“กลุ่มริมน้ำ” ไม่ละความพยายาม ยังคงเดินหน้าตรวจสอบรมต.ภายในพรรคหวังกดดันในการทำงานขีดเส้นใหม่ 1-2 เดือน ทำงานไม่ได้ต้องพิจารณาตัวเอง โวย “สุวิทย์” ยึดติดกลุ่มทุนไม่ใช้ระบบสัดส่วนจัดสรรโควตา
วันนี้ (25 ก.ย.) นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงความเห็นของ ส.ส.ในกลุ่มบ้านริมน้ำที่ยังคงมีความไม่พอใจกับการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ในสัดส่วนของพรรคว่า ตนและพรรคพวกที่เคยออกมาเรียกร้องเพราะต้องการให้เกิดความเป็นธรรมต่อคนที่เป็น ส.ส. เมื่อการเรียกร้องไม่ได้รับการเอาใจใส่ จนสุดท้ายก็มีการเสนอรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งสิ่งที่เราเสนอไปก็ไม่ได้รับการสนใจ ซึ่งต่อจากนี้ ส.ส.ในกลุ่มก็ขอทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. ต่อไป เพราะเราเป็นผู้ถูกเลือกมาโดยประชาชน
“เรามองว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในสถานการณ์ปัจจุบัน คนที่มาเป็นรัฐมนตรีต้องทำงานเป็นต้องเสียสละ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เราอยากได้รัฐมนตรีที่ผู้แทนฯ สามารถประสานได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ (มาตรา 266) เป็นอุปสรรคในการประสานงานระหว่าง ส.ส.กับส่วนราชการในประเด็นของการแทรกแซงส่วนราชการ เราเห็นว่าคนที่จะประสานงานได้ดีที่สุด คือ รัฐมนตรี หากรัฐมนตรีบางคนเรามองเห็นว่าไม่น่าจะทำหน้าที่ได้ เราขอเสนอคนที่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นคนในพรรคและเป็น ส.ส. เราอยากได้รัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส.เพราะ ส.ส.รู้ถึงความลำบากของประชาชนมากว่านายทุน” นายรณฤทธิชัย กล่าว
นายรณฤทธิชัย กล่าวว่า ต่อจากนี้ ส.ส.ในพรรคจะช่วยกันตรวจสอบรัฐมนตรี โดยจะช่วยกันตรวจสอบรัฐมนตรีทุกคน โดยหากรัฐมนตรีทำงานได้แล้วมีประสิทธิภาพเราจะสนับสนุน แต่หากเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่มีผลงานอะไรเลย หรือมีผลงานแต่ไม่ถูกตาต้องใจประชาชน รัฐมนตรีต้องพิจารณาตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่ารัฐมนตรีคนไหนจะพิจารณาตัวเองสักที ซึ่งหากรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินคนใดไม่มีผลงานคงต้องมีการพูดคุยกันภายในพรรค แต่ตนไม่รู้ว่าจะพูดได้มากน้อยเพียงใด เพราะเคยมีปฏิกิริยาจากคนกลุ่มหนึ่งที่มีต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เราคงให้เวลาสักเดือนสองเดือนว่าคนที่มาดำรงตำแหน่งเป็นยังไงเพราะภาวะแบบนี้เมื่อเขามาดำรงตำแหน่งแล้วต้องทำงานได้เลย
เมื่อถามว่าการไม่มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำให้การทำงานและการประสานงานของพรรคลำบากมากขึ้นหรือไม่ นายรณฤทธิชัย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นายสุวิทย์ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแต่พรรคก็ยังทำงานได้ ตนเชื่อว่าการไม่มีนายสุวิทย์คงไม่เป็นอุปสรรค และไม่มีผลอะไร คนที่มาเป็นรัฐมนตรีคงทำงานไปตามอำนาจหน้าที่ที่แต่ละคนมีอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายสุวิทย์หมดความชอบธรรมในการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินแล้วหรือไม่ นายรณฤทธิชัย กล่าวว่า ในความรู้สึกการที่นายสุวิทย์พยายามอยู่ในกลุ่มทุนมากเกินไป ทำให้มองเห็นว่าความชอบธรรมต่อคนที่เป็นตัวแทนของประชาชนมันขาดความชอบธรรม ตนเชื่อว่าการเสนอชื่อรัฐมนตรีทุกพรรคคงทำเหมือนกัน คือ การเชิญ ส.ส.ทุกคนมาประชุมเพราะผู้แทนเป็นผู้กำหนดจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่ใช่การเอานายทุนไปกำหนด ต้องเอาผู้แทนกำหนด การที่พรรคเพื่อแผ่นดินได้โควตารัฐมนตรีมาจากจำนวนผู้แทน การเสนอรายชื่อรัฐมนตรีจะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์จาก ส.ส. การไม่เรียกประชุมแล้วเสนอชื่อรัฐมนตรีถามว่าถือเป็นมติของพรรคตรงไหน
