“องค์กร อมรสิรินันท์” เข้าวินได้รับเลือกนั่งเลขาธิการคุรุสภาคนใหม่ รับเงินเดือนแสนบวกค่าตอบแทนพื้นฐานอีก 2.5 หมื่นบาท วางยุทธศาสตร์ระยะยาวสร้างคุรุสภาให้เป็นองค์กรวิชาชีพประสิทธิภาพ ภายในปี 2555
นายเดชา ทองสุวรรณ กรรมการคุรุสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสรรหาเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตามที่คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนร้อยละ 80 จากการสัมภาษณ์ และเสนอวิสัยทัศน์ จำนวน 4 คน ต่อคณะกรรมการคุรุสภา ได้แก่ นายนิพนธ์ ชื่นตา นายบำเรอ ภานุวงศ์ น.ส.ศุภลักษณ์ สระแก้ว และ นายองค์กร อมรสิรินันท์ เพื่อทำการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา โดยใช้วิธีการคัดเลือกโดยตรง ให้คณะกรรมการลงคะแนนลับแบบเข้าคูหาเลือกตั้ง ผลปรากฏว่า นายองค์กร ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับหนึ่ง ให้เป็นเลขาธิการคุรุสภาคนใหม่ โดยได้ 30 คะแนน จากกรรมการทั้งสิ้น 39 คน ทั้งนี้จะมีการทำสัญญาจ้างในวันที่ 17 ตุลาคม 2551 นี้ ได้รับเงินเดือนเริ่มต้น จำนวน 100,000 บาท และได้รับค่าตอบแทนพื้นฐานคิดเป็น 25% ของเงินเดือน (25,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินเหมาจ่ายสำหรับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร และค่ารถประจำตำแหน่ง เป็นต้น โดยไม่สามารถเบิกเพิ่มเติมได้อีก และหลังจากทำสัญญาจ้างครบ 1 ปี ก็จะต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงาน หากไม่ผ่านการประเมินทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาก็จะไม่ว่าจ้างต่อ แต่หากทำผลงานได้ดี ก็จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มเงินเดือนขึ้นอีกอย่างน้อย 25%
สำหรับวิสัยทัศน์ที่นายองค์กรได้แสดงต่อคณะกรรมการสรรหาฯ นั้น นายองค์กรได้เสนอยุทธศาสตร์เร่งด่วน ได้แก่ การเร่งประเมินพร้อมปรับปรุงโครงสร้าง และอัตรากำลังของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ปริมาณงานและคุณภาพของงานปัจจุบัน เร่งพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภาทุกระดับ และเร่งพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทุกคนให้มีความรู้ เร่งปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความถูกต้อง ส่วนยุทธศาสตร์ระยะยาว นายองค์กร ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุรุสภาให้เป็นองค์กรวิชาชีพประสิทธิภาพ ภายในปี 2555 เพื่อเป็นผู้นำในการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และเป็นที่ยอมรับของสังคม โดยมีเป้าประสงค์ที่สำคัญคือ พัฒนาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้เข้มแข็งทันสมัย สามารถกำกับดูแลการออกใบอนุญาตและการควบคุมการประกอบวิชาชีพให้สามารถบริการผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพให้กระจายไปยังเขตพื้นที่การศึกษาโดยครอบคลุมทุกประเภท และทุกสังกัด
นายเดชา ทองสุวรรณ กรรมการคุรุสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสรรหาเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตามที่คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนร้อยละ 80 จากการสัมภาษณ์ และเสนอวิสัยทัศน์ จำนวน 4 คน ต่อคณะกรรมการคุรุสภา ได้แก่ นายนิพนธ์ ชื่นตา นายบำเรอ ภานุวงศ์ น.ส.ศุภลักษณ์ สระแก้ว และ นายองค์กร อมรสิรินันท์ เพื่อทำการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา โดยใช้วิธีการคัดเลือกโดยตรง ให้คณะกรรมการลงคะแนนลับแบบเข้าคูหาเลือกตั้ง ผลปรากฏว่า นายองค์กร ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับหนึ่ง ให้เป็นเลขาธิการคุรุสภาคนใหม่ โดยได้ 30 คะแนน จากกรรมการทั้งสิ้น 39 คน ทั้งนี้จะมีการทำสัญญาจ้างในวันที่ 17 ตุลาคม 2551 นี้ ได้รับเงินเดือนเริ่มต้น จำนวน 100,000 บาท และได้รับค่าตอบแทนพื้นฐานคิดเป็น 25% ของเงินเดือน (25,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินเหมาจ่ายสำหรับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร และค่ารถประจำตำแหน่ง เป็นต้น โดยไม่สามารถเบิกเพิ่มเติมได้อีก และหลังจากทำสัญญาจ้างครบ 1 ปี ก็จะต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงาน หากไม่ผ่านการประเมินทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาก็จะไม่ว่าจ้างต่อ แต่หากทำผลงานได้ดี ก็จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มเงินเดือนขึ้นอีกอย่างน้อย 25%
สำหรับวิสัยทัศน์ที่นายองค์กรได้แสดงต่อคณะกรรมการสรรหาฯ นั้น นายองค์กรได้เสนอยุทธศาสตร์เร่งด่วน ได้แก่ การเร่งประเมินพร้อมปรับปรุงโครงสร้าง และอัตรากำลังของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ปริมาณงานและคุณภาพของงานปัจจุบัน เร่งพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภาทุกระดับ และเร่งพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทุกคนให้มีความรู้ เร่งปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความถูกต้อง ส่วนยุทธศาสตร์ระยะยาว นายองค์กร ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุรุสภาให้เป็นองค์กรวิชาชีพประสิทธิภาพ ภายในปี 2555 เพื่อเป็นผู้นำในการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และเป็นที่ยอมรับของสังคม โดยมีเป้าประสงค์ที่สำคัญคือ พัฒนาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้เข้มแข็งทันสมัย สามารถกำกับดูแลการออกใบอนุญาตและการควบคุมการประกอบวิชาชีพให้สามารถบริการผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพให้กระจายไปยังเขตพื้นที่การศึกษาโดยครอบคลุมทุกประเภท และทุกสังกัด
