“เนาวรัตน์” และเพื่อนศิลปิน เยี่ยมอาการ “ตี๋” พร้อมออกแถลงการณ์ ฉบับ 2 ประณามรัฐบาลทรราช พร้อมเตือนสติผู้สวมเครื่องแบบ “มนุษย์ต้องมีมโนธรรมสำนึก” ด้านเพื่อนศิลปินรับไม่ได้ถูกใส่ร้ายว่ามีระเบิดในมือ ถามหาความชอบธรรม “ตำรวจยิง ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน” เผย เครือข่ายฯ เตรียมจัดนิทรรศการเพื่อระดมเงินช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่
วันนี้ (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นายวสันต์ สิทธิเขตต์ แนวร่วมกลุ่มศิลปินเพื่อประชาธิปไตย พร้อมเพื่อนศิลปินกว่า 30 คน ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ซึ่งเป็นศิลปินอิสระ หนึ่งในแนวร่วมศิลปินฯ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม และได้นำตัวส่ง รพ.รามาฯ โดย นายตี๋ ได้รับบาดเจ็บบริเวณลำคอ และสูญเสียมือข้างขวา ขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู 5 ตึกศัลยกรรมชาย
ทั้งนี้ กวีซีไรต์ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ระบุว่า นายชิงชัย เป็นศิลปินอิสระได้ลงชื่อในแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 7 ต.ค.เพื่อร่วมประณามและคัดค้านความรุนแรงที่รัฐบาลกระทำต่อประชาชน ผู้ใช้สิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ จนเกิดบาดเจ็บเป็นจำนวนมากในเช้าวันดังกล่าว หลังจากนั้น นายชิงชัย พร้อมกลุ่มแนวร่วมกลุ่มศิลปินฯ ได้ไปเยี่ยมผู้เจ็บป่วย ที่ รพ.วชิรพยาบาล ร่วมกับสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับ
ต่อมา วันที่ 8 ตุลาคม ภาพที่ปรากฏหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงภาพ นายชิงชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนขวาขาดหมดสติหน้า บช.น.ในช่วงเย็น ซ้ำยังตกเป็นเหยื่อการใส่ร้าย ด้วยภาพมีระเบิดอยู่ในมือซ้าย แนวร่วมศิลปินและญาติ จึงได้ไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
“เราขอประณามและเรียกร้องทั้งรัฐและกลไกรัฐ พร้อมสื่อมวลที่ไร้มโนธรรมสำนึก ต่อความป่าเถื่อนที่รัฐเป็นผู้สร้างความรุนแรง พร้อมการใส่ร้ายป้ายสี เช่น ทุกครั้งที่รัฐเผด็จการกระทำต่อประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ ตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 กระทั่ง 17 พฤษภา 35 และ 7 ตุลา 51 อันเป็นบาดแผลของแผ่นดินที่อยากจะเรียกร้องความสนามฉันท์ได้” นายเนาวรัตน์ กล่าว
นายเนาวรัตน์ กล่าวต่อว่า เราศิลปินทุกคน รู้สึกเจ็บปวดกับการที่ นายชิงชัย เสียมือ ซึ่งเคยสร้างสรรค์งานศิลป์ทรงคุณค่า ดับความใฝ่ฝันแสนงามของสังคมที่เป็นธรรมและสันติสุข พวกเราจะปฏิญาณจะจับต่อมือของเพื่อน เพื่อรังสรรค์ตามอุดมการณ์สืบไป กับขอเตือนสติ ผู้สวมหัวโขนแห่งอำนาจ และเครื่องแบบของกลไกรัฐทุกคน ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องเป็นให้ได้เสียก่อน นั่นคือ คุณต้องเป็นมนุษย์ คุณสมบัติแรกของความเป็นมนุษย์ ก็คือ มโนธรรมสำนึก ซึ่งเป็นความรับผิดชอบทางศีลธรรม ปราศจากสิ่งนี้คุณก็เป็นแค่หุ่นยนต์กลไก ที่อันตราย ที่เสื่อมค่าในที่สุด
“เราขอประณามและคัดค้านในรูปแบบของเรา เพื่อกู้ศักดิ์ศรีความเป็นศิลปิน ผู้มีภาระหน้าที่ดูแลอารมณ์ ความรู้สึกของผู้คนในสังคม ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าว มีรายนามชื่อศิลปิน 25 คน ศิลปินที่ร่วมลงชื่อ เช่น นายอังคาร กัลยาณพงษ์ ศิลปินแห่งชาติ นายรงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ นายอาจินต์ ปัญจะพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ นางจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รวม 6 สมาคมร่วมลงชื่อด้วย”
นายเนาวรัตน์ กล่าวด้วยว่า รู้จักคุ้นเคยกับนายตี๋ เพียงห่างๆ ซึ่งในวันเกิดของตน นายตี๋ เคยเข้ามาร่วมงานด้วย เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนที่เขียนรูปสวย เขียนรูปเหมือนได้ดีมาก รับรองว่าศิลปินไม่มีอาวุธ ระเบิด การที่รัฐทำความรุนแรง เป็นวิธีการที่ใช้มาตลอด ทั้งนี้ ศิลปิน เพื่อนศิลปิน จะจัดนิทรรศการ โดยรายได้ทั้งหมดจะไปมอบให้ครอบครัวของ นายตี๋
ต่อเมื่อ เวลา 14.40 น.นายเนาวรัตน์ และเพื่อนศิลปิน ได้ขึ้นไปเยี่ยม แต่แพทย์อนุญาตให้เฉพาะญาติ ภรรยา นายเนาวรัตน์ และ น.ส.อัญชลี ไพรีรัก เข้าเยี่ยมอาการ
ด้านนายประเสริฐ พุทธศร อายุ 40 ปี เพื่อนนายตี๋ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณ บช.น.เล่าให้ฟังว่า ตน พี่ตี๋ และ นายณัฐ ตั้งใจจะขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แต่เหตุการณ์สลายชุมนุมหน้า บช.น.ซึ่งจังหวะนั้นพวกเรา 3 คน หันหลังพิงกำแพงเพื่อป้องกันตนเอง แต่สังเกตเห็นว่า บริเวณกำแพงมีตำรวจซุ่มอยู่จำนวนมาก และจากการสลายการชุมนั้น ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณหลัง ณัฐ มีอาการแก้วหูแตก พี่ตี๋ ได้แสดงความเป็นห่วง แต่ พี่ตี๋ พูดไม่ได้ บริเวณคอมีบาดแผล มือขาด แต่ พี่ตี๋ พยายามเขียน ต.เพื่อถามว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง
จากนั้น พี่น้องหน่วยกาชาด นำตัวไปส่งที่ รพ.ศิริราช และมาทราบภายหลังว่า พี่ตี๋ ถูกใส่ร้ายว่ามีระเบิดอยู่ในมือ ผมร้องไห้ อย่างไม่ได้มีจริต แต่เสียใจในการกระทำของตำรวจมาก และรับไม่ได้ กับสิ่งที่ตำรวจทำ เพราะเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูล ลูกหลาน ขอให้สังคมให้ความเป็นธรรม ต่อ นายตี๋ ด้วย
นายประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า นานๆ ครั้ง พี่ตี๋ จะมาร่วมชุมนุม โดยจะมาฟังเอาความรู้แล้วนำไปประกอบภาพเขียน และเหตุผลที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมชุมนุมบ่อยๆ ไม่ได้ เพราะมีลูกชายเล็กๆ 2 คน นิสัยพี่ตี๋เป็นคนรักครอบครัวมาก แต่ตอนนี้ไม่มีมือแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะใช้มือซ้ายเขียนภาพได้หรือป่าว
ด้าน “นิด กรรมาชน” กล่าวว่า เท่าที่รู้จักพี่ตี๋เป็นศิลปินที่มีธรรมะในใจ มีจิตใจอ่อนโยน มักทำสมาธิ ถือศีล เป็นคนสมถะ มีอาชีพวาดรูปขาย จึงมีคำถามว่าคนนิสัยอย่างนี้หรือจะมีอาวุธอยู่ในมือ เรามีแค่ 2 มือเปล่า มีเพียงธงชาติ บางคนอาวุธไว้ป้องกันตัวบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่กลุ่มศิลปินไม่มีอาวุธเลย แล้วจะให้ไปฟ้องเรียกร้องกับตำรวจหรือรัฐบาล ก็คงจะไม่ฟัง เพราะเป็นทรราช แม้แต่รายของน้องโบว์ ตำรวจก็กระทำย่ำยีศพคนตาย ซึ่งเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่พยายามโยนว่า นายตี๋ มีอาวุธระเบิด ก็เป็นการสร้างหลักฐานของตำรวจ ซึ่งตำรวจเป็นทั้งคนยิงและพิสูจน์หลักฐาน ฉะนั้น จะสร้างหลักฐานอะไรก็ได้
“จริงๆ ไม่ว่าฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็ไม่เห็นด้วย แต่การที่ฆ่าประชาชนเพื่อให้ บรรดา ส.ส. ส.ว.เข้าออกรัฐสภา เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ ซึ่งวันนี้ข่าวก็ออกมาชัดเจนว่าตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาเพียงอย่างเดียว มีอาวุธอื่นยิงใส่ผู้ร่วมชุมนุม แถมยังใส่ร้ายด้วยการบอกว่าพันธมิตรฯนำคนขาขาด มาแสดงละคร ถามว่า ตำรวจ รัฐบาล เอาสามัญสำนึกไว้ตรงไหน”