xs
xsm
sm
md
lg

ท้องไม่พร้อม แจ๊กพอต...ที่คุมได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ความสนุกชั่ววูบนำพาปัญหาใหญ่หลวง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการกล่าวถึงปัญหา “ท้องไม่พร้อม” ของวัยรุ่นไทย ซึ่งนับวันความร่วมมือของทุกภาคส่วนเริ่มเข้ามาเพื่อช่วยยุติหรือทุเลาปัญหาไม่ให้เป็นไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์ให้รู้จักป้องกันตัวเองไม่ให้ท้องด้วยความไม่ตั้งใจ รวมทั้งความรู้ที่ถูกและคำถามในเรื่องของเพศสัมพันธ์ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ เช่น กินยาคุมแล้วจะไม่ท้องจริงเหรอ? นับหน้า 7 หลัง 7 ปลอดภัยหรือไม่? หากกินยาคุมย้อนศรแล้วจะมีผลอย่างไร? กินยาคุมไม่ซ้ำยี่ห้อจะมีผลอย่างไรบ้าง?
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่น่าเป็นห่วง ก็คือ ปัญหาในเรื่องของการท้องไม่พร้อมไม่ได้ทุเลาลงเลย และทางออกสุดท้ายก็จะจบลงที่การทำแท้ง

** เร่งสร้างความเข้าใจ ก่อนเจอ “แจ๊กพอต”
ศ.นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล
คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ อธิบายว่า วัยรุ่นนั้นจะมองการท้องว่าเป็น “แจ๊กพอต” เพราะคิดแค่ว่าสนุกหนเดียว ไม่ติดโรค ไม่ท้อง ซึ่งบางครั้งเด็กทำไปเพราะความสนุก อยากลอง โดยไม่รู้ธรรมชาติของร่างกายตนเองว่าช่วงไหนพร้อม หรือไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ บางคนจึงชะล่าใจ คิดว่าตัวเองเจ๋งที่ทำอย่างไรก็ไม่ท้อง แต่หากพลาดเพียงครั้งเดียวแจ๊กพอตครั้งสำคัญนี้ ก็จะไปตกอยู่ที่ฝ่ายหญิงเพียงคนเดียว ที่ต้องรับกับความเปลี่ยนแปลงอีกมากมายที่จะตามมา

... แล้วจะป้องกันไม่ให้เจอแจ๊กพอตอย่างไร?
ศ.นพ.สุรศักดิ์ ให้คำตอบว่า การทำแท้งเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนที่ท้องไม่พร้อม เพราะเพียงแค่ต้องการยุติการตั้งครรภ์โดยเร็วที่สุด อันเนื่องมาจากความคิดที่ฉาบฉวย และไม่ไตร่ตรองเป็นเหตุให้ปัญหาตามมาอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งหากมองดูแล้วสถานที่รับทำแท้งในเมืองไทยยังไม่เป็นที่เปิดเผย เป็นสถานที่ผิดกฎหมาย และภาครัฐก็ไม่สามารถควบคุมได้

ทว่า สถานที่เหล่านี้เปรียบได้กับที่พึ่งของวัยรุ่นเมื่อเจอปัญหา แต่พวกเขาคงลืมนึกไปถึงอันตรายที่อาจตามมาจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย เช่น การติดเชื้อ ตกเลือด ซึ่งเป็นผลให้เกิดภาวะร่างกายซีด และอาจติดเชื้อเรื้อรัง โดยการปวดท้องเรื้อรัง เป็นถุงหนองที่รังไข่ ท่อรังไข่อุดตันทำให้ต้องผ่าตัดมดลูก รังไข่ แต่ที่อันตราย คือ การตกเลือดและติดเชื้อชนิดรุนแรงซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ หรืออาจจะส่งผลให้มีลูกยากในอนาคตต่อไป

“จริงๆ แล้วการทำแท้งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง ดังนั้น เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรได้ จึงต้องหันกลับมาให้ความรู้ ความเข้าใจ ในการป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคจากเพศสัมพันธ์ ทำอย่างไรในการวางตัวเพื่อไม่ให้ไปจบลงที่การมีเพศสัมพันธ์ แต่เมื่อมีแล้วทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องให้คือความรู้ โดยเฉพาะกับผู้หญิงต้องรู้วิธีการป้องกันเช่น การนับช่วงปลอดภัยหน้า 7 หลัง 7, การกินยาคุม, การใช้ถุงยางอนามัย, ใช้ยาฉีด หรือยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งพวกเขาต้องมีองค์ความรู้ในเรื่องเหล่านี้อยู่เช่นกัน และความรู้ ความเข้าใจในเรื่องเพศศึกษานี้เปรียบได้กับวัคซีนทางสังคม เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดความเสี่ยง เกิดปัญหา เมื่อผ่านขั้นตอนเหล่านี้ไปแล้วการท้องไม่พร้อม และการทำแท้งก็จะไม่เกิดขึ้น” ศ.นพ.สุรศักดิ์ ขยายความ

ถึงตรงนี้ ศ.นพ.สุรศักดิ์ ให้ข้อคิดไว้ว่า อยากให้วัยรุ่นไทยมีสติ คือการระลึกได้ บวกกับความรู้ ถึงผลที่จะตามมาหลังจากการกระทำ เมื่อมีความเข้าใจตรงส่วนนี้จะทำให้สามารถยับยั้งชั่งใจ และควบคุมตัวเองได้

** สร้างสายใยรักป้องกันปัญหา
เมื่อพูดถึงแนวทางป้องกัน และการแก้ไขปัญหานั้น พญ.นันทา อ่วมกุล ผอ.สำนักที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้แนวทางว่า ผู้ปกครองที่น่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ต่างก็ต้องอยู่ในภาวะจำยอม ด้วยสภาพปัจจุบัน โดยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่พอจะทำได้ คือ การพัฒนาโรงเรียนพ่อแม่ขึ้นมา เพราะบางครั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และวิถีชีวิตของลูกเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นนั้นเป็นสิ่งที่ยาก จึงต้องเริ่มให้พ่อแม่คลุกคลีกับลูก ตั้งแต่เล็กเพื่อสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้น และควรเริ่มสร้างโดยการใช้วิธีเนื้อแนบเนื้อ โดยการพยายามเลี้ยงลูกจากนมแม่ เพราะจะเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนออกซีโทซิน เพื่อสร้างให้แม่ลูกเกิดความผูกพันกันซึ่งจะเป็นผลดีต่อไปในอนาคต

เดิมทีการเลี้ยงลูกในอดีตนั้นจะอยู่ภายในครอบครัวใหญ่ที่มีปู่ย่า-ตายาย คอยดูแล ถ่ายทอดการเลี้ยงดูให้ ซึ่งปัจจุบันหาได้ยากมาก โดยจะมีแต่ครอบครัวเดียวเพียงแค่พ่อ แม่ ลูก เลี้ยงดูกันตามลำพังเท่านั้น จึงไม่เคยได้รับแบบอย่างที่ดีจากบรรพบุรุษ ทำให้ต้องกลับมาคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้นกับครอบครัวยุคใหม่ และพ่อแม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของลูกได้ ต่อไปในเมื่อลูกมีปัญหาพ่อแม่ก็จะเป็นคนแรกที่เขาคิดถึง

“เราเองก็พบว่าเด็กที่ใสซื่อ บริสุทธิ์ นั้นจะมีความเสี่ยงมากกว่าเด็กที่มีนิสัยก้าวร้าว ก๋ากั่น เพราะจะชอบคิดในทางที่ดีเสมอ ซึ่งเด็กเหล่านี้หากไม่เคยได้รับภูมิคุ้มกัน ความเข้าใจจากพ่อแม่เลย เมื่อเขามีแฟนแล้วต้องเสียตัว ก็จะเทิดทูนในความรักโดยไม่ระวังป้องกันตัวเอง จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ เด็กเหล่านี้จะมีความเสี่ยงมาก” พญ.นันทา ให้ภาพ

แต่ก็ใช่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ต้องแก้ที่ผู้ปกครองอย่างเดียว โดย พญ.นันทา ทิ้งท้ายว่า ถึงแม้พ่อแม่จะให้ความใกล้ชิดกับลูกเพียงใด แต่เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นเด็กทุกคนก็จะเห็นเพื่อนเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด ดังนั้น การให้ความรู้ ความเข้าใจ โดยการสร้างแกนนำเยาวชน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะเด็กวัยเดียวกันก็จะไว้ใจซึ่งกันและกัน ทำให้ต้องพยายามใส่ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเพศ และปัญหาวัยรุ่นในด้านต่างๆ ให้แก่พวกเขาเพื่อที่จะได้ไปขยายความต่อ โดยการเป็นที่ให้คำปรึกษาในทางที่ถูกต้องกับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาต่อไป

ถึงที่สุดปัญหาเรื่องนี้ก็ยังเป็นเหมือนเหรียญ 2 ด้านเสมอ เมื่อพวกเขาได้รับความรู้ ถึงการป้องกันที่ถูกต้อง จนนำไปสู่การปฏิบัติจริง เสียงทักท้วงถึงความไม่เหมาะสมก็มักมีตามมา... ดังนั้น ข้อสงสัยที่ออกจากปากของวัยรุ่นในย่อหน้าแรกจะเป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจ หรือสลดใจดี สังคมคงต้องช่วยกันหาคำตอบ...
ศ.นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล
พญ.นันทา  อ่วมกุล
นมแม่สร้างสัมพันธ์แม่สู่ลูก
สร้างสายใยรักในครอบครัวป้องกันปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น