ผู้ปกครอง วิ่งโร่หา คุณหญิงกษมา ร้องถูกมิจฉาชีพ ตบเงิน 5 แสน แลกกับการเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมฯ พัฒนาการ ระบุ ลูกเรียนได้ 4 คาบถูกโรงเรียนเชิญกลับบ้านเพราะไม่มีรายชื่อในประกาศ ด้าน คุณหญิงกษมา สั่งโรงเรียนชี้แจงด่วน ส่วน ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมฯ พัฒนาการ ยืนยันโรงเรียนไม่เคยเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง เผยเทอมนี้มีเด็กถูกหลอก 3 ราย เตือนผู้ปกครองระวังกลุ่มมิจฉาชีพ
วันนี้(14 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นางณัชชารีย์ เจริญวงศ์วัฒนา อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจประดับยนต์ ได้เดินทางมาพบคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยขอให้ตรวจสอบกรณีที่บุตรชายของตนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเงินเกือบ 5 แสนบาท ซึ่งมิจฉาชีพรายนี้อ้างว่าดำเนินการให้ลูกเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ได้
นางณัชชารีย์ เล่าให้ฟังว่า ตนถูกนายชกาณ อรุณกวินชัย และนางศิริบูรณ์ ปิงเมือง หลอกลวงว่าสามารถฝากบุตรชายเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนดังกล่าวได้ โดยนายชกาณ อ้างว่าเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้รู้จักกับอาจารย์ และมูลนิธิอื้อจือเหลียง ซึ่งเป็นมูลนิธิของสมาคมผู้ปกครองโรงเรียน เพียงบริจาคเงิน 1 แสนบาทจะจัดการเรื่องเข้าเรียนให้ได้
“ตนรู้จักนายชกาณ หลายปีแล้วเพราะเป็นลูกค้าที่ร้าน พอมาพูดเช่นนั้น จึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ และให้เงิน 1 แสนบาท ถือว่าเป็นการทำบุญและลูกได้เข้าเรียนด้วย ภายหลังที่ได้รับเงินไปแล้ว นายชกาณ ก็บอกว่าดำเนินการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และบอกว่าไม่ต้องไปโรงเรียนด้วยตนเอง ซึ่งระหว่างนั้นมีการขอเงินอยู่เรื่อย เช่น ขอไปเป็นค่าเลือกสายเรียน ค่าหนังสือ และอื่น ๆ รวมเบ็ดเสร็จสูงถึง5 แสนบาท กระทั่งนายชกาณได้นำหนังสือมอบตัว พร้อมใบขอบคุณจากมูลนิธิอื้อจือเหลียง จึงมั่นใจว่าลูกได้เข้าเรียนจริง ๆ มาถึงวันเปิดเทอม ตนได้นำลูกเข้าเรียน เรียนไปได้ 4 คาบ รอง ผอ.โรงเรียน ให้ตามตัวเด็กไปพบและบอกว่าไม่มีชื่อในใบประกาศของโรงเรียน จึงให้กลับบ้านไปเพราะเป็นเด็กเถื่อน ทำให้ลูกชายเกิดอาการเครียดต้องกินยาคลายเครียด”
นางณัชชารีย์ แจ้งวัตถุประสงค์ที่เดินทางมาพบ คุณหญิงกษมา ว่า ตนไม่ได้มาเรียกร้องอะไร เพราะเด็กได้ที่เรียนแล้ว แต่ยังมีอาการเครียดอยู่บ้าง เพียงแต่ตนต้องการให้ สพฐ.เข้าไปตรวจสอบเรืองนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์ เพราะทราบมาว่ายังมีนักเรียนอีก 2 รายที่ถูกนายชกาณ หลอกลวงเช่นกับ ตน อยากให้ตรวจสอบด้วยว่ามีอาจารย์ในโรงเรียนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากวันเปิดเทอม นายชกาณ ได้แนะนำให้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ เอื้อมพร ซึ่งนายชกาณ แนะนำว่าเป็นอาจารย์ของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความดำเนินการคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว แต่ 2 คนนั้นหลบหนีคดีอยู่
คุณหญิงกษมา กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมฯ ผอ.ชี้แจงว่า เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง เพียงแต่ไม่เคยมีผู้ปกครองที่ได้ความเสียหายมาชี้แจงแบบนี้ และขณะนี้ทางโรงเรียนเองได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายชกาณแล้วที่ สน.ประเวศ และขอยืนยันว่าไม่มีอาจารย์ของโรงเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตนจะให้โรงเรียนชี้แจงเรื่องนี้ ถ้าพบว่ามีอาจารย์เข้ามาเกี่ยวข้องจริง จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป
ส่วน นางอ่องจิต เมธยะประภาส ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กล่าวยืนยันว่า โรงเรียนไม่เคยเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง และสมาคมอื่อจื่อเหลี่ยงที่มิจฉาชีพอ้างถึงและให้ผู้ปกครองบริจาคเงินนั้น เป็นสมาคมที่บริจาคที่ดินให้กับโรงเรียนและไม่มีการเรียกร้องเก็บเงิน
รู้มาว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ประเวส และสน.บางเสาธง ในวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนและต้องรอผลสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนที่ผู้ปกครองบอกว่ามีอาจารย์เอื้อมพร รู้เห็นกับพวกมิจฉาชีพด้วยนั้น จากการตรวจสอบไม่มีอาจารย์ชื่อเอื้อมพร
“นักเรียน 3 รายที่ถูกหลอกลวง เป็นนักเรียนชั้นม.4 จำนวน 2 ราย ม.1 จำนวน 1 ราย พอโรงเรียนรู้เรื่องก็ดำเนินแจ้งความทันที เนื่องจากเด็กไม่มีรายชื่ออยู่ในใบมอบตัว และเรียกให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าโรงเรียนไม่เคยเรียกรับเงินใด ๆ เพื่อแลกที่นั่ง ฝากไปยังผู้ปกครองให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย เพราะไม่ต้องการให้สูญเสียเงินและเด็กก็ไม่ได้เข้าเรียนตามที่ผู้ปกครองตั้งใจ”นางอ่องจิต กล่าวทิ้งท้าย
วันนี้(14 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นางณัชชารีย์ เจริญวงศ์วัฒนา อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจประดับยนต์ ได้เดินทางมาพบคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยขอให้ตรวจสอบกรณีที่บุตรชายของตนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเงินเกือบ 5 แสนบาท ซึ่งมิจฉาชีพรายนี้อ้างว่าดำเนินการให้ลูกเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ได้
นางณัชชารีย์ เล่าให้ฟังว่า ตนถูกนายชกาณ อรุณกวินชัย และนางศิริบูรณ์ ปิงเมือง หลอกลวงว่าสามารถฝากบุตรชายเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนดังกล่าวได้ โดยนายชกาณ อ้างว่าเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้รู้จักกับอาจารย์ และมูลนิธิอื้อจือเหลียง ซึ่งเป็นมูลนิธิของสมาคมผู้ปกครองโรงเรียน เพียงบริจาคเงิน 1 แสนบาทจะจัดการเรื่องเข้าเรียนให้ได้
“ตนรู้จักนายชกาณ หลายปีแล้วเพราะเป็นลูกค้าที่ร้าน พอมาพูดเช่นนั้น จึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ และให้เงิน 1 แสนบาท ถือว่าเป็นการทำบุญและลูกได้เข้าเรียนด้วย ภายหลังที่ได้รับเงินไปแล้ว นายชกาณ ก็บอกว่าดำเนินการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และบอกว่าไม่ต้องไปโรงเรียนด้วยตนเอง ซึ่งระหว่างนั้นมีการขอเงินอยู่เรื่อย เช่น ขอไปเป็นค่าเลือกสายเรียน ค่าหนังสือ และอื่น ๆ รวมเบ็ดเสร็จสูงถึง5 แสนบาท กระทั่งนายชกาณได้นำหนังสือมอบตัว พร้อมใบขอบคุณจากมูลนิธิอื้อจือเหลียง จึงมั่นใจว่าลูกได้เข้าเรียนจริง ๆ มาถึงวันเปิดเทอม ตนได้นำลูกเข้าเรียน เรียนไปได้ 4 คาบ รอง ผอ.โรงเรียน ให้ตามตัวเด็กไปพบและบอกว่าไม่มีชื่อในใบประกาศของโรงเรียน จึงให้กลับบ้านไปเพราะเป็นเด็กเถื่อน ทำให้ลูกชายเกิดอาการเครียดต้องกินยาคลายเครียด”
นางณัชชารีย์ แจ้งวัตถุประสงค์ที่เดินทางมาพบ คุณหญิงกษมา ว่า ตนไม่ได้มาเรียกร้องอะไร เพราะเด็กได้ที่เรียนแล้ว แต่ยังมีอาการเครียดอยู่บ้าง เพียงแต่ตนต้องการให้ สพฐ.เข้าไปตรวจสอบเรืองนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์ เพราะทราบมาว่ายังมีนักเรียนอีก 2 รายที่ถูกนายชกาณ หลอกลวงเช่นกับ ตน อยากให้ตรวจสอบด้วยว่ามีอาจารย์ในโรงเรียนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากวันเปิดเทอม นายชกาณ ได้แนะนำให้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ เอื้อมพร ซึ่งนายชกาณ แนะนำว่าเป็นอาจารย์ของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความดำเนินการคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว แต่ 2 คนนั้นหลบหนีคดีอยู่
คุณหญิงกษมา กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมฯ ผอ.ชี้แจงว่า เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง เพียงแต่ไม่เคยมีผู้ปกครองที่ได้ความเสียหายมาชี้แจงแบบนี้ และขณะนี้ทางโรงเรียนเองได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายชกาณแล้วที่ สน.ประเวศ และขอยืนยันว่าไม่มีอาจารย์ของโรงเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตนจะให้โรงเรียนชี้แจงเรื่องนี้ ถ้าพบว่ามีอาจารย์เข้ามาเกี่ยวข้องจริง จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป
ส่วน นางอ่องจิต เมธยะประภาส ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กล่าวยืนยันว่า โรงเรียนไม่เคยเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง และสมาคมอื่อจื่อเหลี่ยงที่มิจฉาชีพอ้างถึงและให้ผู้ปกครองบริจาคเงินนั้น เป็นสมาคมที่บริจาคที่ดินให้กับโรงเรียนและไม่มีการเรียกร้องเก็บเงิน
รู้มาว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ประเวส และสน.บางเสาธง ในวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนและต้องรอผลสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนที่ผู้ปกครองบอกว่ามีอาจารย์เอื้อมพร รู้เห็นกับพวกมิจฉาชีพด้วยนั้น จากการตรวจสอบไม่มีอาจารย์ชื่อเอื้อมพร
“นักเรียน 3 รายที่ถูกหลอกลวง เป็นนักเรียนชั้นม.4 จำนวน 2 ราย ม.1 จำนวน 1 ราย พอโรงเรียนรู้เรื่องก็ดำเนินแจ้งความทันที เนื่องจากเด็กไม่มีรายชื่ออยู่ในใบมอบตัว และเรียกให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าโรงเรียนไม่เคยเรียกรับเงินใด ๆ เพื่อแลกที่นั่ง ฝากไปยังผู้ปกครองให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย เพราะไม่ต้องการให้สูญเสียเงินและเด็กก็ไม่ได้เข้าเรียนตามที่ผู้ปกครองตั้งใจ”นางอ่องจิต กล่าวทิ้งท้าย
