เสาร์คึกคัก !! ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.ลุยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย "ลีน่า จัง" ยกทีมฟังธรรม แม่ชีศันสนีย์แนะเลือกผู้ว่าฯ ต้องไร้อคติ "ประภัสร์" บุกถิ่นวัยรุ่นเปิดนโยบายเน้นวัยโจ๋มีส่วนร่วม ส่วน"เกรียงศักดิ์" ชูสร้างสวนสมองในพื้นที่รกร้าง-อุบทีเด็ดหาเสียงสัปดาห์หน้า ขณะที่"ชูวิทย์" ชูนโยบายใช้กระสอบน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม-สานต่อสร้างเขื่อนริมเจ้าพระยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สุดท้ายในการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง
ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ดังนั้นผู้สมัครทุกรายจึงต่างเร่งหาเสียงเพื่อโกยคะแนนจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวกรุงเทพฯ และในวันนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์อีกหนึ่งวันที่บรรดาผู้สมัครหาเสียงกันอย่างคึกคักที่เดียว
เริ่มตั้งแต่ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน(พปช.) ลงพื้นที่หาเสียงย่านสยามสแควร์ และใช้พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม แถลงนโยบายการแก้ปัญหาเยาวชนในกรุงเทพฯ ว่า จากการพบปะฟังความเห็นเยาวชน พบว่าสิ่งที่เยาวชนต้องการ คือ การมีส่วนร่วม หากส่งเสริมให้เยาวชนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเรียนรู้การแก้ปัญหากรุงเทพฯ ก็จะเป็นช่องทางดึงศักยภาพเยาวชนมาใช้ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคมได้
ส่วนนโยบายพัฒนาเยาวชน จะคัดเลือกและแต่งตั้งผู้แทนเยาวชน เขตละ 1 คน เป็นสภาที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. และจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน โดยใช้งบประมาณจากตลาดนัดของ กทม. และภาคธุรกิจ เพื่อทำกิจกรรมและเปิดเวทีสร้างสรรค์ให้กับเยาวชน นอกจากนี้ จะสนับสนุนการใช้พื้นที่ว่างเปล่าเป็นลานกิจกรรม ให้เยาวชนมีพื้นที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์มากขึ้น และถ้าภาคเอกชนรายใดเปิดให้เยาวชนใช้พื้นที่เพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ตนจะให้ กทม.ลดหย่อนภาษีโรงเรือนและที่ดิน เพื่อเป็นการจูงใจ
นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 2 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงในหมู่บ้านสหกรณ์ เขตบึงกุ่ม ได้พบกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมาเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ขึ้นรถหาเสียงและมาลงพบปะประชาชนในหมู่บ้านสหกรณ์เช่นกัน โดยไม่ได้มีการทักทายกันแต่อย่างใด โอกาสนี้นายเกรียงศักดิ์ ยังได้เปิดนโยบายด้านสวนสาธารณะสำหรับคนกรุงเทพฯ ว่า ได้สำรวจพื้นที่รกร้างไว้แล้ว 841 แปลง ถ้าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเจรจากับเจ้าของพื้นที่ เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสมองของคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ใช่แค่สวนสาธารณะเท่านั้น แต่เป็นสวนที่ให้ความรู้ด้วย เช่น สวนสมุนไพร สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดี
ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในโค้งสุดท้ายมีทีเด็ดที่จะเผยแพร่สู่สายตาประชาชนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งมั่นใจว่า ประชาชนจะตัดสินใจเทคะแนนให้ โดยเฉพาะพลังเงียบและผู้ที่ต้องการผู้ว่าอิสระปลอดปัญหาการเมือง
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณชุมชนวัดสร้อยทอง ซึ่งเป็นชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากและน้ำหนุนเป็นประจำ พร้อมชูนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เสนอวิธีการแก้ปัญหารูปแบบใหม่ แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะสั้นจะจัดทำกระสอบน้ำ วางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมแทนที่กระสอบทราย เนื่องจากราคาถูก และขนย้ายง่าย ส่วนระยะยาวจะสานต่อการสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาของนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพราะผู้ว่าฯ คนที่ผ่านมาไม่ยอมสานต่อ และจะจัดสร้างสันเขื่อนบริเวณคลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรมย์ ให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เพื่อรองรับน้ำ เสมือนมีโครงการแก้มลิงเพิ่มขึ้น
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า จะเน้นนโยบายธรรมาภิบาล หรือการบริหารงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพูดถึงการทำงานของอดีตผู้ว่าฯ ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนรับทราบ เพราะมีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องที่มีการทุจจริต เช่น โครงการรถและเรือดับเพลิง แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะให้ใบเหลืองหรือใบแดง ตนก็จำเป็นต้องพูด และอยากเรียน กกต.ให้ทราบว่า การหาเสียงไม่ใช่แค่การพูดว่าตัวเองดีเท่านั้น
ขณะที่นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 7 พร้อมทีมงานสวมชุดสีขาว เดินทางไปนั่งฟังธรรมที่เสถียรธรรมสถาน จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ท่ามกลางความสนใจของผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก โดยแม่ชีศันสนีย์ กล่าวทักทายและสอบถามแสดงความห่วงใยจิตใจภรรยาท้องแก่ของหัวหน้าทีมงานหาเสียงที่เสียชีวิต โดยฝากให้ดูแลจิตใจอย่างดีด้วย เพราะสามารถกระทบความรู้สึกลูกในครรภ์ได้
ส่วนเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แม่ชีศันสนีย์ กล่าวว่า ไม่ได้หวังว่าจะมีอัศวินขี่ม้าขาวช่วยแก้ปัญหา กทม.ได้ทั้งหมด แต่หวังว่าจะได้คนดี เดินเคียงข้างเป็นเพื่อนประชาชน การแก้ไขอดีตคงทำไม่ได้ ต้องมุ่งไปที่ปัจจุบันและอนาคต คนกรุงเทพฯ ควรออกไปใช้สิทธิ์ โดยไม่ใช้คำว่าเบื่อมาทำให้ไม่ได้ไปเลือกตั้ง ทั้งนี้ ต้องเตรียมจิตก่อนเลือกตั้ง หรือหากต้องตัดสินใจจะเลือกอะไรก็ตาม อย่าเลือกด้วยความกลัว อคติ รักหรือชัง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเหมาะกับปัจจุบัน
ด้านนางลีน่า จัง ได้รับโอกาสกล่าวปราศรัยกับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ว่า แม้ตนเป็นผู้หญิง แต่เมื่อตั้งใจจะทำงานก็จะทำให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ชีศันสนีย์ ได้กล่าวชมนางลีน่า จัง ว่าเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าเปิดเผยสุขทุกข์ ขอให้คนที่ฟัง อย่ามองด้วยอคติอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สุดท้ายในการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง
ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ดังนั้นผู้สมัครทุกรายจึงต่างเร่งหาเสียงเพื่อโกยคะแนนจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวกรุงเทพฯ และในวันนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์อีกหนึ่งวันที่บรรดาผู้สมัครหาเสียงกันอย่างคึกคักที่เดียว
เริ่มตั้งแต่ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน(พปช.) ลงพื้นที่หาเสียงย่านสยามสแควร์ และใช้พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม แถลงนโยบายการแก้ปัญหาเยาวชนในกรุงเทพฯ ว่า จากการพบปะฟังความเห็นเยาวชน พบว่าสิ่งที่เยาวชนต้องการ คือ การมีส่วนร่วม หากส่งเสริมให้เยาวชนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเรียนรู้การแก้ปัญหากรุงเทพฯ ก็จะเป็นช่องทางดึงศักยภาพเยาวชนมาใช้ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคมได้
ส่วนนโยบายพัฒนาเยาวชน จะคัดเลือกและแต่งตั้งผู้แทนเยาวชน เขตละ 1 คน เป็นสภาที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. และจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน โดยใช้งบประมาณจากตลาดนัดของ กทม. และภาคธุรกิจ เพื่อทำกิจกรรมและเปิดเวทีสร้างสรรค์ให้กับเยาวชน นอกจากนี้ จะสนับสนุนการใช้พื้นที่ว่างเปล่าเป็นลานกิจกรรม ให้เยาวชนมีพื้นที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์มากขึ้น และถ้าภาคเอกชนรายใดเปิดให้เยาวชนใช้พื้นที่เพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ตนจะให้ กทม.ลดหย่อนภาษีโรงเรือนและที่ดิน เพื่อเป็นการจูงใจ
นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 2 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงในหมู่บ้านสหกรณ์ เขตบึงกุ่ม ได้พบกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมาเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ขึ้นรถหาเสียงและมาลงพบปะประชาชนในหมู่บ้านสหกรณ์เช่นกัน โดยไม่ได้มีการทักทายกันแต่อย่างใด โอกาสนี้นายเกรียงศักดิ์ ยังได้เปิดนโยบายด้านสวนสาธารณะสำหรับคนกรุงเทพฯ ว่า ได้สำรวจพื้นที่รกร้างไว้แล้ว 841 แปลง ถ้าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเจรจากับเจ้าของพื้นที่ เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสมองของคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ใช่แค่สวนสาธารณะเท่านั้น แต่เป็นสวนที่ให้ความรู้ด้วย เช่น สวนสมุนไพร สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดี
ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในโค้งสุดท้ายมีทีเด็ดที่จะเผยแพร่สู่สายตาประชาชนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งมั่นใจว่า ประชาชนจะตัดสินใจเทคะแนนให้ โดยเฉพาะพลังเงียบและผู้ที่ต้องการผู้ว่าอิสระปลอดปัญหาการเมือง
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณชุมชนวัดสร้อยทอง ซึ่งเป็นชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากและน้ำหนุนเป็นประจำ พร้อมชูนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เสนอวิธีการแก้ปัญหารูปแบบใหม่ แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะสั้นจะจัดทำกระสอบน้ำ วางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมแทนที่กระสอบทราย เนื่องจากราคาถูก และขนย้ายง่าย ส่วนระยะยาวจะสานต่อการสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาของนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพราะผู้ว่าฯ คนที่ผ่านมาไม่ยอมสานต่อ และจะจัดสร้างสันเขื่อนบริเวณคลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรมย์ ให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เพื่อรองรับน้ำ เสมือนมีโครงการแก้มลิงเพิ่มขึ้น
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า จะเน้นนโยบายธรรมาภิบาล หรือการบริหารงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพูดถึงการทำงานของอดีตผู้ว่าฯ ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนรับทราบ เพราะมีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องที่มีการทุจจริต เช่น โครงการรถและเรือดับเพลิง แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะให้ใบเหลืองหรือใบแดง ตนก็จำเป็นต้องพูด และอยากเรียน กกต.ให้ทราบว่า การหาเสียงไม่ใช่แค่การพูดว่าตัวเองดีเท่านั้น
ขณะที่นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 7 พร้อมทีมงานสวมชุดสีขาว เดินทางไปนั่งฟังธรรมที่เสถียรธรรมสถาน จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ท่ามกลางความสนใจของผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก โดยแม่ชีศันสนีย์ กล่าวทักทายและสอบถามแสดงความห่วงใยจิตใจภรรยาท้องแก่ของหัวหน้าทีมงานหาเสียงที่เสียชีวิต โดยฝากให้ดูแลจิตใจอย่างดีด้วย เพราะสามารถกระทบความรู้สึกลูกในครรภ์ได้
ส่วนเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แม่ชีศันสนีย์ กล่าวว่า ไม่ได้หวังว่าจะมีอัศวินขี่ม้าขาวช่วยแก้ปัญหา กทม.ได้ทั้งหมด แต่หวังว่าจะได้คนดี เดินเคียงข้างเป็นเพื่อนประชาชน การแก้ไขอดีตคงทำไม่ได้ ต้องมุ่งไปที่ปัจจุบันและอนาคต คนกรุงเทพฯ ควรออกไปใช้สิทธิ์ โดยไม่ใช้คำว่าเบื่อมาทำให้ไม่ได้ไปเลือกตั้ง ทั้งนี้ ต้องเตรียมจิตก่อนเลือกตั้ง หรือหากต้องตัดสินใจจะเลือกอะไรก็ตาม อย่าเลือกด้วยความกลัว อคติ รักหรือชัง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเหมาะกับปัจจุบัน
ด้านนางลีน่า จัง ได้รับโอกาสกล่าวปราศรัยกับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ว่า แม้ตนเป็นผู้หญิง แต่เมื่อตั้งใจจะทำงานก็จะทำให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ชีศันสนีย์ ได้กล่าวชมนางลีน่า จัง ว่าเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าเปิดเผยสุขทุกข์ ขอให้คนที่ฟัง อย่ามองด้วยอคติอีกด้วย