สพฐ.อึ้ง หลังมียอดครูสมัครเป็นตัวสำรองเข้าโครงการเออลีฯกว่า 2,000 ราย อ้างป่วยถึง 500 ราย วิตกถ้ายอมให้ครูกลุ่มนี้เออลีฯครบ จะไม่เหลืองบจ้างครูใหม่มาสอน
นายพิษณุ ตุลสุข ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล และนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สืบเนื่องมาจาก คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งการให้แต่ละ สพท.ทำบัญชีสำรองส่งมาพร้อมกับบัญชีรายชื่อข้าราชการที่อนุญาตให้เข้าร่วมโครงการเออลีฯนั้น ขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั้ง 185 เขต ได้ส่งบัญชีรายชื่อสำรองของข้าราชการในพื้นที่ที่ต้องการขอเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หรือ เออลีรีไทร์ ปี 2552 มาให้ สพฐ.แล้ว
ในส่วนของบัญชีสำรองมียอดรวมประมาณ 2,000 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ขอเออลีฯ โดยให้เหตุผลว่า เจ็บป่วยถึง 500 คน ซึ่ง สพฐ.อาจจำเป็นต้องให้คนกลุ่มนี้เออลีฯด้วย เมื่อนำมารวมกับบัญชีเออลีฯตามปกติจะมียอดจำนวน 7,029 ราย แล้ว เห็นได้ชัดว่า สพฐ.ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงจ่ายเพื่อจ่ายเป็นเงินทดแทนให้กับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าโครงการนี้
ด้วยเหตุนี้ คุณหญิงกษมา ได้มอบให้ตนไปคำนวณมาว่า เฉพาะงบประมาณที่ต้องจ่ายทดแทนให้ครูในบัญชีสำรองที่ขอเออรี่ด้วยเหตุผลเจ็บป่วยเป็นจำนวนเท่าไหร่ และผู้ที่ขอเออลีฯด้วยเหตุผลนี้จะมีอายุราชการเหลือค่อนข้างมาก การจ่ายเงินทดแทนจะใช้จำนวนมาก สำหรับบัญชีสำรองในบาง สพท.ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการ สพฐ.ต้องใช้งบส่วนกลางแทน ถ้าให้เออลีฯ 500 คน สพฐ.อาจไม่เหลือเงินมากพอที่จะมาจ้างครูทดแทนครูขอเกษียณได้
นายพิษณุ กล่าวว่า ตนแจ้งกลับไปยัง ผู้อำนวยการ สพท.ว่า ให้ตรวจสอบว่าผู้ที่ขอเออรี่ฯมีปัญหาเจ็บป่วยจริงหรือไม่ ทั้งนี้ อาจต้องขอให้ส่งหลักฐานจำพวกใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองจาก ผอ.สพท. แนบเพื่อเป็นการยืนยันด้วย เมื่อได้จำนวนที่ชัดเจน ตนจะเร่งคำนวณงบประมาณที่จะต้องใช้ทั้งหมดเพื่อเสนอให้ คุณหญิงกษมา พิจารณา
นายพิษณุ ตุลสุข ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล และนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สืบเนื่องมาจาก คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งการให้แต่ละ สพท.ทำบัญชีสำรองส่งมาพร้อมกับบัญชีรายชื่อข้าราชการที่อนุญาตให้เข้าร่วมโครงการเออลีฯนั้น ขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั้ง 185 เขต ได้ส่งบัญชีรายชื่อสำรองของข้าราชการในพื้นที่ที่ต้องการขอเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หรือ เออลีรีไทร์ ปี 2552 มาให้ สพฐ.แล้ว
ในส่วนของบัญชีสำรองมียอดรวมประมาณ 2,000 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ขอเออลีฯ โดยให้เหตุผลว่า เจ็บป่วยถึง 500 คน ซึ่ง สพฐ.อาจจำเป็นต้องให้คนกลุ่มนี้เออลีฯด้วย เมื่อนำมารวมกับบัญชีเออลีฯตามปกติจะมียอดจำนวน 7,029 ราย แล้ว เห็นได้ชัดว่า สพฐ.ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงจ่ายเพื่อจ่ายเป็นเงินทดแทนให้กับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าโครงการนี้
ด้วยเหตุนี้ คุณหญิงกษมา ได้มอบให้ตนไปคำนวณมาว่า เฉพาะงบประมาณที่ต้องจ่ายทดแทนให้ครูในบัญชีสำรองที่ขอเออรี่ด้วยเหตุผลเจ็บป่วยเป็นจำนวนเท่าไหร่ และผู้ที่ขอเออลีฯด้วยเหตุผลนี้จะมีอายุราชการเหลือค่อนข้างมาก การจ่ายเงินทดแทนจะใช้จำนวนมาก สำหรับบัญชีสำรองในบาง สพท.ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการ สพฐ.ต้องใช้งบส่วนกลางแทน ถ้าให้เออลีฯ 500 คน สพฐ.อาจไม่เหลือเงินมากพอที่จะมาจ้างครูทดแทนครูขอเกษียณได้
นายพิษณุ กล่าวว่า ตนแจ้งกลับไปยัง ผู้อำนวยการ สพท.ว่า ให้ตรวจสอบว่าผู้ที่ขอเออรี่ฯมีปัญหาเจ็บป่วยจริงหรือไม่ ทั้งนี้ อาจต้องขอให้ส่งหลักฐานจำพวกใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองจาก ผอ.สพท. แนบเพื่อเป็นการยืนยันด้วย เมื่อได้จำนวนที่ชัดเจน ตนจะเร่งคำนวณงบประมาณที่จะต้องใช้ทั้งหมดเพื่อเสนอให้ คุณหญิงกษมา พิจารณา
