“นที” นำทีมเกย์ยื่นหนังสือ “ศรีเมือง” ขอให้ช่วยดูแลนักศึกษา-บัณฑิตที่ถูกละเมิดสิทธิ เหตุคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ห้ามบัณฑิตเพศที่ 3 แต่งหญิงถ่ายรูปรับปริญญาร่วมกับคณาจารย์และเพื่อนร่วมคณะ เสนอ ศธ.จัดสอนวิชาเพศทางเลือกศึกษา ให้เด็กรู้จักตนเองและยอมรับเพื่อนที่แตกต่าง ส่งเสริมให้เด็กเป็นตัวของตัวเองโดยไม่แปลกแยกจากสังคม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ต.ค.51 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนจากเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ นำโดย นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ เนื่องจากคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่อนุญาตให้นิสิตเพศที่ 3 แต่งชุดบัณฑิตหญิงถ่ายรูปหมู่ร่วมกับคณาจารย์ของคณะสหเวชศาสตร์ โดยนายนที กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งบัณฑิตได้แต่งกายตามปกติเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอย่างถูกต้อง แต่หลังออกจากห้องประชุมแล้ว บัณฑิตได้ออกมาเปลี่ยนชุดแต่งกายเป็นหญิงเพื่อร่วมถ่ายรูปกับคณาจารย์ และเพื่อนร่วมคณะ แต่ถูกอาจารย์ปฏิเสธไม่ให้ร่วมถ่ายรูปด้วย
“เรื่องการแต่งชุดบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าในอดีตของการพระราชทานปริญญาบัตรที่ผ่านมาว่า ไม่เคยมีข่าวแม้สักครั้งว่าใครถูกตำหนิในเรื่องนี้ แต่ด้วยแนวคิดที่ว่าในโลกนี้ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง และก็ไม่มีใครจะต้องเสียอะไรทุกอย่าง ดังนั้น เพศที่ 3 ก็ควรจะแต่งชุดนิสิตชายเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ยกเว้นเสียแต่ว่าทางคณะจะเปิดกว้างอนุญาตให้แต่งหญิงเข้ารับปริญญาได้ แต่หลังออกจากพิธีก็น่าจะอนุญาตให้แต่งหญิงขึ้นร่วมถ่ายรูปได้ ไม่น่าจะปิดกั้นกันแบบนี้ จึงขอให้ รมว.ศึกษาธิการ ช่วยดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย” นายนที กล่าว
ประธานกลุ่มเกย์ฯ กล่าวต่อไปว่า ศธ.ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเด็กและเยาวชน ซึ่งสามารถชี้เป็นชี้ตายกับพฤติกรรมเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง แต่ ศธ.กลับมีกรอบแนวคิดเดิมๆ หากพบว่ามีเด็กคนใดที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนจากเพศตนเอง ก็จะให้เด็กทำกิจกรรมที่ฝืนกับความรู้สึก เพื่อให้เด็กกลับมามีพฤติกรรมปกติ แต่วิธีการดังกล่าวเป็นการเพิ่มปัญหา บีบคั้นความรู้สึกของเด็ก และเกิดชายเทียม หญิงเทียมขึ้นในสังคม บางคนเติบโตไปมีครอบครัวโดยเก็บกดความรู้สึกของตนเองไว้ จนที่สุดทนไม่ได้ก็ต้องเปิดเผยตัวเองออกมาทั้งๆ ที่มีลูกและมีภรรยาแล้ว
“กระทรวงศึกษาฯ ควรมีหน้าที่ส่งเสริมให้เด็กได้เป็นในสิ่งที่ตนเองเป็น ซึ่งจะทำให้เด็กมีสุขภาพจิตดี เรียนหนังสืออย่างมีความสุข เติบโตขึ้นเป็นคนมีคุณภาพ วิธีการผลักดันให้เด็กทำกิจกรรมเล่นอย่างผู้ชายไม่ได้ช่วยทำให้เด็กที่มีความเบี่ยงเบนกลับมาเป็นเด็กชายปกติ เพราะการเป็นเกย์ไม่ใช่โรคที่จะรักษาหาย แต่เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณของผู้นั้นที่ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามขอเสนอให้ ศธ.มีการบรรจุเรื่องเกี่ยวกับเพศทางเลือกศึกษาไว้ในวิชาเพศศึกษา และวิชาทักษะชีวิต ตั้งแต่ระดับชั้น ป.6 เพื่อให้เด็กเข้าใจตนเอง ยอมรับความแตกต่างทางเพศของเพื่อน และมีทักษะในการดำเนินชีวิตในสังคม ซึ่งจะทำให้เด็กมีความพอดี และวางตัวอย่างเหมาะสม”นายนที กล่าว
นายนที กล่าวด้วยว่า จากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน อธิการบดีจุฬาฯ และคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ต่อไปด้วย
นายศรีเมือง กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา โดยจะให้ฝ่ายกฎหมายช่วยวิเคราะห์ว่ามีแนวทางใดบ้างที่จะดูแลกลุ่มเพศที่ 3 แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเราก็ต้องอยู่ในระเบียบของสังคม คงไม่สามารถดำเนินการทันทีทันใดได้