“เฉลิม” เอาใจรากหญ้า ขึ้นเงิน อสม.ให้ อสม.หมู่บ้านละ 30,000 บาท พร้อมดัน พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขรองรับสถานภาพ อสม.แถมขึ้นค่าตอบแทนหมอชนบท คุยทำงานตามนโยบายที่ให้ไว้ทุกเรื่อง มั่นใจเลือกตั้งใหม่ชนะขาด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ได้เสนอเพิ่มเงินดูแลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 9,000-10,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ระหว่างกำหนดคุณสมบัติของ อสม.จากเดิมที่มี อสม.8.3 แสนราย อาจจะมี อสม.มาสมัครเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน คาดว่า ไม่เกิน 30 วัน จะแล้วเสร็จ นอกจากการเพิ่มเบี้ยในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น มีแรงจูงใจทั้งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เกียรติบัตร และสิทธิพิเศษต่างๆ
“เรื่องเหล่านี้คนอื่นคิดไม่ได้แต่พรรคพลังประชาชน (พปช.) คิดได้ และหากจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยมั่นใจว่าในการเลือกตั้งชนะขาดเพราะได้ทำตามที่สัญญากับประชาชนไว้ พรรคการเมืองอื่นบอกแต่ไม่ทำ แต่ พปช.บอกแล้วทำ ขนาดแพทย์ชนบทที่ชอบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังไม่เกลียดผมเลย”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นอกจากนี้ จากเดิมสมัยที่อยู่มหาดไทยได้ดำเนินการขึ้นเงินเดือนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 1 เท่า ซึ่งเมื่อมา สธ.จะดำเนินการแก้ปัญหาแพทย์ขาดแคลน โดยเฉพาะแพทย์ชนบทได้รับเงินเดือนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเภสัชกร พยาบาล ซึ่งได้ของบประมาณโดยรวม 2,500 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะในชนบทมีความขาดแคลนมาก ปัจจุบันแพทย์ไทย 30 คน ดูแลคนไข้ 1 แสนคน ขณะที่ในต่างประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น แพทย์ 1 คน ดูคนไข้เพียง 70-75 คน ส่วนแพทย์จีน 1 คน ดูแลคนไข้ 170 คน
“การแก้ปัญหาเรื่องนี้กลับไม่มีใครกล้าตัดสินใจ ทั้งๆ ที่สามารถนำเงินที่มีอยู่แล้วออกมาใช้ให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้อนุมัติ โดยให้ค่าตอบแทนแพทย์ตามลำดับความอาวุโส แพทย์ที่อยู่มาเป็น 10 ปี ก็ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นมากกว่า เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้ ซึ่งการเพิ่มค่าตอบแทนไม่ได้ใช้เกณฑ์ของโรงพยาบาลเอกชนเป็นตัวตั้งเพราะค่าตอบแทนโรงพยาบลเอกชนสูงกว่ามาก เพียงแต่นำเงินที่มีอยู่มาเติมให้เพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้น” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
วันเดียวกันนี้ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครสาธารณสุขในเขต กทม.จำนวน 300 คน ที่ จ.นครนายก เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพ แก้ไขปัญหาสาธารณสุขในชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในเขต กทม.ซึ่งมีสภาพหนาแน่น อยู่กันอย่างแออัด
นายวิชาญ กล่าวว่า ในปี 2552 นี้ รัฐบาลได้เสนอของบประมาณให้ อสม.ทำงานทุกหมู่บ้าน รวมทั้งใน กทม.เพิ่มจากหมู่บ้านละ 10,000 บาท เป็นหมู่บ้านละ 30,000 บาท โดยจัดสรรผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพ อสม. และจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในหมู่บ้าน ตลอดจนเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของ อสม.นอกจากนี้ ได้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุข เสนอสภานิติบัญญัติ เพื่อให้มีกฎหมายรับรองสถานภาพ อสม.
“ขณะนี้การเพิ่มงบประมาณให้ อสม.ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการงบประมาณแล้ว อยู่ระหว่างติดตามและประสานกับสำนักงบประมาณ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และได้เพิ่มอสม.ดีเด่น จาก 10 สาขา เป็น 11 สาขา โดยเพิ่มสาขาสายใยรักฯ กองทัพนมแม่ ส่งเสริมอนามัยแม่และเด็ก และมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นเหรียญเงิน ให้กับ อสม.ดีเด่นระดับชาติ ในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจยิ่งขึ้น” นายวิชาญ กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ได้เสนอเพิ่มเงินดูแลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 9,000-10,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ระหว่างกำหนดคุณสมบัติของ อสม.จากเดิมที่มี อสม.8.3 แสนราย อาจจะมี อสม.มาสมัครเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน คาดว่า ไม่เกิน 30 วัน จะแล้วเสร็จ นอกจากการเพิ่มเบี้ยในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น มีแรงจูงใจทั้งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เกียรติบัตร และสิทธิพิเศษต่างๆ
“เรื่องเหล่านี้คนอื่นคิดไม่ได้แต่พรรคพลังประชาชน (พปช.) คิดได้ และหากจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยมั่นใจว่าในการเลือกตั้งชนะขาดเพราะได้ทำตามที่สัญญากับประชาชนไว้ พรรคการเมืองอื่นบอกแต่ไม่ทำ แต่ พปช.บอกแล้วทำ ขนาดแพทย์ชนบทที่ชอบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังไม่เกลียดผมเลย”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นอกจากนี้ จากเดิมสมัยที่อยู่มหาดไทยได้ดำเนินการขึ้นเงินเดือนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 1 เท่า ซึ่งเมื่อมา สธ.จะดำเนินการแก้ปัญหาแพทย์ขาดแคลน โดยเฉพาะแพทย์ชนบทได้รับเงินเดือนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเภสัชกร พยาบาล ซึ่งได้ของบประมาณโดยรวม 2,500 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะในชนบทมีความขาดแคลนมาก ปัจจุบันแพทย์ไทย 30 คน ดูแลคนไข้ 1 แสนคน ขณะที่ในต่างประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น แพทย์ 1 คน ดูคนไข้เพียง 70-75 คน ส่วนแพทย์จีน 1 คน ดูแลคนไข้ 170 คน
“การแก้ปัญหาเรื่องนี้กลับไม่มีใครกล้าตัดสินใจ ทั้งๆ ที่สามารถนำเงินที่มีอยู่แล้วออกมาใช้ให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้อนุมัติ โดยให้ค่าตอบแทนแพทย์ตามลำดับความอาวุโส แพทย์ที่อยู่มาเป็น 10 ปี ก็ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นมากกว่า เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้ ซึ่งการเพิ่มค่าตอบแทนไม่ได้ใช้เกณฑ์ของโรงพยาบาลเอกชนเป็นตัวตั้งเพราะค่าตอบแทนโรงพยาบลเอกชนสูงกว่ามาก เพียงแต่นำเงินที่มีอยู่มาเติมให้เพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้น” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
วันเดียวกันนี้ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครสาธารณสุขในเขต กทม.จำนวน 300 คน ที่ จ.นครนายก เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพ แก้ไขปัญหาสาธารณสุขในชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในเขต กทม.ซึ่งมีสภาพหนาแน่น อยู่กันอย่างแออัด
นายวิชาญ กล่าวว่า ในปี 2552 นี้ รัฐบาลได้เสนอของบประมาณให้ อสม.ทำงานทุกหมู่บ้าน รวมทั้งใน กทม.เพิ่มจากหมู่บ้านละ 10,000 บาท เป็นหมู่บ้านละ 30,000 บาท โดยจัดสรรผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพ อสม. และจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในหมู่บ้าน ตลอดจนเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของ อสม.นอกจากนี้ ได้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุข เสนอสภานิติบัญญัติ เพื่อให้มีกฎหมายรับรองสถานภาพ อสม.
“ขณะนี้การเพิ่มงบประมาณให้ อสม.ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการงบประมาณแล้ว อยู่ระหว่างติดตามและประสานกับสำนักงบประมาณ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และได้เพิ่มอสม.ดีเด่น จาก 10 สาขา เป็น 11 สาขา โดยเพิ่มสาขาสายใยรักฯ กองทัพนมแม่ ส่งเสริมอนามัยแม่และเด็ก และมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นเหรียญเงิน ให้กับ อสม.ดีเด่นระดับชาติ ในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจยิ่งขึ้น” นายวิชาญ กล่าว
