ทันตแพทยสภา ชง อย.ออกประกาศคุมขายเครื่องมือจัดฟันต้องขายให้ทันตแพทย์เท่านั้น คาดมีผลบังคับ ก.ย.นี้ แฉมีโฆษณา “ดัดฟันแฟชั่น” เกลื่อน 5.7 หมื่นเว็บ แถมเปิดสอนวันเดียวทำธุรกิจจัดฟันครบวงจร แนวโน้มธุรกิจกำลังบูมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รายได้จูงใจต่อวัน 1-2 หมื่นบาท ต่อเดือนเหยียบแสน เตือนจัดฟันใช้ของด้อยคุณภาพระยะยาวเสี่ยงเป็นมะเร็ง
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ทันตแพทยสภาได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531 เพื่อออกประกาศสำหรับการควบคุมเครื่องมือแพทย์ที่ต้องจำหน่ายให้โดยแพทย์เท่านั้น โดยผู้ที่นำเข้าและจำหน่ายต้องทำรายงานส่งมายัง อย.ว่าจำหน่ายให้กับผู้ใดบ้าง วัสดุต่างๆ จะต้องมีการควบคุมเหมือนกับยาควบคุมพิเศษที่แพทย์ผู้มีความรู้เป็นผู้สั่งซื้อนำมาใช้ได้เท่านั้น นอกจากนี้ ได้ประสานกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ.ให้เข็มงวดในการจับกุมคลินิกทำฟันเถื่อน ที่มีอยู่กว่า 400 แห่งใน กทม.
ด้าน ทพ.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านทันตกรรม ทันตแพทยสภา กล่าวว่า การออกประกาศควบคุมเครื่องมือแพทย์สำหรับทันตแพทย์ เบื้องต้นเครื่องมือทางทันตกรรมที่เสนอให้มีการควบคุม คือ ยางสีสำหรับรัดฟันกับลวดดัดฟัน, ลวดดัดฟัน, ตัวพิมพ์แบบฟัน, เครื่องฉายแสง, กาวที่ใช้ยึดตัวเหล็กจัดฟัน คาดว่า จะมีบังคับใช้ประมาณเดือน ก.ย.นี้
“ที่ผ่านมา มีคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ 1/2549 เรื่อง ห้ามขายสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท แต่ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวไม่มีความชัดเจน เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการอย่างจริงจังทำให้ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ดังนั้น จึงได้ประสานกับ อย.เพื่อให้มีการออกกฎระเบียบในการควบคุมเรื่องช่องทางการนำเข้าเครื่องมือเหล่านี้อีกช่องทางนอกเหนือจาก สคบ.” ทพ.ธงชัย กล่าว
ทพ.ธงชัย กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจการจัดฟันแฟชั่นล่าสุดจากที่มีการเก็บข้อมูล พบว่า มีการโฆษณารับทำจัดฟันแฟชั่น ขายเครื่องมืออุปกรณ์ รับสอนจัดฟัน เปิดเป็นธุรกิจ พร้อมทั้งมีกระทู้ถามตอบแนะนำร้านที่รับจัดฟันแฟชั่น เฉพาะแค่ในเว็บไซต์กูเกิล มีมากถึง 57,600 เว็บ พร้อมยังโฆษณาอีกว่า ใช้ลวดและเครื่องมือแพทย์เหมือนที่ทันตแพทย์ใช้ ไม่ทำลายผิวฟัน ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นอันตรายใดๆ สามารถเลือกสีของลวดหรือยางได้ รูปร่างของยางที่มีทั้งรูปมิคกี้เมาส์ รูปดอกไม้ รูปสีและลายต่างๆ พร้อมยังเปลี่ยนยางให้ฟรี 3 เดือนแรก หรือรับพิมพ์ปากถึงที่บ้าน และส่งเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ทำสำเร็จทางไปรษณีย์ด้วย
ทพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบางเว็บไซด์ ที่มีตัวแทนจำหน่ายสามารถสั่งซื้อลวดจัดฟัน ยางสี และอุปกรณ์จัดฟันทางไปรษณีย์ แถมยังโฆษณาโอ้อวดว่าไม่ต้องเรียน มีคู่มือทำได้เอง บริการจัดส่งทั่วประเทศ หรือรับสอนการจัดฟันแฟชั่นทั่วราชอาณาจักรอย่างถึงที่ คิดค่าสอน 6,900 บาทเรียนวันเดียวทำได้ และให้คำแนะนำช่วยเหลือการเปิดกิจการจัดฟันแฟชั่น ซึ่งนับว่าธุรกิจการจัดฟันแฟชั่นเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์มหาศาลมีแรงจูงใจ ที่พบว่า มีรายรับวันละ 1-2 หมื่นบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีคุณภาพต่ำราคาถูกแล้วจะมีกำไรต่อเดือนประมาณหลักแสนบาท
“ทันตแพทยสภามีความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการจัดการกับเว็บไซด์เหล่านี้ได้ ส่วนที่มีพบเห็นกันและสามารถจัดการได้ แต่ด้วยอำนาจของทันตแพทยสภาไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้เอง ต้องอาศัยกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ในการดำเนินการกับสถานพยาบาลเถื่อนเหล่านี้ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจจับได้”ทพ.ธงชัย กล่าว
ทพ.ธงชัย กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลคาดว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีธุรกิจจัดฟันแฟชั่นที่เปิดเป็นหลักแหล่งประมาณนับหมื่นแห่ง มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะใน กทม.มีประมาณหลายพันแห่ง โดยพบในบริเวณ ห้างแฟชั่นมอลล์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และร้านค้าแถวย่านตลาดวังหลัง พบร้านจัดฟันแฟชั่นลักษณะแผงลอย ร้านเช่าในอาคารพาณิชย์ มีวัยรุ่นมาใช้บริการมาก จากการประมาณการคาดว่าในแต่ละวันมีวัยรุ่นมาใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ราย ส่วนในภูมิภาคพบแต่ในจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีคณะทันตแพทยศาสตร์ อาทิ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ โดยพฤติกรรมของธุรกิจเหล่านี้จะเปิด 1-2 เดือนและย้ายสถานที่ไปเปิดแห่งอื่นที่ยากต่อการติดตามจับกุม
“ในป้ายโฆษณาหน้าร้านบอกว่ารับจัดฟันแฟชั่น 800-1,200 บาทต่อ 1 ชิ้น ทั้งปากประมาณ 1,600-2,400 บาท แต่เมื่อเข้าไปทำก็จะมีการแบ่งคุณภาพของอุปกรณ์ หากเกรดเอก็จะเสียเงินเพิ่มอีก โดยบางรายทำเสร็จเสียเงิน 4,000-5,000 บาท อีกทั้งอุปกรณ์ที่บอกว่าเป็นเกรดเอนั้น ก็ไม่มีคุณภาพและเสี่ยงต่ออันตรายทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นด้วย” ทพ.ธงชัย กล่าว
ด้าน ท.พญ.นฤมล ทวีเศรษฐ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หากต้องการจัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ ทั้งนี้ หากทันตแพทย์ไม่เห็นสมควรว่าจะต้องจัดฟันก็ไม่แนะนำให้ไปหาการจัดฟันแฟชั่นเถื่อนเหล่านี้ เพราะจะมีผลกระทบกับร่างกายอย่างมาก ไม่ว่าโลหะหนักจากลวด เช่นสารตะกั่ว โครเมียม สารหนู ตกค้างในร่างกายต่อเซลล์ต่างๆ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง จะเห็นผลใน 5-10 ปี
“จากการรักษาพบว่ามีวัยรุ่นมาให้ช่วยถอดอุปกรณ์ที่ติดกับฟันออกเกือบทุกวัน โดยรายหนักๆที่พบ คือ เจ็บจนทนไม่ไหว เนื่องจากลวดทิ่มกับเหงือกเกิดอาการบวมอักเสบ อย่างไรก็ตามหากจะไปพบทันตแพทย์ให้สังเกตป้ายหน้าร้านว่าเป็นคลินิกทันตกรรม รวมถึงดูรายชื่อทันตแพทย์หน้าห้องทำฟันพร้อมทั้งเลขใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาตรวจสอบกับเว็บไซต์www.dentalcouncil.or.th หรือโทร.สอบถาม 02-9510420-1” ท.พญ.นฤมล กล่าว
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ทันตแพทยสภาได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531 เพื่อออกประกาศสำหรับการควบคุมเครื่องมือแพทย์ที่ต้องจำหน่ายให้โดยแพทย์เท่านั้น โดยผู้ที่นำเข้าและจำหน่ายต้องทำรายงานส่งมายัง อย.ว่าจำหน่ายให้กับผู้ใดบ้าง วัสดุต่างๆ จะต้องมีการควบคุมเหมือนกับยาควบคุมพิเศษที่แพทย์ผู้มีความรู้เป็นผู้สั่งซื้อนำมาใช้ได้เท่านั้น นอกจากนี้ ได้ประสานกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ.ให้เข็มงวดในการจับกุมคลินิกทำฟันเถื่อน ที่มีอยู่กว่า 400 แห่งใน กทม.
ด้าน ทพ.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านทันตกรรม ทันตแพทยสภา กล่าวว่า การออกประกาศควบคุมเครื่องมือแพทย์สำหรับทันตแพทย์ เบื้องต้นเครื่องมือทางทันตกรรมที่เสนอให้มีการควบคุม คือ ยางสีสำหรับรัดฟันกับลวดดัดฟัน, ลวดดัดฟัน, ตัวพิมพ์แบบฟัน, เครื่องฉายแสง, กาวที่ใช้ยึดตัวเหล็กจัดฟัน คาดว่า จะมีบังคับใช้ประมาณเดือน ก.ย.นี้
“ที่ผ่านมา มีคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ 1/2549 เรื่อง ห้ามขายสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท แต่ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวไม่มีความชัดเจน เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการอย่างจริงจังทำให้ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ดังนั้น จึงได้ประสานกับ อย.เพื่อให้มีการออกกฎระเบียบในการควบคุมเรื่องช่องทางการนำเข้าเครื่องมือเหล่านี้อีกช่องทางนอกเหนือจาก สคบ.” ทพ.ธงชัย กล่าว
ทพ.ธงชัย กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจการจัดฟันแฟชั่นล่าสุดจากที่มีการเก็บข้อมูล พบว่า มีการโฆษณารับทำจัดฟันแฟชั่น ขายเครื่องมืออุปกรณ์ รับสอนจัดฟัน เปิดเป็นธุรกิจ พร้อมทั้งมีกระทู้ถามตอบแนะนำร้านที่รับจัดฟันแฟชั่น เฉพาะแค่ในเว็บไซต์กูเกิล มีมากถึง 57,600 เว็บ พร้อมยังโฆษณาอีกว่า ใช้ลวดและเครื่องมือแพทย์เหมือนที่ทันตแพทย์ใช้ ไม่ทำลายผิวฟัน ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นอันตรายใดๆ สามารถเลือกสีของลวดหรือยางได้ รูปร่างของยางที่มีทั้งรูปมิคกี้เมาส์ รูปดอกไม้ รูปสีและลายต่างๆ พร้อมยังเปลี่ยนยางให้ฟรี 3 เดือนแรก หรือรับพิมพ์ปากถึงที่บ้าน และส่งเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ทำสำเร็จทางไปรษณีย์ด้วย
ทพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบางเว็บไซด์ ที่มีตัวแทนจำหน่ายสามารถสั่งซื้อลวดจัดฟัน ยางสี และอุปกรณ์จัดฟันทางไปรษณีย์ แถมยังโฆษณาโอ้อวดว่าไม่ต้องเรียน มีคู่มือทำได้เอง บริการจัดส่งทั่วประเทศ หรือรับสอนการจัดฟันแฟชั่นทั่วราชอาณาจักรอย่างถึงที่ คิดค่าสอน 6,900 บาทเรียนวันเดียวทำได้ และให้คำแนะนำช่วยเหลือการเปิดกิจการจัดฟันแฟชั่น ซึ่งนับว่าธุรกิจการจัดฟันแฟชั่นเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์มหาศาลมีแรงจูงใจ ที่พบว่า มีรายรับวันละ 1-2 หมื่นบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีคุณภาพต่ำราคาถูกแล้วจะมีกำไรต่อเดือนประมาณหลักแสนบาท
“ทันตแพทยสภามีความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการจัดการกับเว็บไซด์เหล่านี้ได้ ส่วนที่มีพบเห็นกันและสามารถจัดการได้ แต่ด้วยอำนาจของทันตแพทยสภาไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้เอง ต้องอาศัยกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ในการดำเนินการกับสถานพยาบาลเถื่อนเหล่านี้ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจจับได้”ทพ.ธงชัย กล่าว
ทพ.ธงชัย กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลคาดว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีธุรกิจจัดฟันแฟชั่นที่เปิดเป็นหลักแหล่งประมาณนับหมื่นแห่ง มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะใน กทม.มีประมาณหลายพันแห่ง โดยพบในบริเวณ ห้างแฟชั่นมอลล์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และร้านค้าแถวย่านตลาดวังหลัง พบร้านจัดฟันแฟชั่นลักษณะแผงลอย ร้านเช่าในอาคารพาณิชย์ มีวัยรุ่นมาใช้บริการมาก จากการประมาณการคาดว่าในแต่ละวันมีวัยรุ่นมาใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ราย ส่วนในภูมิภาคพบแต่ในจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีคณะทันตแพทยศาสตร์ อาทิ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ โดยพฤติกรรมของธุรกิจเหล่านี้จะเปิด 1-2 เดือนและย้ายสถานที่ไปเปิดแห่งอื่นที่ยากต่อการติดตามจับกุม
“ในป้ายโฆษณาหน้าร้านบอกว่ารับจัดฟันแฟชั่น 800-1,200 บาทต่อ 1 ชิ้น ทั้งปากประมาณ 1,600-2,400 บาท แต่เมื่อเข้าไปทำก็จะมีการแบ่งคุณภาพของอุปกรณ์ หากเกรดเอก็จะเสียเงินเพิ่มอีก โดยบางรายทำเสร็จเสียเงิน 4,000-5,000 บาท อีกทั้งอุปกรณ์ที่บอกว่าเป็นเกรดเอนั้น ก็ไม่มีคุณภาพและเสี่ยงต่ออันตรายทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นด้วย” ทพ.ธงชัย กล่าว
ด้าน ท.พญ.นฤมล ทวีเศรษฐ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หากต้องการจัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ ทั้งนี้ หากทันตแพทย์ไม่เห็นสมควรว่าจะต้องจัดฟันก็ไม่แนะนำให้ไปหาการจัดฟันแฟชั่นเถื่อนเหล่านี้ เพราะจะมีผลกระทบกับร่างกายอย่างมาก ไม่ว่าโลหะหนักจากลวด เช่นสารตะกั่ว โครเมียม สารหนู ตกค้างในร่างกายต่อเซลล์ต่างๆ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง จะเห็นผลใน 5-10 ปี
“จากการรักษาพบว่ามีวัยรุ่นมาให้ช่วยถอดอุปกรณ์ที่ติดกับฟันออกเกือบทุกวัน โดยรายหนักๆที่พบ คือ เจ็บจนทนไม่ไหว เนื่องจากลวดทิ่มกับเหงือกเกิดอาการบวมอักเสบ อย่างไรก็ตามหากจะไปพบทันตแพทย์ให้สังเกตป้ายหน้าร้านว่าเป็นคลินิกทันตกรรม รวมถึงดูรายชื่อทันตแพทย์หน้าห้องทำฟันพร้อมทั้งเลขใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาตรวจสอบกับเว็บไซต์www.dentalcouncil.or.th หรือโทร.สอบถาม 02-9510420-1” ท.พญ.นฤมล กล่าว