พิจิตร-ธกส.พิจิตรเตรียมโรงสีกว่า 10 แห่งรองรับโครงการรับจำนำข้าวในวันพรุ่งนี้ ยืนยันราคารับจำนำที่ตันละ 1หมื่น4 พันบาทพร้อมขยายโควต้าจากรายละ 3 แสนเป็น 7 แสนบาทหรือ 55 ตันต่อราย ย้ำรับจำนำปีนี้จะให้ความเป็นธรรมที่สุดและเข้มงวดไม่ให้มีการทุจริตทุกขั้นตอน ด้านชาวนาวอนภาครัฐเร่งประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้
นายธรรมนูญ เทศขำ ผอ.ธกส.พิจิตร กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวว่าจะเปิดรับข้าวจากเกษตรกรในเช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2551อย่างแน่นอน โดยจะรับจำนำในราคา 14,000 บาท/ตัน ในกรณีที่เป็นข้าวแห้ง ส่วนข้าวเกี่ยวสดก็คงต้องตีราคาตามความชื้น
นอกจากนี้ยังได้แก้ไขโควตาการรับจำนำจากชาวนาที่แต่เดิม ให้จำนำได้ 3 แสนบาทต่อราย ก็จะเพิ่มเป็น 7 แสนบาทต่อรายหรือราว 55 ตันต่อราย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยและมีเม็ดเงินที่เหมาะสมกับราคาข้าว
สำหรับการดูแลชาวนาก็มีการตั้งตัวแทนชาวนาประจำตามโรงสี ส่วนโรงสีแต่ละแห่งที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ ธกส.พิจิตรไปนั่งรับข้าวเปลือกจากชาวนาร่วมกับเจ้าหน้าที่ อคส.และเถ้าแก่โรงสี ที่ขณะนี้มีโรงสีที่มีความพร้อมเปิดรับจำนำจากเกษตรกรได้ไม่ต่ำกว่า 10 แห่งในทุกอำเภอที่มีผลผลิตของชาวนา โดยจะเปิดรับจำนำพร้อมๆกัน
นายธรรมนูญ กล่าวอีกว่า การรับจำนำในครั้งนี้จะเน้นมาตรการให้ความเป็นธรรมต่อเกษตรกรดูแลระบบชั่งตวง วัดความชื้นและจะต้องรีบนำส่งให้ อคส.ส่งมอบต่อไปยังโรงสีเพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารหรือเพื่อเข้าถังไซโลอบแห้งให้เร็วที่สุด เพื่อทำการสี
อีกทั้ง ธกส.พิจิตรก็จะเร่งจ่ายเงินให้ทั้งชาวนาและโรงสีให้ไวที่สุด เพื่อที่โรงสีจะได้มีเงินหมุนเวียน โดยมั่นใจแนวทางป้องกันการทุจริตที่จะอาศัยความใกล้ชิดและคุ้นเคยกับชาวนามาเป็นเกาะป้องกันการทุจริต เพราะชาวนากับ ธกส.เป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกแยกกันไม่ออก ถ้าชาวนาคนไหนโกง ธกส.ก็เหมือนกับทุบหม้อข้าวตนเอง คงไม่มีชาวนาคนไหนคิดสั้นทำเช่นนั้นแน่
ส่วนการเปิดรับจำนำอย่างเป็นทางการ จะเริ่มขึ้น 08.00 น.ของวันที่ 15 มิถุนายน 2551 โดยจะให้โรงสีสิงโตทอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เมืองเก่า อ.เมืองพิจิตรและเป็นจุดตั้งอยู่บนเขตรอยต่อของ 3 อำเภอคือ อ.เมือง โพธิ์ประทับช้าง ตะพานหินเป็นโรงสีนำร่อง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีเกษตรกรทำนาและกำลังเก็บเกี่ยวเป็นจำนวนมาก
ด้านนาย ศรชัย สิบหย่อม ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตพื้นที่ อ.สามง่าม และ อ.โพธิ์ประทับช้าง ที่มีพื้นที่ทำนากว่า 3 หมื่นไร่ มีเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายกว่า 800 ครอบครัว เปิดเผยว่าขณะนี้ชาวนาในกลุ่มของตนกำลังเก็บเกี่ยวข้าวอย่างต่อเนื่องและขายข้าวให้กับโรงสีและนายหน้าทั่วไปในราคาต่ำ เพราะขณะนี้ชาวนาพิจิตรส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐจะเปิดจำนำข้าวในวันที่ 15 มิ.ย นี้
ที่สำคัญถึงเวลานี้ยังไม่รู้เลยว่าโรงสีใดเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและใกล้โรงสีแห่งไหน รู้แต่เพียงว่าราคาข้าวจะได้ราคาตันละ 1 หมื่น 4 พันบาท เท่านั้น ซึ่งจะต้องเป็นข้าวแห้ง แต่ข้าวเปลือกของชาวนาพิจิตรส่วนใหญ่จะเกี่ยวสด และเป็นข้าวที่มีความชื้นสูงก็คงจะได้ราคาสูงกว่า 1 หมื่นบาท ก็เป็นที่พอใจของชาวนาแล้วดังนั้นชาวนาพิจิตรจึงอยากให้ ธกส. และ ทางจังหวัดช่วยเร่งประชาสัมพันธ์ว่ามีโรงสีใดบ้างเข้าร่วมโครงการมิฉะนั้นชาวนาพิจิตรก็อาจจะถูกหลอกและถูกโกงได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เพราะขาดการประชาสัมพันธ์ที่รวดเร็วและถูกต้องนั่นเอง
นายธรรมนูญ เทศขำ ผอ.ธกส.พิจิตร กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวว่าจะเปิดรับข้าวจากเกษตรกรในเช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2551อย่างแน่นอน โดยจะรับจำนำในราคา 14,000 บาท/ตัน ในกรณีที่เป็นข้าวแห้ง ส่วนข้าวเกี่ยวสดก็คงต้องตีราคาตามความชื้น
นอกจากนี้ยังได้แก้ไขโควตาการรับจำนำจากชาวนาที่แต่เดิม ให้จำนำได้ 3 แสนบาทต่อราย ก็จะเพิ่มเป็น 7 แสนบาทต่อรายหรือราว 55 ตันต่อราย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยและมีเม็ดเงินที่เหมาะสมกับราคาข้าว
สำหรับการดูแลชาวนาก็มีการตั้งตัวแทนชาวนาประจำตามโรงสี ส่วนโรงสีแต่ละแห่งที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ ธกส.พิจิตรไปนั่งรับข้าวเปลือกจากชาวนาร่วมกับเจ้าหน้าที่ อคส.และเถ้าแก่โรงสี ที่ขณะนี้มีโรงสีที่มีความพร้อมเปิดรับจำนำจากเกษตรกรได้ไม่ต่ำกว่า 10 แห่งในทุกอำเภอที่มีผลผลิตของชาวนา โดยจะเปิดรับจำนำพร้อมๆกัน
นายธรรมนูญ กล่าวอีกว่า การรับจำนำในครั้งนี้จะเน้นมาตรการให้ความเป็นธรรมต่อเกษตรกรดูแลระบบชั่งตวง วัดความชื้นและจะต้องรีบนำส่งให้ อคส.ส่งมอบต่อไปยังโรงสีเพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารหรือเพื่อเข้าถังไซโลอบแห้งให้เร็วที่สุด เพื่อทำการสี
อีกทั้ง ธกส.พิจิตรก็จะเร่งจ่ายเงินให้ทั้งชาวนาและโรงสีให้ไวที่สุด เพื่อที่โรงสีจะได้มีเงินหมุนเวียน โดยมั่นใจแนวทางป้องกันการทุจริตที่จะอาศัยความใกล้ชิดและคุ้นเคยกับชาวนามาเป็นเกาะป้องกันการทุจริต เพราะชาวนากับ ธกส.เป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกแยกกันไม่ออก ถ้าชาวนาคนไหนโกง ธกส.ก็เหมือนกับทุบหม้อข้าวตนเอง คงไม่มีชาวนาคนไหนคิดสั้นทำเช่นนั้นแน่
ส่วนการเปิดรับจำนำอย่างเป็นทางการ จะเริ่มขึ้น 08.00 น.ของวันที่ 15 มิถุนายน 2551 โดยจะให้โรงสีสิงโตทอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เมืองเก่า อ.เมืองพิจิตรและเป็นจุดตั้งอยู่บนเขตรอยต่อของ 3 อำเภอคือ อ.เมือง โพธิ์ประทับช้าง ตะพานหินเป็นโรงสีนำร่อง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีเกษตรกรทำนาและกำลังเก็บเกี่ยวเป็นจำนวนมาก
ด้านนาย ศรชัย สิบหย่อม ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตพื้นที่ อ.สามง่าม และ อ.โพธิ์ประทับช้าง ที่มีพื้นที่ทำนากว่า 3 หมื่นไร่ มีเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายกว่า 800 ครอบครัว เปิดเผยว่าขณะนี้ชาวนาในกลุ่มของตนกำลังเก็บเกี่ยวข้าวอย่างต่อเนื่องและขายข้าวให้กับโรงสีและนายหน้าทั่วไปในราคาต่ำ เพราะขณะนี้ชาวนาพิจิตรส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐจะเปิดจำนำข้าวในวันที่ 15 มิ.ย นี้
ที่สำคัญถึงเวลานี้ยังไม่รู้เลยว่าโรงสีใดเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและใกล้โรงสีแห่งไหน รู้แต่เพียงว่าราคาข้าวจะได้ราคาตันละ 1 หมื่น 4 พันบาท เท่านั้น ซึ่งจะต้องเป็นข้าวแห้ง แต่ข้าวเปลือกของชาวนาพิจิตรส่วนใหญ่จะเกี่ยวสด และเป็นข้าวที่มีความชื้นสูงก็คงจะได้ราคาสูงกว่า 1 หมื่นบาท ก็เป็นที่พอใจของชาวนาแล้วดังนั้นชาวนาพิจิตรจึงอยากให้ ธกส. และ ทางจังหวัดช่วยเร่งประชาสัมพันธ์ว่ามีโรงสีใดบ้างเข้าร่วมโครงการมิฉะนั้นชาวนาพิจิตรก็อาจจะถูกหลอกและถูกโกงได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เพราะขาดการประชาสัมพันธ์ที่รวดเร็วและถูกต้องนั่นเอง