“หมอประเวศ” ชี้ บ้านเมืองยังวุ่นวาย เพราะการเมืองแบบธนาธิปไตย เอาเงินเป็นใหญ่ ครม.ใหม่ไม่ช่วยอะไร เป็นแค่ความโกลาหล ไม่ใช่ทางรอดประเทศ แถมทำงานไม่ได้มาก เพราะโดนใบสั่งจากลอนดอน เตือน “เป็ดเหลิม” อย่าใช้อำนาจขู่เข็ญให้ฟังข้าราชการ ยกตัวอย่าง รมต.ไม่ดีอาจเร่งสร้างผลงาน แนะไม่ควรลงพื้นที่ที่ถูกต่อต้าน
วันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า ความวุ่นวายจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะการปกครองยังเป็นแบบธนาธิปไตยที่เอาเงินเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาธิปไตยเป็นใหญ่ มีการเอาเงินซื้อพรรค ซื้อนักการเมือง ซื้อเสียง ทำให้เกิดความตึงเครียดในสังคม มีแต่ความเห็นแก่ตัว ความไม่จริงจัง จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์จึงเข้าใจทฤษฎีความซับซ้อนในสังคมที่ซับซ้อนก็จะนำไปสู่การเกิดความโกลาหล วิกฤตบ้านเมืองขนาดที่เกิดการปรับเปลี่ยนสังคมเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่ดีเกิดขึ้น และคงไม่เกิดเป็นสงครามกลางเมืองเพราะสังคมไทยผ่านจุดนั้นมาแล้ว
“แม้จะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่แล้ว แต่ก็ยังเป็นความโกลาหลเท่านั้น ไม่ใช่ทางออกขอสังคม เพราะรัฐบาลไม่สามารถบริหารงานได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลให้สิทธิ์นักการเมืองที่มีการลงทุนเข้ามานั่งบริหารประเทศ แทนที่จะเป็นสิทธิ์ของประชาชนสามารถเลือกได้ว่าใครควรได้ตำแหน่งอะไร เพื่อให้ได้คนดีคนเก่งที่สุดมาเป็นรัฐมนตรี” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ครม.และรัฐบาลชุดนื้ยังทำงานภายใต้สถานการณ์ที่จำกัด เพราะต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มและฝ่ายและผู้ที่บงการมาจากลอนดอน แม้ทุกคนฝันอยากเห็นครม.ที่ดีๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะสามารถทนได้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรหมดหวังและควรให้โอกาสเพราะคนที่ไม่ดีมักจะพยายามสร้างผลงานทำเรื่องดีๆ เหมือนองคุลีมาลยังบรรลุอรหันต์ ต้องให้โอกาสได้ทำงานก่อน หากมีคนวิพากษ์วิจารณ์มากอาจปรับตัวให้ดีขึ้นก็ได้ และหากเกิดขัดแย้ง ทะเลาะหรือวิพากษ์วิจารณ์กันไปก็ควรใช้สันติวิธีความรู้และเหตุผล
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า ส่วนการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาเป็น รมว.สาธารณสุข ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนักต่อสู้ พูดเก่ง ตอบโต้เก่ง ขณะที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนไม่ค่อยพูด จึงอาจเลือกให้ ร.ต.อ.เฉลิม มาช่วยให้ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามได้ ในส่วนของงานด้านสาธารณสุข ถ้าร่วมเรียนรู้กับคนทำงานก็สามารถทำงานได้ แต่อย่าใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ เพราะข้าราชการกระทรวงให้ความร่วมมือในการทำงานอยู่แล้ว และหากมีเรื่องดีๆ ที่ข้าราชการเสนอก็ควรทำ ตัวอย่างมีข้าราชการเคยเล่าให้ฟังว่า เขาผ่านมาหลายรัฐมนตรี แต่ส่วนใหญ่รัฐมนตรีที่ไม่ดีจะสร้างผลงานมากกว่า เพราะคนดีคิดว่าคิดว่าตัวเองดีแล้วเลยไม่ทำอะไร แต่คนไม่ดีมักพยายามทำงาน แต่ในทางปฏิบัติหากมีการรวมตัวประท้วงชุมนุมค้านในพื้นที่ ก็ไม่ควรลงพื้นที่นั้น
“ในที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ คนที่ไม่ดีอาจจะปรับตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนทั้งประเทศ ไม่ว่าฝ่ายขัดแย้งใดๆ ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เมื่อเกิดความขัดแย้งไม่ควรตกใจ เพราะท้ายสุดแล้วคนไทยเป็นคนประนีประนอม จะทำให้หาข้อยุติด้วยการเจรจาได้เสมอ”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ นายกรัฐมนตรี ได้เจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า การคุยกันเป็นเรื่องที่ดี เป็นการแลกเปลี่ยนความคิด ควรเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายที่ขัดแย้งได้พูดคุยกัน ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องมีการข้อตกลงจากการพูดคุยกันหรือยุติปัญหาได้ทันที เพราะเป็นการบีบคั้น ในที่สุดจึงตกลงกันไม่ได้ ที่สำคัญควรดูว่าทุกฝ่ายไม่ว่าจะฝ่ายใดล้วนมีจุดร่วมกันคือประชาธิปไตย ดังนั้น คงต้องหาว่าประชาธิปไตยจริงๆ เป็นอย่างไร
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า ผู้นำในสังคมไทย 100 ปีทีผ่านมามีเพียง 5 ประเภท คือ 1.นักการเมือง 2.ข้าราชการ 3.นักวิชาการ 4.นักธุรกิจ 5.สื่อมวลชน แต่ก็เป็นการเรียนรู้แบบแยกส่วนและเอาความรู้จากตำราเป็นตัวตั้ง แต่ไมได้เอาความจริงเป็นตัวตั้ง จึงทำให้ประเทศอ่อนแอ การทำให้สังคมเกิดความสุขได้ต้องบูรณาการและเชื่อมโยง โดยไม่แยกส่วนออกจากสังคม ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง คือการมีส่วนร่วมในการทำงานจากพื้นที่ของประชาชน โดยที่ประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาเท่านั้น เพราะบางทีในนั้นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยด้วยซ้ำ
ผู้สื่อขาวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 11.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.) คณะทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เดินทางมาตรวจตราห้องทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และบริเวณโดยรอบของกระทรวง โดยคณะทำงานรายหนึ่ง ระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ โดยจะเตรียมเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 29 กันยายนนี้ ตามกำหนดการในเวลา 13.30 น.และมอบนโยบายข้าราชการ 14.30 น.