xs
xsm
sm
md
lg

เตือน! อย่าหลงกลเขมร ดึงไทยมุ่ง “ตาเมือนธม” ลดกำลังพระวิหาร ส่งคนยึดพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิชาการเตือนทหารอย่าหลงเล่ห์เขมร ดึงความสนใจไทยไป “ตาเมือนธม” เพื่อให้ลดกำลังทหารที่ปราสาทพระวิหารลง และผลักดันคนกัมพูชาเข้ามาปักหลักในพื้นที่ไทย ถึงตอนนั้นจะยุ่ง เพราะไทยจะไม่สามารถกันคนออกไปได้ นำไปสู่การดึงองค์กรระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้อง วอนทหารอย่าลดกำลังทั้ง 2 พื้นที่ แนะ “บัวแก้ว” ส่งหนังสือประท้วงกัมพูชา และเปิดโปงพฤติกรรมเกเรของเขมรให้ 21 ประเทศภาคีสมาชิกมรดกโลกได้รับทราบ
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ อดีตอนุกรรมการพัฒนานครประวัติศาสตร์มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงการรุกคืบของกัมพูชาที่พยายามจะนำกำลังทหารเข้ามายังบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่า ปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทยอย่างชัดเจน และกรมศิลปากรก็ขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นโบราณสถานไว้ ตลอดจนเราได้ทำการบูรณะตัวปราสาท เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอยู่ตลอด ดังนั้น พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ทหารของไทยมีสิทธิ์ 100% ที่จะรักษาดินแดนเอาไว้ จึงขอให้ทหารตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เอาไว้ อย่าเผลอลดกำลังลงอย่าเด็ดขาด

“ผมเชื่อว่า นี่เป็นเกมหนึ่งของกัมพูชา เขากำลังเล่นเกม เบี่ยงเบนประเด็น ให้เราไปยุ่งกับปราสาทตาเมือนธม เพื่อให้เราลดกำลังที่ปราสาทพระวิหารลง และถึงเวลานั้นกัมพูชาก็จะเอาคนทั้งเด็ก และคนชรา เข้ามาอยู่ในพื้นที่เขาพระวิหาร และเราจะยุ่ง เพราะไม่สามารถกันคนเหล่านั้นออกไปได้ รวมทั้งจะเป็นข้ออ้างดึงเอาองค์กรต่างประเทศเข้ามาด้วย จึงขอให้ทหารอย่าหลงกลลดกำลังลงทั้งที่ปราสาทพระวิหารและปราสาทตาเมือนธม”นายเทพมนตรี กล่าว

นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทย ควรจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรประท้วงไปยังสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถึงพฤติกรรมดังกล่าวของทหารกัมพูชา และแจ้งการกระทำของประเทศกัมพูชา ให้กับ 21 ประเทศภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกได้รับทราบ เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ให้เห็นว่า กัมพูชาพูดอย่างทำอย่าง ทั้งๆ ที่เพิ่งเจรจาให้ทั้ง 2 ประเทศลดกำลังทหารลง และกัมพูชากำลังเกเร หากกัมพูชามีพฤติกรรมเช่นนี้ ควรมีการพิจารณาหรือรื้อคดีเรื่องปราสาทพระวิหารใหม่หรือไม่ แต่ที่สำคัญรัฐบาลไทยต้องมีมติยกเลิกแถลงการณ์ร่วมของนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับประเทศกัมพูชาอย่างเร่งด่วนก่อน
ปราสาทตาเมือนธม
“เราเอาแต่รอให้กัมพูชากดดันเราอยู่ไม่ได้ เราต้องดำเนินการอะไรบ้าง ซึ่งการที่ฮุนเซนส่งภรรยามาที่ปราสาทพระวิหารนั้น ชี้ให้เห็นว่า การทำเช่นนั้น เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นว่าพื้นที่เป็นของเขา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วง เพราะเขาจะมาทำอะไรบนพื้นที่เราจะต้องขออนุญาต แต่เราปล่อยให้เขาเอาเฮลิคอปเตอร์มาจอดบนเป้ยตาดี ถือเป็นการรุกล้ำดินแดนเราอย่างชัดเจน” นายเทพมนตรี กล่าว

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัยเชียวชาญ จากสถาบันไทยคดีศึกษา กล่าวว่า กรณีกลุ่มปราสาทตาเมือน เป็นเรื่องที่ทีมนักวิชาการ แสดงความห่วงใยและเตือนหน่วยราชการมาตลอด ว่า เรื่องราวอาจลุกลามไปได้ ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องแล้วก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะเรื่องทั้งหมดอยู่ที่จุดยืนของรัฐบาลนี้ ซึ่งประชาชนให้ความไว้วางใจให้มาเป็นรัฐบาลแล้ว ท่านก็ต้องพิทักษ์อธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ อยู่ในตำแหน่ง รัฐบาลนี้ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา โดยไปยอมรับแผนที่ของกัมพูชา และไม่ยืนยันแผนที่ของประเทศไทย จึงเกิดปัญหาขึ้น ทั้งปราสาทตาเมือน ซึ่งอยู่แนวชายแดน และที่น่าเป็นห่วงก็คือ หลักเขตแดนที่ 73 บริเวณ ปลายเกาะกูด ก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่หน่วยราชการต้องระมัดระวัง

“ทางออกของเรื่องนี้ ทางนักวิชาการทุกคน ขอวิงวอนให้กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาล เปิดเผยข้อมูล จุดผิดพลาดต่างๆ ออกมาให้ชัดเจน และขอให้พวกเราเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อหาทางเยียวยาปัญหาที่เกิด ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่เปิดเผยอะไรสักอย่าง หากเปิดเผยก็จะทราบว่าจุดไหนเยียวยาได้ ก็จะได้ช่วยกันพวกเราเป็นห่วงกันมากจริงๆ”

ม.ล.วัลย์วิภา กล่าวอีกว่า ขณะนี้นักวิชาการของสถาบันไทยคดีศึกษา กำลังพิจารณาว่าหากใช้แผนที่ของกัมพูชา มาตราส่วน 1: 200,000 แล้ว จะกินพื้นที่อาณาเขตเข้ามาในแผ่นดินไทยบริเวณใดบ้าง โดยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะนำแผนที่นี้ไปเปรียบเทียบกับพื้นที่จริง บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
กำลังโหลดความคิดเห็น