xs
xsm
sm
md
lg

แฉสารพัดสินค้าแห่ตกเขียวนักศึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิรุณ” เตือนสติ สกอ.ให้คิดโครงการใหญ่ อย่าคิดงานปลีกย่อย แย้มมีมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเงินบ.เหล้า ทำงานอาร์ต ด้าน “วรากรณ์” ระบุ มีโฆษณาเหล้า ยา แฝงในมหา’ลัย อาศัยกิจกรรมนักศึกษา มองว่าไม่เสียหาย แนะมหาวิทยาลัยควรเอาใจใส่กว่านี้

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงมหาวิทยาลัยเพื่อขอความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยทุกแห่งในการรับการสนับสนุนงบประมาณหรือการขอสปอนเซอร์จากสินค้าที่ทำลายสุขภาพอย่างบุหรี่ สุรา เบียร์ ว่า ตนยังไม่เคยเห็นหนังสือฉบับนั้นเลย และทางสกอ.ก็ไม่เคยทำหนังสือมาถึงมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม สกอ.จะทำหรือไม่ทำหนังสือ ตนเชื่อว่า สถาบันการศึกษาเกือบทุกแห่งมีสำนึกในเรื่องเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งหรือคำขอร้องจาก สกอ.

“ผมไม่อยากเห็น สกอ.ทำงานในระดับปลีกย่อย ยังมีเรื่องใหญ่ๆ อีกหลายเรื่องที่ สกอ.ควรจะดำเนินการ งานในลักษณะนี้มหาวิทยาลัยเขาคิดเองได้ และทำงานในแนวนี้อย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว อย่าง มศว มีนโยบายไม่รับเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ที่เข้าข่ายเป็นสินค้าทำลายสุขภาพมานานแล้ว แม้ว่าสินค้าเหล่านั้นจะพยายามเข้ามาช่วยเหลือหรือสนับสนุนมหาวิทยาลัยเราก็ขอไม่รับ งานที่เป็นรูปธรรมที่เห็นชัดมากที่สุดก็คือ งานกีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 34 ซึ่ง มศว เป็นเจ้าภาพ เราประกาศชัดเจนเป็นนโยบายว่ากีฬามหาวิทยาลัยต้องปลอดจากสิ่งเสพติด แม้ว่าขณะนั้นเราจะต้องการงบประมาณมาจัดงานกีฬามหาวิทยาลัยอย่างมาก แต่กล้าที่จะปฏิเสธ ไม่เพียงแค่กีฬามหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังมีงานกิจกรรมของนิสิตคณะต่างๆ ที่เขาต้องทำกิจกรรมและต้องของบประมาณสปอนเซอร์จากหน่วยงานเอกชนนอกมหาวิทยาลัย กำชับและให้เป็นนโยบายกับงานพัฒนาศักยภาพนิสิต ให้เขามีจิตสำนึกในเรื่องนี้”

ศ.ดร.วิรุณ กล่าวต่อว่า มีมหาวิทยาลัยบางแห่งที่รับงบประมาณจากบริษัทข้ามชาติ ซึ่งเป็นบริษัทบุหรี่ ให้งบนิสิตทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยที่รับงบของบริษัทข้ามชาติต้องมีจิตสำนึก และรู้เท่าทันเกมการค้าที่แฝงมากับการคืนกำไรให้สังคม ซึ่งมหาวิทยาลัย นิสิตต้องตระหนักและเข้าใจในเกมการค้าเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่เห็นว่าเขาให้งบก็รับจนลืมคำว่าจิตสำนึกแห่งการเป็นสถาบันการศึกษาและการเป็นปัญญาชน

นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีเครือข่ายหัวกะทิสร้างสรรค์ ที่เกิดจากการรวมตัวกันขององค์การบริหารนักศึกษาและสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยจาก 5 สถาบัน ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบธุรกิจแอลกอฮอล์ที่ทำการตลาดแบบแอบแฝง ผ่านกิจกรรมนิสิตนักศึกษาและสถาบันการศึกษา ว่า ปัญหานี้มีมานานแล้ว ส่วนตัวมองว่าธุรกิจโฆษณาที่แฝงเข้าไปในสถานศึกษารูปแบบต่างๆ ผ่านกิจกรรมนักศึกษา ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังมียาประเภทต่างๆ ด้วย เช่น ยาบำรุง ยาป้องกันมะเร็งปากมดลูก วิตามิน เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ

การโฆษณาจะแฝงการขาย โดยเชิญวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้ เรื่องสุขภาพ เท่ากับเป็นการขายของไปในตัว เรื่องนี้มหาวิทยาลัยคงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมียาบางตัวยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่

“ผู้บริหารหาร อาจารย์ มหาวิทยาลัย ต้องระวังเป็นพิเศษ โฆษณาเหล่านี้จะเข้ามาในรูปแบบที่หลากหลาย เช่นสนับสนุนกิจกรรม กีฬา ทำให้นักศึกษาเกิดการซึมซับโดยไม่รู้ตัว คนที่จะหยุดปัญหานี้ได้ดีที่สุดคือมหาวิทยาลัย ต้องกลั่นกรอง ซึ่งดูไม่ยาก” นายวรากรณ์ กล่าวต่อว่า ต้องเข้มงวดกิจกรรมนักศึกษา บางบริษัทผ่านทางกิจกรรมนักศึกษา และรับเงินจากโฆษณาแฝงเพราะมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น