xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ฉุนผู้ว่าฯ ระยอง เนิบนาบแจ้งเหตุสารเคมีรั่วมาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ ไม่พอใจจังหวัดระยองรายงานเหตุสารเคมีรั่วไหลล่าช้า ส่งผลให้แพทย์เข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่ทันท่วงที สั่งกระทรวงทรัพย์ประสานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ร่างระเบียบด้านสุขภาพใหม่ พร้อมประกาศความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติในระหว่าง 29 ธ.ค.-4 ม.ค.เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน

วันนี้ (8 ธ.ค.) นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีได้ให้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ รายงานผลการลงพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ว่าปัญหาในพื้นที่แหลมฉบังที่เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล เกิดจากการสั่งการแก้ไขปัญหาที่ล่าช้า พิจารณาจากเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 16.00 น. แต่การรายงานผลไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อเวลา 20.00 น. และกลายเป็นว่าผู้ที่รายงานสถานการณ์กลับเป็นท้องถิ่น

ทั้งนี้ ปัญหาการตรวจสอบสารพิษเกิดปัญหามาก เพราะหน่วยแพทย์ที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่มีข้อมูลว่าสารพิษที่รั่วไหลเป็นประเภทหรือชนิดใด และเมื่อสอบถามไปยังการนิคมอุตสาหกรรม กลับได้รับคำตอบว่าไม่มีข้อมูล เนื่องจากเป็นความลับทางการค้าของบริษัทเอกชน ดังนั้นนายกฯ จึงได้กำชับให้แก้ไขปัญหานี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลเป็นอย่างมาก และได้มีมติเห็นชอบแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2552-2555 ไปตั้งแต่เดือนกันยายที่ผ่านมา รวมทั้งได้กำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายให้สอดคล้องกับปฎิญญามอสโกที่ทุกประเทศทั่วโลกร่วมกันผลักดันให้แก้ไขปัญหานี้ในช่วงปี 2554-2563 ซึ่งกำหนดให้เป็นทศวรรษการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัยทางถนน และจะต้องมีเป้าหมายในการที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ได้ครึ่งหนึ่งในทศวรรษหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการที่กำหนดจุดเสี่ยง คือ จุดที่มีอุบัติเหตุซ้ำซาก เพื่อที่จะไปเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในเชิงกายภาพหรือในการเตือนผู้ที่สัญจรไปมา หรือเดินทางในบริเวณนั้น รวมทั้งการที่เราจะต้องใช้ประโยชน์จากผลการศึกษาที่เชื่อมโยงชัดเจนว่าความสูญเสียนั้นก็เกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก คือ 1.สุรา 2.การไม่สวมหมวกนิรภัย และ 3.การหลับใน ซึ่งทั้ง 3 จุดนี้ถ้าเราสามารถที่จะป้องกันได้ ก็จะสามารถช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี การรณรงค์เพื่อให้เกิดความตื่นตัว ให้เกิดจิตสำนึก ก็เป็นหัวใจของการทำงานทางด้านนี้ เพราะฉะนั้น รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของการดำเนินงานโดยการจัดการรณรงค์ “7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2552 - 4 มกราคม 2553 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้มาตรการและแผนงานต่าง ๆ ที่จะลดการสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บของประชาชนประสบความสำเร็จ ดังนั้นจึงขอฝากไปยังประชาชนทุกคนว่า การที่จะรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุให้บรรลุได้ตามเป้าหมายนั้น ทุกๆ คนต้องมีส่วนสำคัญในการใช้ความระมัดระวังไม่ประมาท ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการลดการสูญเสียตามเป้าหมายที่เราได้กำหนดไว้ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมรองนายกรัฐมนตรี ทำการยกธงปล่อยขบวนรถกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กำลังประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ถึงแนวทางการร่างระเบียบรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพ เอชไอเอ และรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
กำลังโหลดความคิดเห็น