สพฐ.เผยยอดครูเออลีรีไทร์รอบแรก 7 พันกว่าคน ใช้งบฯ 1,890 ล้าน และยังเหลือเงินพอจ้างครูใหม่ในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำเท่ากับอัตราที่เกษียณไป เผยครูที่ยื่นขออนุมัติเออลีฯ ต่อ อ.ค.ก.ศ.เขตพื้นที่ แล้วไปทำธุรกิจ หรือผ่อนสินค้าเพราะคิดว่าจะได้เงินเออลี่ฯ สพฐ.ช่วยเหลือไม่ได้ เพราะกระบวนการยังไม่สิ้นสุด ต้องให้ สพฐ.อนุมัติก่อน
นายพิษณุ ตุลสุข ผอ.สำนักงานพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการหรือโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (เออลีรีไทร์) ว่า ได้ข้อสรุปตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการเออลี่รีไทร์รอบแรก ประจำปีงบประมาณ 2552 จากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนดโควต้าให้ 8,955 คน มีข้าราชการครูเข้าร่วมโครงการได้ทั้งสิ้น 7,029 คน ใช้งบฯ สำหรับการจ่ายเป็นเงินขวัญถุงประมาณ 1,890 ล้านบาท และยังมีงบฯ เหลือสำหรับการจ้างครูใหม่ในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำได้ 7,029 คน กลุ่มที่เข้าโครงการ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูที่มีอายุ 58-59 ปี มีปัญหาสุขภาพและทุพพลภาพ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการปีนี้ ขอให้เข้าโครงการในปีหน้าเพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง 4 ปี อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ส่งรายชื่อบัญชีสำรองเพื่อ สพฐ.จะได้พิจารณาคัดคนเข้าโครงการเพิ่มเนื่องจากบางเขตมีเงินแต่ไม่มีโควตาซึ่งมี 431 คน แต่บางเขตมีโควตาแต่ไม่มีเงิน มีจำนวน 378 คน จากเขตพื้นที่ฯ ที่ส่งข้อมูลมาทั้งหมด 55 เขตพื้นที่ฯจะรอจนครบ 185 เขตแล้วจึงจะเกลี่ยให้ เบื้องต้นจะเกลี่ยให้กับผู้ที่อายุ 59 ปีก่อนเพราะปีหน้าจะหมดสิทธิ์เข้าโครงการแล้วหรือไม่ก็กลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“ส่วนกรณีที่มีครูร้องเรียนว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแต่ไม่อยู่ในรายชื่อที่เขตพื้นที่ฯ จัดส่งให้ สพฐ.เนื่องจากขาดงบประมาณซึ่งทำให้ครูเดือดร้อนเพราะบางคนวางแผนไปทำธุรกิจ ขอเครดิตไปผ่อนรถเพราะคิดว่าจะได้เงินจากเออลีรีไทร์นั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของครูไปเองที่คิดว่าเมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อนุมัติแล้ว กระบวนการจะสิ้นสุดแค่นั้น เพราะยังเหลือขั้นตอน ผอ.สพท.ลงนามอนุมัติอีก ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ว่ามีใครลงนามอนุมัติ เพราะยังต้องรอ สพฐ.เห็นชอบก่อน ฉะนั้น เพียงแค่การอนุมัติของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จึงไม่ถือว่ามีผลสมบูรณ์ทางกฎหมาย และเรื่องนี้ สพฐ.คงจะไปช่วยอะไรไม่ได้หากมีการทำธุรกรรมทางการเงินไปแล้ว เพราะถือเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนส่วนบุคคลเอง” นายพิษณุ กล่าว
นายพิษณุ ตุลสุข ผอ.สำนักงานพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการหรือโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (เออลีรีไทร์) ว่า ได้ข้อสรุปตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการเออลี่รีไทร์รอบแรก ประจำปีงบประมาณ 2552 จากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนดโควต้าให้ 8,955 คน มีข้าราชการครูเข้าร่วมโครงการได้ทั้งสิ้น 7,029 คน ใช้งบฯ สำหรับการจ่ายเป็นเงินขวัญถุงประมาณ 1,890 ล้านบาท และยังมีงบฯ เหลือสำหรับการจ้างครูใหม่ในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำได้ 7,029 คน กลุ่มที่เข้าโครงการ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูที่มีอายุ 58-59 ปี มีปัญหาสุขภาพและทุพพลภาพ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการปีนี้ ขอให้เข้าโครงการในปีหน้าเพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง 4 ปี อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ส่งรายชื่อบัญชีสำรองเพื่อ สพฐ.จะได้พิจารณาคัดคนเข้าโครงการเพิ่มเนื่องจากบางเขตมีเงินแต่ไม่มีโควตาซึ่งมี 431 คน แต่บางเขตมีโควตาแต่ไม่มีเงิน มีจำนวน 378 คน จากเขตพื้นที่ฯ ที่ส่งข้อมูลมาทั้งหมด 55 เขตพื้นที่ฯจะรอจนครบ 185 เขตแล้วจึงจะเกลี่ยให้ เบื้องต้นจะเกลี่ยให้กับผู้ที่อายุ 59 ปีก่อนเพราะปีหน้าจะหมดสิทธิ์เข้าโครงการแล้วหรือไม่ก็กลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“ส่วนกรณีที่มีครูร้องเรียนว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแต่ไม่อยู่ในรายชื่อที่เขตพื้นที่ฯ จัดส่งให้ สพฐ.เนื่องจากขาดงบประมาณซึ่งทำให้ครูเดือดร้อนเพราะบางคนวางแผนไปทำธุรกิจ ขอเครดิตไปผ่อนรถเพราะคิดว่าจะได้เงินจากเออลีรีไทร์นั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของครูไปเองที่คิดว่าเมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อนุมัติแล้ว กระบวนการจะสิ้นสุดแค่นั้น เพราะยังเหลือขั้นตอน ผอ.สพท.ลงนามอนุมัติอีก ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ว่ามีใครลงนามอนุมัติ เพราะยังต้องรอ สพฐ.เห็นชอบก่อน ฉะนั้น เพียงแค่การอนุมัติของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จึงไม่ถือว่ามีผลสมบูรณ์ทางกฎหมาย และเรื่องนี้ สพฐ.คงจะไปช่วยอะไรไม่ได้หากมีการทำธุรกรรมทางการเงินไปแล้ว เพราะถือเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนส่วนบุคคลเอง” นายพิษณุ กล่าว
