xs
xsm
sm
md
lg

กกต.กทม.เสนออย่าเร่งรับรอง “อภิรักษ์” จนกว่าสำนวนร้องเรียนจะเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.กกต.กทม.เผยส่งเรื่องร้องเรียนป้ายประชาสัมพันธ์หาเสียงแฝงของ “อภิรักษ์” ให้ กกต.กลาง พิจารณาแล้ววันนี้ พร้อมเสนอความเห็นชะลอประกาศรับรองผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ จนกว่าจะสอบสวนเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ แจ้งเตือนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 16 คนรีบแจ้งค่าใช้จ่ายในการหาเสียงภายใน 90 วัน “อภิรักษ์” พอใจผลคะแนนแม้ไม่ถึงล้าน แต่เกินเป้าที่ตั้งไว้ ถ้าได้ถือเป็นโบนัส เผย ภารกิจเร่งด่วนหากผ่านรับรอง คือ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ยันไม่กังวลสารพัดเรื่องร้องเรียน

นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมของ กกต.กทม.ว่า ในวันนี้ (6 ต.ค.) ตนได้นำสำนวนการสืบสวนสอบสวนกรณีป้ายประชาสัมพันธ์ของ กทม.ที่มีชื่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งเป็นการโฆษณาหาเสียงแฝงเอื้อประโยชน์ให้นายอภิรักษ์ ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้ร้องเรียนมายื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับได้เสนอความเห็นต่อ กกต.กลางว่า ยังไม่ควรประกาศรับรองให้นายอภิรักษ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.จนกว่า กกต.กลางจะพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จ

นายพิงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 กกต.จะต้องประกาศผลรับรองภายใน 7 วัน แต่คาดว่า การรวบรวมพยานหลักฐานและการสืบสวนสอบสวนคงไม่แล้วเสร็จภายใน 7 วันอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายก็คงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต.กลาง ว่าจะประกาศรับรองไปก่อนหากพิสูจน์ว่านายอภิรักษ์เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็อาจดำเนินการให้ใบเหลืองในภายหลังได้

นายพิงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องร้องเรียนกรณีการแจก Green Bangkok Wi-Fi Gard จำนวน 500,000 ใบ ของนายอภิรักษ์ นั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างสรุปสำนวน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.กทม.เพื่อพิจารณาในวันพุธที่ 8 ต.ค.นี้ และล่าสุด กกต.กทม.ได้มีมติรับเรื่องร้องเรียนของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.รายหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากผู้สมัครคนดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดกับสื่อมวลชน จึงถือเป็นความลับ โดยมีการยื่นเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมมาที่ กกต.กทม.เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระบุว่าป้ายหาเสียงของนายอภิรักษ์ มีขนาดใหญ่กว่าที่ กกต.กำหนด จึงต้องให้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินการหาพยานหลักฐานต่อไป ทำให้ขณะนี้ นายอภิรักษ์ ถูกร้องเรียนใน 3 เรื่องด้วยกัน

ประธาน กกต.กทม.กล่าวด้วยว่า ตนอยากฝากถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 16 คน ขอให้เร่งแจ้งบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในการหาเสียงของผู้สมัคร ซึ่ง กกต.กำหนดไม่เกินคนละ 39 ล้านบาท แม้จะได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ก็ต้องชี้แจงภายใน 90 วัน นับจาก กกต.ประกาศรับรองผู้ว่าฯ กทม.หากไม่ยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะมีความผิดทางอาญาทั้งจำและปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เป็นสมัยที่ 2 แม้จะมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลงกว่าครั้งที่ผ่านมาก็ตาม อย่างไรก็ตาม เหตุที่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ อาจจะมาจากประชาชนชื่นชอบในแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างยาวนาน และต้องการให้เข้ามาสานต่อโครงการต่างๆ ให้ต่อเนื่อง รวมถึงประชาชนพอใจในผลงานช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า แม้ผลคะแนนที่ออกมาจะไม่ถึงล้านคะแนน เพราะจำนวนผู้มาใช้สิทธิน้อยลงกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2547 แต่ก็ดีใจมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าเดิม ที่ประชาชนยังมอบความไว้วางใจเลือกตั้งเข้าอีกครั้ง อีกทั้งยังได้มากกว่าครั้งที่แล้ว ทั้งที่มีผู้ใช้สิทธิน้อย ซึ่งผลที่ออกมาก็ค่อนข้างพอใจมาก ถ้าเกินล้าน หรือล้มแชมป์ได้ก็ถือเป็นเรื่อง

นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ภารกิจแรกที่จะเข้าไปดูแล คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วมบริเวณที่แนวเขื่อนกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยายังสร้างไม่แล้วเสร็จ รวมถึงการระบายน้ำท่วมในชั่วโมงเร่งด่วนที่จะกระทบต่อการจราจร นอกจากนี้ จะเร่งแก้ปัญหาจราจรโดยจะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม จากแยกตากสินถึง ถ.ตากสิน 2.2 กม.กับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสุขุม จากอ่อนนุช ถึง แบริ่ง รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายการจราจรด้วยระบบอื่น เช่น เรือ พร้อมกับจะประสานกับตำรวจเพื่อแก้ไขจราจรต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแก้ไขจุดอ่อนเกี่ยวกับผลงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า จะพยายามกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะบางครั้งที่ไม่ได้เข้าไปดูแลใกล้ชิด ทำให้งานออกมาล่าช้า ส่วนโครงการอัจฉริยะต่างๆ เช่น แท็กซี่อัจริยะ อาจมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นแท็กซี่แสตนด์ หรือทำจุดจอดรถตามศูนย์การค้าหรือออฟฟิศต่างๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่

ส่วนเรื่องการแต่งตั้งทีมรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 คน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คาดว่า จะได้รายชื่อทั้งหมดภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ หลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งการแต่งตั้งจะเป็นลักษณะผสมผสานระหว่างคนเก่ากับคนใหม่ โดยพิจารณาตามความเหมาะสม ตามนโยบายที่จะทำต่อไป ที่สำคัญ จะตั้งทีมที่ปรึกษาควบคู่ไปด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่ให้อยู่จนครบวาระ แต่อาจมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ตลอดเวลา เพื่อความเหมาะสมของงาน

นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับงบประมาณการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด แต่ยืนยันว่าไม่เกิน 39 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้แน่นอน ส่วนคดีร้องเรียนต่างๆ ก็ไม่กังวล เพราะที่ผ่านมาทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัดและหารือกับ กกต.โดยตลอด


กำลังโหลดความคิดเห็น