บุรีรัมย์- เกษตรกรบุรีรัมย์เมินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง เผยเปิดมานาน 12 วันยังไม่มีชาวนานำข้าวมาจำนำแม้แต่รายเดียว ส่วนมากนำข้าวไปขายให้กับผู้ประกอบการและโรงสีโดยตรง เพราะมีราคาที่สูงกว่า ขณะทางจังหวัดฯ ตือนระวังพ่อค้ารถเร่ออกตระเวนรับซื้อข้าวฉ้อโกงเกษตรกรในหมู่บ้าน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า หลังจากทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.บุรีรัมย์ ได้เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังจากเกษตรกรมาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้รวม 12 วันยังไม่มีเกษตรกรรายใดเข้ามาแสดงความจำนงค์ขอขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังของรัฐบาลแม้แต่รายเดียว จากที่มีจำนวนเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังทั้งจังหวัดกว่า 760 ราย พื้นที่เพาะปลูกร่วมกว่า 7,600 ไร่
นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าเกษตรกรส่วนมากเลือกที่จะนำข้าวเปลือก ไปจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการ และโรงสีจนหมดแล้ว เพราะมีราคารับชื้อถึงตันละ 15,000-16,000 บาท สูงกว่าราคาจำนำที่มีราคาเพียงตันละ 14,000 บาท เหลือเพียงข้าวที่เก็บไว้บริโภค และเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จังหวัดฯ ยังได้แจ้งให้เกษตรกรที่มีข้าวเหลืออยู่ในมือ ที่ต้องการนำมาเข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาล ให้เร่งติดต่อขอขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ แล้วนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการจำนำได้ทุกโรงสี เพราะทุกโรงสีได้ให้ความร่วมมือในโครงการอยู่แล้ว
“ขอฝากยังได้เตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ และพ่อค้ารถเร่ ที่ออกตระเวนหลอกลวงรับซื้อข้าวเปลือกเกษตรกรตามหมู่บ้าน ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดและได้มีการปรับแต่งโกงตาชั่ง เอาเปรียบทำให้เกษตรกรเสียหาย หากพบให้แจ้งทางจังหวัดฯ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อเข้าไปดำเนินการตรวจสอบเอาผิดกับกลุ่มดังกล่าวตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป” นายประวัติ กล่าว