พิษณุโลก – “ประดิษฐ์” รมช.คลัง ตรวจโครงการการรับจำนำข้าว รับปากจะขยับวงเงินรับจำนำเพิ่มเป็น 5 แสนบาทต่อราย ชี้แผนให้รัฐลงทุนสร้างโรงอบ เชื่อไปไม่รอดแน่
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงสีเจริญพาณิชย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เมื่อ 20 มิ.ย.51 โดยมีผู้ประกอบการโรงสี ตัวแทนเกษตรกร และเจ้าหน้าที่รัฐรอพบ เพื่อรับทราบปัญหาในพื้นที่ สิ่งที่ชาวนา จ.พิษณุโลก เรียร้อง คือ ต้องการให้รัฐบาลขยายวงเงินรับจำนำข้าวต่อรายเพิ่มขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ รายละไม่เกิน 3 แสน 5 หมื่นบาท ขอให้เพิ่มเป็น 7 แสนบาท
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า รับปากว่าจะขยับวงเงินรับจำนำจำ 3 แสน 5 หมื่นบาท เพิ่มให้เป็น 5 แสนบาท ด้วยเห็นว่าโครงการรับจำนำมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัว และจะเสนอให้ชุดนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในวันจันทร์นี้ (23 มิถุนายน)
นายประดิษฐ์ เปิดเผยว่า พิษณุโลกมีการเปิดจุดรับจำนำเพิ่มเป็น 9 จุด ข้อเรียกร้องที่ว่าการรับจำนำไม่ต้องไปถึงโรงสี สามารถนัดจุดลานตากข้าวให้เกษตรกรนำข้าวมาจำนำได้ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนน้ำมันให้เกษตรกรนั้น สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับโรงสีจะตกลงกับ ชาวนา เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ธกส. อคส. นำไปพิจารณา แต่แนวทางปฏิบัติสามารถทำได้ แต่ต้องหาแนวป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการกดราคาจากความชื้นสูง ขอให้ภาครัฐดูแลให้ชาวนาได้รับความเป็นธรรมและขอร้องผู้ประกอบการโรงสีที่ร่วมโครงการอย่าเอาเปรียบชาวนา
ขณะที่เกษตรกร อ.บางระกำ ที่เสนอขอให้รัฐบาลลงทุนสร้างโรงอบข้าว นายประดิษฐ์ กล่าวว่า คิดว่าไปไม่รอด เพราะลงทุนสูง โรงอบ 1 แห่งใช้เงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หากให้รัฐเป็นผู้ลงทุนจะต้องเสียเงินมาก ไม่คุ้มทุนและยังอาจถูกประชาชนด่าตามหลัง ว่ารัฐบาลชุดนี้ละลายงบสร้างโรงอบข้าว ส่วนเรื่องข้าวเกษตรกรที่มีความชื้นสูง 30 % เวลานี้รัฐบาลรับจำนำสูงถึงตันละ 11,350 บาท ถือว่าสูงมาก เกษตรกรน่าจะพอใจ
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงสีเจริญพาณิชย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เมื่อ 20 มิ.ย.51 โดยมีผู้ประกอบการโรงสี ตัวแทนเกษตรกร และเจ้าหน้าที่รัฐรอพบ เพื่อรับทราบปัญหาในพื้นที่ สิ่งที่ชาวนา จ.พิษณุโลก เรียร้อง คือ ต้องการให้รัฐบาลขยายวงเงินรับจำนำข้าวต่อรายเพิ่มขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ รายละไม่เกิน 3 แสน 5 หมื่นบาท ขอให้เพิ่มเป็น 7 แสนบาท
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า รับปากว่าจะขยับวงเงินรับจำนำจำ 3 แสน 5 หมื่นบาท เพิ่มให้เป็น 5 แสนบาท ด้วยเห็นว่าโครงการรับจำนำมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัว และจะเสนอให้ชุดนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในวันจันทร์นี้ (23 มิถุนายน)
นายประดิษฐ์ เปิดเผยว่า พิษณุโลกมีการเปิดจุดรับจำนำเพิ่มเป็น 9 จุด ข้อเรียกร้องที่ว่าการรับจำนำไม่ต้องไปถึงโรงสี สามารถนัดจุดลานตากข้าวให้เกษตรกรนำข้าวมาจำนำได้ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนน้ำมันให้เกษตรกรนั้น สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับโรงสีจะตกลงกับ ชาวนา เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ธกส. อคส. นำไปพิจารณา แต่แนวทางปฏิบัติสามารถทำได้ แต่ต้องหาแนวป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการกดราคาจากความชื้นสูง ขอให้ภาครัฐดูแลให้ชาวนาได้รับความเป็นธรรมและขอร้องผู้ประกอบการโรงสีที่ร่วมโครงการอย่าเอาเปรียบชาวนา
ขณะที่เกษตรกร อ.บางระกำ ที่เสนอขอให้รัฐบาลลงทุนสร้างโรงอบข้าว นายประดิษฐ์ กล่าวว่า คิดว่าไปไม่รอด เพราะลงทุนสูง โรงอบ 1 แห่งใช้เงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หากให้รัฐเป็นผู้ลงทุนจะต้องเสียเงินมาก ไม่คุ้มทุนและยังอาจถูกประชาชนด่าตามหลัง ว่ารัฐบาลชุดนี้ละลายงบสร้างโรงอบข้าว ส่วนเรื่องข้าวเกษตรกรที่มีความชื้นสูง 30 % เวลานี้รัฐบาลรับจำนำสูงถึงตันละ 11,350 บาท ถือว่าสูงมาก เกษตรกรน่าจะพอใจ
