องคมนตรี แนะอาจารย์วิเคราะห์ปัญหาบ้านเมืองเพื่อเสนอผู้รับผิดชอบโดยตรงใช้เป็นทางออกที่ดีให้สังคม ขณะที่สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย จี้ “สมัคร” ลาออก! คลี่คลายสถานการณ์บ้านเมือง และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จวกประชุมร่วม 2 สภาไร้ประโยชน์ แก้ปัญหาไม่ได้ แถมหัวหน้ารัฐบาลเอาแต่แก้ตัว ปฏิเสธความรับผิดชอบ สหภาพครูออกแถลงการณ์ให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธี
ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ในฐานะประธานพิธีเปิดการสัมมนาทางวิชาการ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “อุดมศึกษาไทยกับบทบาทการพัฒนาประเทศด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ว่า ในขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหา และบ้านเมืองถือว่าเป็นของทุกคน และในฐานะที่อาจารย์เป็นคนไทย ก็ควรศึกษาวิเคราะห์แนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อนำเสนอให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีให้สังคม
ในส่วนของอุดมศึกษาควรต้องทบทวนอุดมการณ์ใหม่ โดยการจัดการศึกษาควรต้องนำโจทย์ของพระพุทธทาสมาแก้ไข ซึ่งพระพุทธทาสได้ให้มุมมองการศึกษาไทยไว้ว่า เป็นการศึกษาที่เพิ่มความเห็นแก่ตัว เน้นความฉลาด แต่ไม่รู้จักการคุมความฉลาด เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นวัตถุนิยม ซึ่งนำไปสู่ความวินาศ โดยเฉพาะช่วงนี้ยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้น เป็นการศึกษาโดยไม่ไตร่ตรอง มีเนื้อหาเฟ้อเกินไป ไม่เกิดประโยชน์ ต้องปรับหลักสูตรให้มีความพอดี อีกทั้งเป็นการศึกษาที่ขาดสาระความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง ขาดเรื่องจิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นการพัฒนาคนจะต้องยกใจให้สูงขึ้น
นายไชยา กุฏาคาร ประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปอ.มท.) กล่าวว่า ตนได้ติดตามการประชุมร่วม 2 สภา เห็นว่าการอภิปรายตลอดทั้งวันไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆ แก่สังคม ทั้งๆ ที่สังคมส่วนใหญ่คาดหวังต่อการอภิปรายครั้งนี้ ว่าจะสามารถหาแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ แต่ต้องผิดหวัง การชี้แจงของรัฐบาลเป็นเพียงการพูดแก้ตัวในทุกประเด็นที่มีการตั้งคำถาม โดยเฉพาะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่มีท่าทีของการรับฟังปัญหาหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะหัวหน้ารัฐบาล อีกทั้งยังมีท่าทีปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
“ผมคิดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปสู่แนวทางที่ดีขึ้นคือ นายกฯ ควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรดูแบบอย่างจากประเทศประชาธิปไตยในหลายประเทศเมื่อบ้านเมืองเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์รัฐบาลจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ และไม่อยากให้คิดว่าการออกมารับผิดชอบจะเป็นการแพ้หรือชนะ”
ด้าน นายเพิ่ม หลวงแก้ว ประธานสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาและจัดตั้งเครือข่ายครูอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิเด็ก วันที่ 30-31 สิงหาคม 2551 ณ โรงแรมเวลล์ อ.เมือง จ.นครปฐม ว่า จากการประชุมแกนนำสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ ที่ประชุมได้มีแถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย และสหภาพครูแห่งชาติ เรื่อง แสดงเจตนารมณ์ต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และจะประชุมแกนนำอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายน 2551 นี้ เพื่อกำหนดมาตรการในการขับเคลื่อนต่อไป
แถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ เรื่อง แสดงเจตนารมณ์ต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย มีดังนี้
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง และขยายวงกว้างในหมู่ประชาชนทั่วประเทศ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนา การปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จึงความเห็นร่วมกันดังนี้
1.ให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
2.ให้ทุกฝ่ายสร้างความสามัคคีเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ
3.สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ พร้อมรวมพลังให้กำลังใจ สนับสนุนทุกฝ่ายที่แก้ไขปัญหาตามวิถีทางประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมืองโดยเร็ว
จึงแถลงการณ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551
สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย สหภาพครูแห่งชาติ
ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ในฐานะประธานพิธีเปิดการสัมมนาทางวิชาการ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “อุดมศึกษาไทยกับบทบาทการพัฒนาประเทศด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ว่า ในขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหา และบ้านเมืองถือว่าเป็นของทุกคน และในฐานะที่อาจารย์เป็นคนไทย ก็ควรศึกษาวิเคราะห์แนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อนำเสนอให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีให้สังคม
ในส่วนของอุดมศึกษาควรต้องทบทวนอุดมการณ์ใหม่ โดยการจัดการศึกษาควรต้องนำโจทย์ของพระพุทธทาสมาแก้ไข ซึ่งพระพุทธทาสได้ให้มุมมองการศึกษาไทยไว้ว่า เป็นการศึกษาที่เพิ่มความเห็นแก่ตัว เน้นความฉลาด แต่ไม่รู้จักการคุมความฉลาด เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นวัตถุนิยม ซึ่งนำไปสู่ความวินาศ โดยเฉพาะช่วงนี้ยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้น เป็นการศึกษาโดยไม่ไตร่ตรอง มีเนื้อหาเฟ้อเกินไป ไม่เกิดประโยชน์ ต้องปรับหลักสูตรให้มีความพอดี อีกทั้งเป็นการศึกษาที่ขาดสาระความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง ขาดเรื่องจิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นการพัฒนาคนจะต้องยกใจให้สูงขึ้น
นายไชยา กุฏาคาร ประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปอ.มท.) กล่าวว่า ตนได้ติดตามการประชุมร่วม 2 สภา เห็นว่าการอภิปรายตลอดทั้งวันไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆ แก่สังคม ทั้งๆ ที่สังคมส่วนใหญ่คาดหวังต่อการอภิปรายครั้งนี้ ว่าจะสามารถหาแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ แต่ต้องผิดหวัง การชี้แจงของรัฐบาลเป็นเพียงการพูดแก้ตัวในทุกประเด็นที่มีการตั้งคำถาม โดยเฉพาะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่มีท่าทีของการรับฟังปัญหาหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะหัวหน้ารัฐบาล อีกทั้งยังมีท่าทีปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
“ผมคิดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปสู่แนวทางที่ดีขึ้นคือ นายกฯ ควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรดูแบบอย่างจากประเทศประชาธิปไตยในหลายประเทศเมื่อบ้านเมืองเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์รัฐบาลจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ และไม่อยากให้คิดว่าการออกมารับผิดชอบจะเป็นการแพ้หรือชนะ”
ด้าน นายเพิ่ม หลวงแก้ว ประธานสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาและจัดตั้งเครือข่ายครูอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิเด็ก วันที่ 30-31 สิงหาคม 2551 ณ โรงแรมเวลล์ อ.เมือง จ.นครปฐม ว่า จากการประชุมแกนนำสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ ที่ประชุมได้มีแถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย และสหภาพครูแห่งชาติ เรื่อง แสดงเจตนารมณ์ต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และจะประชุมแกนนำอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายน 2551 นี้ เพื่อกำหนดมาตรการในการขับเคลื่อนต่อไป
แถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ เรื่อง แสดงเจตนารมณ์ต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย มีดังนี้
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง และขยายวงกว้างในหมู่ประชาชนทั่วประเทศ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนา การปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จึงความเห็นร่วมกันดังนี้
1.ให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
2.ให้ทุกฝ่ายสร้างความสามัคคีเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ
3.สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและสหภาพครูแห่งชาติ พร้อมรวมพลังให้กำลังใจ สนับสนุนทุกฝ่ายที่แก้ไขปัญหาตามวิถีทางประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมืองโดยเร็ว
จึงแถลงการณ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551
สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย สหภาพครูแห่งชาติ
