“สนธิ” ชี้ แนวโน้ม “เตช บุนนาค” ไม่ใช่ของจริง ระบุ พฤติกรรมหลังเข้ารับตำแหน่งช่วยเหลือ-ปกปิดความผิด “นพดล” ไม่ยอมริบพาสปอร์ตแดงจาก “แม้ว” แถมยังทำท่ายอมรับอธิปไตยของเขมรเหนือปราสาทพระวิหาร ย้ำกำหนดการดาวกระจายที่ “บัวแก้ว” พรุ่งนี้ เรียกร้องรวมพลังเปลี่ยนแปลงสังคม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกำหนดการไปกระทรวงการต่างประเทศในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) เพื่อดูว่า นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนนี้ เป็นของจริง หรือของปลอม แต่แนวโน้มเป็นของปลอม
นายสนธิ กล่าวถึงแนวโน้มการถอนทหารไทยออกจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร หลังการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ว่า เท่ากับว่า เรายอมรับว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ ยังชี้ให้เห็นว่า นายเตช ไม่ใช่ของจริง โดยพิจารณาจากการที่เข้ามารับตำแหน่งกลับไม่ดำเนินการใดๆ โดยเฉพาะการทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เป็นโมฆะ และต้องยกเลิกแถลงการร่วมดังกล่าว ประการต่อมา คือ การจะไปเจรจาเรื่องปราสาทตาเมือนธม เท่ากับยอมรับการอ้างสิทธิ์ของกัมพูชา และประการที่สาม คือ ยังไม่ยกเลิกพาสปอร์ตเล่มแดงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถืออยู่
“นี่ขนาดเคยเป็นรองราชเลขาธิการ เคยเป็นลูกน้องคุณอาสา สารสิน ซึ่งซี้ปึ้กกับคุณทักษิณ ที่จริงคนที่เคยเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะมีศักดิ์ศรี แต่นี่กลับเข้าไปล้างความผิดให้ นายนพดล ปัทมะ นี่ไงผมถึงบอกว่าเป็นของปลอม” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีทนายความที่อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปแจ้งความเอาผิดกับตนเอง และแกนนำพันธมิตรฯหาว่าลงรูปหมายจับ ทำให้เสียหาย ว่า เรื่องนี้หลังปรึกษากับ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ว่า ที่ทนายความคนนี้อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องตรวจสอบว่าได้รับมอบอำนาจมาเมื่อไหร่ แสดงว่า สมคบและรู้เบาะแสของอาชญากรแล้วไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบหรือไม่
นายสนธิ กล่าวว่า ได้กล่าวขอโทษพี่น้องพันธมิตรฯ ว่า ในวันศุกร์นี้ที่ไม่สามารถร่วมเดินทางไปโรงเรียนโยธินบูรณะตามที่นัดหมายกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ เพราะต้องไปขึ้นศาล แต่ในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ จะไปแน่นอน
ในตอนท้าย นายสนธิ ได้เรียกร้องให้พี่น้องทุกคนรวมพลังทางสังคมให้เข้มแข็ง และให้ช่วยเหลือกันและกัน เพราะถ้ารวมกันได้จะเป็นพลังเปลี่ยนแปลงทุกด้านทั้งทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจในทางที่ดีได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ นายสนธิ ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เคยพูดถึงเรื่องการผลิตข้าวสารเอเอสทีวีมาจำหน่าย เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองในระยะยาว ว่า ที่ผ่านมา มีคนส่งเอสเอ็มเอสแสดงความสนับสนุนมากมาย โดยเสนอให้จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นหลายประเภทออกมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
