงวด กวดขัน ซึ่งหากพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ นอกจากนี้ยังประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเครื่องมือแพทย์โดยเครื่องมือแพทย์จะต้องขึ้นทะเบียนกับอย. ซึ่งยังไม่ทราบที่มาของเครื่องมือว่ามีการนำเข้าหรือผลิตในประเทศ นอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย” นายกทันตแพทยสภากล่าว
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวว่า ทั้งนี้หากพบว่าทันตแพทย์เป็นผู้ให้บริการจัดฟันแฟชั่น โดยไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจน ถือว่าผิดจริยธรรมทางการแพทย์ หากพบหรือมีการร้องเรียนก็สามารถดำเนินการตามมาตรฐานจรรยาบรรณแพทย์ ซึ่งมีโทษว่ากล่าวตักเตือน พักใช้ใบอนุญาต จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งหากพบจะไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน
“ฝากไปถึงวัยรุ่นที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่าคิดว่าการดัดฟันเป็นเรื่องเท่ เก๋ หรือแสดงถึงความเป็นผู้มีฐานะ หากฟันไม่ได้มีปัญหาก็ไม่ควรที่จะจัดฟัน เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ส่วนผู้รับบริการที่กำลังทำควรหยุดทันที ส่วนผู้ให้บริการก็ขอให้หยุดดำเนินการ อย่าเอาเปรียบเด็กอีก” ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าว
ทพ.ไพศาล กล่าวว่า วิธีขั้นตอนทำจะมีการใช้หัวกรอฟันที่ขรุขระออกก่อน ซึ่งทันตแพทย์จะไม่มีการกรอเอาเคลือบฟันที่ดีๆ ออกไป แล้วติดเครื่องมือให้เกิดการยึดเครื่องมือ บรักเกต (Bracket) ให้ติดกับฟันได้ มีการใช้ลวดร้อยเข้าไปในร่องของบรัคเกทแล้วใช้ยางรัดให้ลวดติดกับบรัคเกท จากนั้นจะต้องมีการพิมพ์ฟัน เพื่อทำแบบฟัน และจะมีการนัดเพื่อมาใส่เครื่องมือในอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องใส่เครื่องมือในปากซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะเครืองมือเหล่านี้ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดตามหลักการ ถุงมือที่ใช้ก็ใช้แล้วใช้อีก ซึ่งเสี่ยงต่อโรคไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี รวมถึงโรคเอชไอวีด้วย
ทพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า ผลเสียในการจัดฟันแฟชั่น นอกจากจะทำให้ฟันมีการเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม เนื่องจากเครื่องมือที่ใส่มีแรงกดจากลวดที่ใส่ ทำให้ฟันไม่เป็นระเบียบ แล้วการใส่เครื่องมือในปาก เครื่องมืออาจหลุดลงคอ บาดกระพุ้งแก้ม และเนื้อเยื่อในช่องปาก ทำให้เป็นแผล กลายเป็นบาดทะยัก นอกจากนั้นอาจกดเหงือกทำให้เหงือกอักเสบบวมแดง การมีแผลในช่องปากต่อเนื่องกันนานๆ หลายปี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเนื้อเยื่อในช่องปากได้ และหากแปรงฟันไม่ดี มีเศษอาหารและแผ่นคราบจุลินทรีย์สะสมอยู่รอบๆ เครื่องมือที่ใส่ เมื่อใส่เครื่องมือนานหลายๆ เดือน ก็อาจทำให้ฟันผุเป็นร่องลึกสีน้ำตาลรอบๆเครื่องมือที่ใส่ อีกทั้งเครื่องมือและยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่ออยู่ในช่องปากและถูกน้ำลายจะเกิดสนิม ยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารพิษปนเปื้อน และละลายออกมาเมื่อถูกน้ำลาย หากสะสมในร่างกายจะเป็นอันตรายได้
ด้าน ทพ.ญ.ปองใจ กล่าวว่า ปกติแล้วเด็กวัยรุ่นที่มีฟันเรียงตัวเป็นปกติ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ถ้ามาพบทันตแพทย์เพื่อขอใส่เครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะปฎิเสธที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันให้ เนื่องจากการจัดฟันจะต้องมีข้อบ่งชี้ในการรักษา ส่วนความสวยงามเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ดังนั้นจะต้องวิเคราะห์สภาพฟันในช่องปากด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่มีสภาพฟันผิดปกติ แต่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงว่ามีมากหรือน้อยอย่างใด ซึ่งการจัดฟันที่ไม่ถูกต้องโดยถ้าลวดกดฟันมากเกินไป จะทำให้มีอาการปวดมากจนอาจทำให้ฟันซี่นั้นตาย เปลี่ยนเป็นสีคล้ำ หรือรากฟันละลาย จะต้องรักษารากฟันหรือถอนฟันซี่นั้นๆ ทิ้งไป เป็นการสูญเสียฟันโดยใช้เหตุ
“วัยรุ่นที่จัดฟันแฟชั่นแล้วต้องมาพบแพทย์ มักจะมีอาการเหงือกอักเสบ มีกลิ่น ซึ่งแพทย์จะต้องรื้อฟันแฟชั่นออก มีผลเสียตามมามากมาย อีกทั้งขณะนี้แม้จะไม่มีตัวเลขผู้ที่มีปัญหาแต่พบว่ามีการรักษาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” ทพ.ญ.ปองใจ กล่าว
ทั้งนี้ จากเอกสารอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม ทันตแพทยสภา พบข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่า มีการให้แสดงความคิดเห็นและลงโฆษณาเชื่อชวนให้วัยรุ่นจัดฟันแบบแฟชั่น พร้อมให้เบอร์ติดต่อ นอกจากนี้ยังมีการประกาศรับสอนการประกาศจัดฟันแฟชั่น บริการรับพิมพ์ฟันถึงบ้าน มีการจัดส่งเครื่องมือจัดฟันที่ทำแล้วถึงบ้านทางไปรษณีย์ สามารถสั่งซื้อลวดจัดฟันอุปกรณ์ จัดส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ จากการสำรวจสถานที่จัดฟันแฟชั่นพบว่าได้รับความนิยมมาก บางแห่งมีการใช้บริการตลอดเวลาต้องรอคิว
สถานที่ที่พบว่ามีการจัดทำดังกล่าวเป็นตลาดนัด แหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง เช่น วังหลัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แฟชั่นมอลล์ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว อิมพีเรียลสำโรง ฯลฯ ซึ่งแหล่งรับจัดฟันแฟชั่นที่ผิดกฎหมายนี้มีกระจายอยู่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่สถาบันทันตกรรม ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา ทพ.ไพศาล กังวลกิจ เลขาธิการทันตแพทยสภา ทพ.สมชาย กิจสนาโยธิน กรรมการทันตแพทยสภา และทพ.ญ.ปองใจ วิรารัตน์ ทันตแพทย์จัดฟัน รพ.มหาราชนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวจัดฟันแฟชั่น อันตรายที่คาดไม่ถึง
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวว่า การจัดฟันแฟชั่นเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวัยรุ่น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งการจัดฟันแฟชั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นและไม่ใช่ทำเพื่อการรักษา อีกทั้งมีขั้นตอนในการทำที่ไม่ถูกต้อง โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดฟัน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2547 วัยรุ่นนิยมซื้อลวดเล็ก ร้อยลูกปัดสีต่างๆ เพื่อให้สวยงามมาใส่เอง ซึ่งพบว่ามีทั้งสารปรอท แคดเมียม ตะกั่ว และสารหนู เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเมื่อมีการปราบปราม สั่งห้ามผลิตและจำหน่ายลวดจัดฟันแฟชั่น ราคาลวดดัดฟันก็ถูกลงในที่สุดขายไม่ได้ แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีขายอยู่ก็ได้รับความนิยมลดลง สำหรับการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เป็นการเลียนแบบใกล้เคียงกับเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้มากขึ้น มีทั้งการใส่เครื่องมือที่ติดแน่นกับฟัน และเครื่องมือที่ถอดได้ โดยมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในระดับ 2,000-2,500 บาท
“การจัดฟันรูปแบบนี้มีการพิมพ์แบบฟันจำลอง เอาลวดที่ใช้จัดฟันมาใส่ไว้ในปากคนไข้ โดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนวิธีการ ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค การใส่เครื่องมือที่ลวดอาจดันให้ฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม หรือพลาสติกกดเหงือกทำให้เหงือกอักเสบเป็นแผล รวมทั้งการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพ ใส่แล้วอาจเป็นสนิมเกิดขึ้นในปากได้ หรืออาจติดคอ ลงไปที่ปอด เป็นอันตรายถึงชีวิตได้”นายกทันตแพทยสภากล่าว
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวต่อว่า อีกทั้งผู้จัดฟันแฟชั่นยังไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ ไม่มีความรู้ที่เพียงพอในการที่จะใส่เครื่องมือจัดฟัน ทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ต่อผู้รับบริการ ถือว่ามีความผิด มาตรา 28 ประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่มิได้รับอนุญาตโดยมิได้รับยกเว้นตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 มีโทษตามมาตรา 50 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ และมีความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ทีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
“ทันตแพทยสภาจะประสานไปยังกองการประกอบโรคศิลปะในการกวดขันดูแลสถานบริการจัดฟันเถื่อนในกรุงเทพฯและประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งให้รับผิดชอบควบคุม เข้มงวด กวดขัน ซึ่งหากพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ นอกจากนี้ยังประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเครื่องมือแพทย์โดยเครื่องมือแพทย์จะต้องขึ้นทะเบียนกับอย. ซึ่งยังไม่ทราบที่มาของเครื่องมือว่ามีการนำเข้าหรือผลิตในประเทศ นอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย” นายกทันตแพทยสภากล่าว
ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าวว่า ทั้งนี้หากพบว่าทันตแพทย์เป็นผู้ให้บริการจัดฟันแฟชั่น โดยไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจน ถือว่าผิดจริยธรรมทางการแพทย์ หากพบหรือมีการร้องเรียนก็สามารถดำเนินการตามมาตรฐานจรรยาบรรณแพทย์ ซึ่งมีโทษว่ากล่าวตักเตือน พักใช้ใบอนุญาต จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งหากพบจะไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน
“ฝากไปถึงวัยรุ่นที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่าคิดว่าการดัดฟันเป็นเรื่องเท่ เก๋ หรือแสดงถึงความเป็นผู้มีฐานะ หากฟันไม่ได้มีปัญหาก็ไม่ควรที่จะจัดฟัน เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ส่วนผู้รับบริการที่กำลังทำควรหยุดทันที ส่วนผู้ให้บริการก็ขอให้หยุดดำเนินการ อย่าเอาเปรียบเด็กอีก” ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล กล่าว
ทพ.ไพศาล กล่าวว่า วิธีขั้นตอนทำจะมีการใช้หัวกรอฟันที่ขรุขระออกก่อน ซึ่งทันตแพทย์จะไม่มีการกรอเอาเคลือบฟันที่ดีๆ ออกไป แล้วติดเครื่องมือให้เกิดการยึดเครื่องมือ บรักเกต (Bracket) ให้ติดกับฟันได้ มีการใช้ลวดร้อยเข้าไปในร่องของบรัคเกทแล้วใช้ยางรัดให้ลวดติดกับบรัคเกท จากนั้นจะต้องมีการพิมพ์ฟัน เพื่อทำแบบฟัน และจะมีการนัดเพื่อมาใส่เครื่องมือในอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องใส่เครื่องมือในปากซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะเครืองมือเหล่านี้ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดตามหลักการ ถุงมือที่ใช้ก็ใช้แล้วใช้อีก ซึ่งเสี่ยงต่อโรคไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี รวมถึงโรคเอชไอวีด้วย
ทพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า ผลเสียในการจัดฟันแฟชั่น นอกจากจะทำให้ฟันมีการเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม เนื่องจากเครื่องมือที่ใส่มีแรงกดจากลวดที่ใส่ ทำให้ฟันไม่เป็นระเบียบ แล้วการใส่เครื่องมือในปาก เครื่องมืออาจหลุดลงคอ บาดกระพุ้งแก้ม และเนื้อเยื่อในช่องปาก ทำให้เป็นแผล กลายเป็นบาดทะยัก นอกจากนั้นอาจกดเหงือกทำให้เหงือกอักเสบบวมแดง การมีแผลในช่องปากต่อเนื่องกันนานๆ หลายปี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเนื้อเยื่อในช่องปากได้ และหากแปรงฟันไม่ดี มีเศษอาหารและแผ่นคราบจุลินทรีย์สะสมอยู่รอบๆ เครื่องมือที่ใส่ เมื่อใส่เครื่องมือนานหลายๆ เดือน ก็อาจทำให้ฟันผุเป็นร่องลึกสีน้ำตาลรอบๆเครื่องมือที่ใส่ อีกทั้งเครื่องมือและยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่ออยู่ในช่องปากและถูกน้ำลายจะเกิดสนิม ยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารพิษปนเปื้อน และละลายออกมาเมื่อถูกน้ำลาย หากสะสมในร่างกายจะเป็นอันตรายได้
ด้าน ทพ.ญ.ปองใจ กล่าวว่า ปกติแล้วเด็กวัยรุ่นที่มีฟันเรียงตัวเป็นปกติ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ถ้ามาพบทันตแพทย์เพื่อขอใส่เครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะปฎิเสธที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันให้ เนื่องจากการจัดฟันจะต้องมีข้อบ่งชี้ในการรักษา ส่วนความสวยงามเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ดังนั้นจะต้องวิเคราะห์สภาพฟันในช่องปากด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่มีสภาพฟันผิดปกติ แต่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงว่ามีมากหรือน้อยอย่างใด ซึ่งการจัดฟันที่ไม่ถูกต้องโดยถ้าลวดกดฟันมากเกินไป จะทำให้มีอาการปวดมากจนอาจทำให้ฟันซี่นั้นตาย เปลี่ยนเป็นสีคล้ำ หรือรากฟันละลาย จะต้องรักษารากฟันหรือถอนฟันซี่นั้นๆ ทิ้งไป เป็นการสูญเสียฟันโดยใช้เหตุ
“วัยรุ่นที่จัดฟันแฟชั่นแล้วต้องมาพบแพทย์ มักจะมีอาการเหงือกอักเสบ มีกลิ่น ซึ่งแพทย์จะต้องรื้อฟันแฟชั่นออก มีผลเสียตามมามากมาย อีกทั้งขณะนี้แม้จะไม่มีตัวเลขผู้ที่มีปัญหาแต่พบว่ามีการรักษาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” ทพ.ญ.ปองใจ กล่าว
ทั้งนี้ จากเอกสารอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม ทันตแพทยสภา พบข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่า มีการให้แสดงความคิดเห็นและลงโฆษณาเชื่อชวนให้วัยรุ่นจัดฟันแบบแฟชั่น พร้อมให้เบอร์ติดต่อ นอกจากนี้ยังมีการประกาศรับสอนการประกาศจัดฟันแฟชั่น บริการรับพิมพ์ฟันถึงบ้าน มีการจัดส่งเครื่องมือจัดฟันที่ทำแล้วถึงบ้านทางไปรษณีย์ สามารถสั่งซื้อลวดจัดฟันอุปกรณ์ จัดส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ จากการสำรวจสถานที่จัดฟันแฟชั่นพบว่าได้รับความนิยมมาก บางแห่งมีการใช้บริการตลอดเวลาต้องรอคิว
สถานที่ที่พบว่ามีการจัดทำดังกล่าวเป็นตลาดนัด แหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง เช่น วังหลัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แฟชั่นมอลล์ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว อิมพีเรียลสำโรง ฯลฯ ซึ่งแหล่งรับจัดฟันแฟชั่นที่ผิดกฎหมายนี้มีกระจายอยู่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดทั่วประเทศ