ปลัด กทม.สั่งปิดโรงเรียนในสังกัด 435 แห่งเป็นเวลา 3 วัน พร้อมเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม.ด่วน หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เผยการให้บริการทั้ง 50 เขต ยังเป็นปกติ ขณะที่ยังเปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ตามเดิม ส่วนโรงเรียนในสังกัด ศธ.“คุณหญิงกษมา” มีคำสั่งให้ ร.ร.ในเขตชั้นในหยุด 2 วัน ส่วนรอบนอกหยุด 1 วัน ขณะที่ปลัด ศธ.มีคำสั่งให้ข้าราชการทุกคนออกจากกระทรวงก่อนเที่ยง
นายพงศ์ศักดิฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลงนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ดังนั้น กทม.จึงประกาศให้โรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 435 แห่งทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ หยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน หลังจากที่เมื่อคืนตนได้สั่งปิดโรงเรียนในเขตพระนคร, เขตป้อมปราบฯ และเขตดุสิต ไปแล้วมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในวันเวลา 10.00 น.ตนได้เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกทม.เป็นการเร่งด่วนเพื่อทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนได้มีการกำชับหัวหน้าหน่วยงานเพื่อเตรียมการรับมือในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ รวมถึงมีการซักซ้อมอำนาจหน้าที่ที่ กทม.สามารถดำเนินการได้มาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจที่มีอยู่ประมาณ 2,000 นาย ปฏิบัติหน้าที่คอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เป็นเพื่อนกับประชาชน และจัดกำลังสายตรวจเทศกิจเพิ่มเติม อำนวยความสะดวกด้านการจราจรมากขึ้นนอกจากนี้จะได้รวบรวมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นของกทม.เข้ามาเสริมกำลังเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้การให้บริการประชาชนของ 50 สำนักงานเขตยังเป็นไปตามปกติ
ปลัด กทม.กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการปะทะกันเมื่อคืนนี้ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่มีการรายงานทรัพย์สินของ กทม.ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ทางวชิรพยาบาลได้เป็นศูนย์กลางในการให้ควมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งตนได้กำชับสถานพยาบาลในสังกัด กทม.อย่างศูนย์บริการสาธาณสุข โรงพยาบาลในสังกัดให้เตรียมพร้อมปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ปลัด กทม.ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.ทถ.กทม.) กล่าวถึงการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า วันนี้ยังเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ตามปรกติแม้จะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งขณะนี้ตนทราบเพียงประกาศจึงต้องดูข้อกฎหมายประกอบด้วย ส่วนการปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครนั้นต้องดูตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นหลัก
ด้าน นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จึงแจ้งให้ข้าราชการที่เดินมาปฏิบัติงานที่กระทรวง หรืออยู่ระหว่างเดินทางนั้น ให้ทุกคนทยอยกันเดินทางกลับบ้านก่อนเที่ยง
นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้โรงเรียนสังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) หรือโรงเรียนเอกชนปิดเรียนวันนี้ 1 วัน ส่วนวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)ให้โรงเรียนใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเองว่าจะเปิดได้หรือปิดต่อไป ทั้งนี้ต้องมีการเรียนชดเชยวันที่หยุดไปด้วย
ขณะที่คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า จากที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน จึงประกาศให้โรงเรียนซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต1 ยุดการเรียนการสอน 2 วัน โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่บริเวณชั้นใน ให้นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา ทยอยกันเดินทางกลับบ้านตั้งแต่ 08.00 น.ส่วนเด็กเล็กนั้นให้รอผู้ปกครองมารับ ถ้าหากผู้ปกครองยังเดินทางมาไม่ถึง ระหว่างนั้นให้ครูดูแลนักเรียนจนกว่าผู้ปกครองจะมารับ โดยระหว่างที่รอให้อยู่ภายในโรงเรียน
รายชื่อโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 1 ได้แก่ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนราชวินิต โรงเรียนวัดโบสถ์ โรงเรียนวัดโสมนัส โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ โรงเรียนอนุบาลสามเสน โรงเรียนวัดพลับพลาชัย โรงเรียนมหาวีรานุวัตร โรงเรียนวัดชนะสงคราม โรงเรียนวัดเวตวันธรรมาวาส โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โรงเรียนทุ่งมหาเมฆ โรงเรียนดาราคาม โรงเรียนประถมนนทรีอนุสรณ์ โรงเรียนสายน้ำทิพย์ โรงเรียนวัดด่าน
โรงเรียนกุนทีรุทธารามวิทยาคม โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนนนทรีวิทยา โรงเรียนเบญจราชาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนปทุมคงคา โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง โรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ โรงเรียนพุทธจักรวิทยา โรงเรียนมักกะสันพิทยา โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม โรงเรียนโยธินบูรณะ โรงเรียนราชนันทาจารย์สามเสนวิทยาลัย 2 โรงเรียนราชวินิตมัธยม
โรงเรียนวัดน้อยนพคุณ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ โรงเรียนวัดราชบพิธ โรงเรียนวัดราชาธิวาส โรงเรียนวัดสระเกศ โรงเรียนวัดสังเวช โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนศรีอยุธยา โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒารามในพระบรมราชินูถัมภ์ โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนสายน้ำผึ้ง โรงเรียนสายปัญญาในพระบรมราชินูปถัมภ์ โรงเรียนสิรัตนาธร โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา
ส่วนโรงเรียนในสังกัด สพท.กทม.เขต 2 จำนวน 43 แห่ง หยุดเรียน 1 วัน และให้รอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่โรงเรียนในเขตห้วยขวาง จตุจักร ลาดพร้าว บางเขน สายไหม บึงกุ่ม บางกะปิ วังทองหลาง ดอนเมือง หลักสี่ ลาดกระบัง สะพานสูง คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ประเวศ และสวนหลวง
สำหรับ สพท.กทม.เขต 3 มี 54 โรง ให้ปิดเรียน 1 วัน เฉพาะโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ และให้รอดูสถานการณ์ ได้แก่ โรงเรียนในเขตภาษีเจริญ บางแค บางขุนเทียน บางบอน ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ จอมทอง ธนบุรี ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ หนองแขม
ด้านระดับอุดมศึกษา ขณะนี้มี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ประกาศหยุด 1 วัน
ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2551 นั้น ทางฝ่ายวิชาการ มศว ได้ออกประกาศภายในมหาวิทยาลัยชี้แจงให้คณาจารย์ทราบว่า ในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น มศว สามารถเปิดการเรียนได้ตามปกติ แต่หากนิสิตไม่สามารถเดินทางมาเรียนได้ ก็ไม่ถือว่านิสิตขาดเรียน และขอให้คณาจารย์ทุกคนเฝ้าติดตามดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ถ้ามีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้นมหาวิทยาลัยจะประกาศเกี่ยวกับการเรียนการสอนให้ทุกคนทราบต่อไป
“ที่ มศว ยังไม่ประกาศหยุดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการเพราะพื้นที่มศว ไม่ได้อยู่ใกล้พื้นที่ที่บ่งบอกว่าจะเกิดความรุนแรง มศว จึงไม่อยากใช้โอกาสที่นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหยุดเรียน เพราะจะทำให้คนที่รับข่าวสารว่ามหาวิทยาลัยสั่งหยุดทำการเรียนการสอน คนที่รับข่าวจะเข้าใจว่าเหตุการณ์มันดูแล้วร้ายและน่ากลัว ซึ่งตอนนี้เท่าที่ประเมินสถานการณ์ มศว ยังสามารถดำเนินการเรียนการสอนเป็นปกติได้ แต่สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุปะทะกันของฝ่ายพันธมิตรฯ และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาจจะเป็นห่วงลูกหลานและไม่อยากให้ลูกมาเรียน ก็สามารถหยุดเรียนได้ เราจะไม่ถือว่านิสิตหยุดเรียน”