ศธ.ลงนามกับมหาดไทย และภาคเอกชน เปิดโครงการ “ศึกษาธิการ ปภ ท้องถิ่นไทรวมใจลด อุบัติเหตุ ถวายในหลวง 80 พรรษา” เพื่อสาธิตการขับขี่ปลอดภัย รู้จักกฎจราจร ช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนน หวังลดอุบัติเหตุทางถนน
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) และอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) นางศิริพรรณ ชุมนุม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานภาคเอกชน ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงและเปิดโครงการ “ศึกษาธิการ-ปภ.-ท้องถิ่นไทย รวมใจ ลดอุบัติภัย ถวายในหลวง 80 พรรษา" ภายใต้สโลแกน “ร่วมกันสร้างวินัย คือร่วมใจกันสร้างชาติ" และโครงการ “รวมพลังเยาวชนไทย ดื่มไม่ขับ ขับไม่ซิ่ง" รวมทั้งสร้างเครือข่ายอาสาจราจร เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนไทยรักความปลอดภัย ป้องกันและแก้ไขตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทำงานให้สอดคล้องกันและสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำหรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชน อาทิ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เครื่องดื่มโค๊กและกระทิงแดง
ครั้งนี้ มีหน่วยงานภาคี 5 จังหวัดนำร่อง มาร่วมประชุม เพื่อวางแผนการดำเนินกิจกรรม โครงการ “ศึกษาธิการ-ปภ.-ท้องถิ่นไทย รวมใจ ลดอุบัติภัย ถวายในหลวง 80 พรรษา และโครงการ “รวมพลังเยาวชนไทย ดื่มไม่ขับ ขับไม่ซิ่ง “ ซึ่งการจัดโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนกลุ่มเสี่ยง โดยการสร้างความรู้ในการเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เป้าหมาย 20 จังหวัด ตลอดจนมีการจัดอบรมอาสาสมัครจราจร ให้จังหวัดละ 200 คน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการฝึกสอน แนะนำ เพื่อที่จะได้นำความรู้ด้านการจราจรมาดูและในชุมชนของตัวเอง นอกจากนี้โครงการจะมีการสาธิตการขับขี่ปลอดภัย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนนตลอดจนความรู้หรือเทคนิคต่างๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตามจะดำเนินการจัดกิจกรรมอีก 15 จังหวัด โดยการรณรงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุต่อไป
นายสมพร กล่าวว่า ในฐานะที่ สถ.ต้องทำงานกำกับดูแลท้องถิ่น มีหน้าที่ส่งเสริมเรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้นการปลูกจิตสำนึกเรื่องการขับขี่ปลอดภัยจะต้องทำกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง หากมีการร่วมกันก็จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม และโครงการนั้นๆ ก็จะประสบความสำเร็จ
นางศิริพรรณ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาอาชีวะโดยตรง เพราะนักศึกษาต่างจังหวัดส่วนใหญ่ใช้ยานพาหนะ ซึ่งเป็นจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก ประกอบกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดการเรียนการสอนด้านนี้อยู่แล้ว ดังนั้น สอศ. ได้จัดให้นักศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษา เข้าไปมีส่วนร่วม โดยการจัดตั้งจุดตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้กับประชาชน ในเทศกาลสำคัญ รวมทั้งโครงการศูนย์ ซ่อม สร้าง เพื่อชุมชน (FIX IT CENTER)
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) และอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) นางศิริพรรณ ชุมนุม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานภาคเอกชน ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงและเปิดโครงการ “ศึกษาธิการ-ปภ.-ท้องถิ่นไทย รวมใจ ลดอุบัติภัย ถวายในหลวง 80 พรรษา" ภายใต้สโลแกน “ร่วมกันสร้างวินัย คือร่วมใจกันสร้างชาติ" และโครงการ “รวมพลังเยาวชนไทย ดื่มไม่ขับ ขับไม่ซิ่ง" รวมทั้งสร้างเครือข่ายอาสาจราจร เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนไทยรักความปลอดภัย ป้องกันและแก้ไขตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทำงานให้สอดคล้องกันและสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำหรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชน อาทิ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เครื่องดื่มโค๊กและกระทิงแดง
ครั้งนี้ มีหน่วยงานภาคี 5 จังหวัดนำร่อง มาร่วมประชุม เพื่อวางแผนการดำเนินกิจกรรม โครงการ “ศึกษาธิการ-ปภ.-ท้องถิ่นไทย รวมใจ ลดอุบัติภัย ถวายในหลวง 80 พรรษา และโครงการ “รวมพลังเยาวชนไทย ดื่มไม่ขับ ขับไม่ซิ่ง “ ซึ่งการจัดโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนกลุ่มเสี่ยง โดยการสร้างความรู้ในการเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เป้าหมาย 20 จังหวัด ตลอดจนมีการจัดอบรมอาสาสมัครจราจร ให้จังหวัดละ 200 คน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการฝึกสอน แนะนำ เพื่อที่จะได้นำความรู้ด้านการจราจรมาดูและในชุมชนของตัวเอง นอกจากนี้โครงการจะมีการสาธิตการขับขี่ปลอดภัย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนนตลอดจนความรู้หรือเทคนิคต่างๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตามจะดำเนินการจัดกิจกรรมอีก 15 จังหวัด โดยการรณรงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุต่อไป
นายสมพร กล่าวว่า ในฐานะที่ สถ.ต้องทำงานกำกับดูแลท้องถิ่น มีหน้าที่ส่งเสริมเรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้นการปลูกจิตสำนึกเรื่องการขับขี่ปลอดภัยจะต้องทำกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง หากมีการร่วมกันก็จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม และโครงการนั้นๆ ก็จะประสบความสำเร็จ
นางศิริพรรณ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาอาชีวะโดยตรง เพราะนักศึกษาต่างจังหวัดส่วนใหญ่ใช้ยานพาหนะ ซึ่งเป็นจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก ประกอบกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดการเรียนการสอนด้านนี้อยู่แล้ว ดังนั้น สอศ. ได้จัดให้นักศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษา เข้าไปมีส่วนร่วม โดยการจัดตั้งจุดตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้กับประชาชน ในเทศกาลสำคัญ รวมทั้งโครงการศูนย์ ซ่อม สร้าง เพื่อชุมชน (FIX IT CENTER)
