xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” ชูปรับปรุงแยก แก้ปัญหาจราจร “ดร.แดน” เจอแจ็กพอต “นพ.แท้จริง” ไม่รับที่ปรึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชูวิทย์” ชูนโยบายซินโครไนเซอร์แก้ปัญหาจราจรใน กทม.นำร่อง 10 ถนนหลักรถติด ไม่ต้องค้นคว้าแต่ต้องปรับปรุงสัญญาณไฟทุก 4 แยกๆ ละ 1 แสนบาท ด้าน “ดร.แดน” แจ็กพอตแตก หลังโดน “นพ.แท้จริง” ส่งแฟกซ์แจ้งสื่อไม่รับเป็นที่ปรึกษา แต่เจ้าตัวยังยัน “หมอเมาไม่ขับ” เคยรับปากจริงๆ เผย อาจเป็นเกมการเมืองที่อยากให้เสียเครดิต

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 แถลงข่าวเปิดตัวนโยบายแก้ไขปัญหาการจราจร โดยการติดตั้งระบบ ซินโครไนเซอร์ (Synchronizer) เชื่อมสัญญาณไฟจราจรในแต่ละทางแยกให้สัมพันธ์กัน และนับจำนวนรถ (Traffic Count) เพื่อคำนวณจำนวนรถ ตลอดจนตั้งเวลาสัญญาณไฟจราจรในแต่ละแยกให้มีเวลา 30 วินาที เท่ากันทุกแยก ซึ่งหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะเริ่มดำเนินการระบบทันที ไม่ต้องมีการค้นคว้า หรือทำวิจัยเพิ่มเติม เพราะในต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็นำระบบซินโครไนเซอร์มาใช้ และแก้ไขปัญหารถติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตนจะใช้เวลา 1 ปี ในแก้ไขปัญหา โดยจะนำร่องถนน 10 เส้นหลัก อาทิ ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดา ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนรามอินทรา ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่า จะใช้งบประมาณในการปรับปรุงสัญญาณไฟ 100,000 บาทต่อ 1 ทางแยก

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนระบบรองรับการแก้ไขปัญหาจราจรอื่นๆ นั้น ตนมีนโยบาย คือ 1.ตนจะทำจุดจอดแท็กซี่สแตนด์ เพื่อให้รถแท็กซี่ไม่ต้องวิ่งหาผู้โดยสารตามท้องถนน โดยจุดจอดนั้นจะทำไว้หน้าตึก อาคารสำนักงานต่างๆ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า คอนโด ที่พักอาศัย ซึ่งจุดจอดนั้นจะปรับปรุงทางเท้าให้เป็นแนวลาด นอกจากนั้นแล้วก็จะหารือกับกรมขนส่งทางบกในกรณีที่จะทำให้รถแท็กซี่มีสีเดียวกัน 2.นำโครงการรถโรงเรียน (School Bus Sytem Net) มาใช้รับส่งนักเรียนในสถานศึกษาที่มีอยู่ทั่ว กทม.ซึ่งตนจะของบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อนำมาซื้อรถรับส่ง และใช้งบของ กทม.ส่วนหนึ่งมาดำเนินโครงการ ทั้งนี้จะเน้นความปลอดภัยอย่างสูงสุด บนรถนักเรียน จะมีคนดูแลนักเรียน 2 คน มีระบบทีวี โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร อย่างไรก็ตามทาง กทม.ก็จะขอความร่วมมือกับผู้บริหารของโรงเรียนในการดำเนินโครงการรถโรงเรียนด้วย เบื้องต้นคาดว่าอาจจะต้องมีการเก็บค่าบริการเดือนละ 500 บาท

และจากกรณีที่ นพ.แท้จริง ศิริพานิช ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ ส่งโทรสารไปยังสื่อมวลชนแขนงต่างๆ โดยปฏิเสธว่าไม่เคยตอบรับที่จะเป็นทีมที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 สังกัดอิสระ นั้น

ล่าสุด นายเกรียงศักดิ์ แถลงยืนยันว่า นพ.แท้จริง ได้รับปากอย่างชัดเจนกับตนว่าจะมาร่วมทีมทำงานของตนตลอด 4 ปี ของการทำงานหากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ นพ.แท้จริง ก็เคยเข้าร่วมประชุมทีมงานที่บ้านของตนมาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็ได้รับปากกับ รศ.ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยะคณะทำงานด้านวิทยุของตน ซึ่งเคยทำงานใกล้ชิดกับ นพ.แท้จริง ในมูลนิธิเมาไม่ขับ ซึ่งเป็นการรับปากต่างกรรมต่างวาระกัน ทั้งนี้ หลังจากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นตนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ นพ.แท้จริง เพราะทราบว่าอยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ฮ่องกง และจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.)

“เมื่อ นพ.แท้จริง แถลงกับสื่อมวลชน โดยเลือกที่จะไม่พูดคุยกับผมก่อน ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องยอมรับในการตัดสินใจของ นพ.แท้จริง แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่มีการส่งโทรสารไปยังสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ระบุว่า ท่านไม่เคยรับปากแต่ยอมรับมีการทาบทาม ซึ่งหาก นพ.แท้จริง เปลี่ยนใจก็ควรมาบอกกับผมตรงๆ ได้ และขอเรียกร้องให้ นพ.แท้จริง มาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ทั้งนี้ หากมีโอกาสผมก็อยากพูดคุยกับ นพ.แท้จริง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เพราะไม่อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นเกมการเมือง หากเป็นการเอาเปรียบทางการเมืองทำให้ผมเสียเครดิต ก็เท่ากับเป็นการทำให้ผมเสียหายไปแล้ว และผมรู้สึกเห็นใจ นพ.แท้จริง หากมีแรงกดดันที่ทำให้ไม่สามารถมาร่วมทีมได้ นอกจากนี้ ผมไม่รู้สึกเป็นห่วง เพรายังมีทีมงานอีกจำนวนมากที่จะมาช่วยในการทำงาน” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

ด้าน รศ.ดร.ปาริชาติ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ทาบทาม นพ.แท้จริง เข้ามาร่วม เป็นทีมที่ปรึกษา ของนายเกรียงศักดิ์ เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ซึ่งได้มีการประชุมทีมปรึกษา และ ยืนยันว่า นพ.แท้จริง รับปากตอบรับจริง โดยมีการพูดคุยครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็พยายามติดต่อไปกับเลขาฯ แต่ทราบว่า นพ.แท้จริง เดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ ซึ่งจะเดินทางกลับมาในวันที่ 25 กันยายนนี้ และตนจะติดต่อขอทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น