พิจิตร – เถ้าแก่โรงสีเมืองชาละวัน ขู่แฉขบวนการทำนาบนหลังคน กดราคาข้าวในประเทศกินส่วนต่างส่งออกจนพุงกาง
นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร ให้ความเห็นต่อปัญหาราคาข้าวในประเทศตกต่ำ จนทำให้เกิดแรงกดดันให้รัฐบาลประกาศรับจำนำในราคาตันละ 14,000 บาท/ตัน (ความชื้น 15%) ขณะนี้ว่า ประการแรกเกิดจากกลุ่มผู้ส่งออกข้าว หรือพ่อค้าคนกลางที่มีอยู่ 5 บริษัทใหญ่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมาเฟียผู้ส่งออก เอาเปรียบกดราคาการรับซื้อข้าวสารจากสมาคมโรงสีข้าวไทยอย่างไม่เป็นธรรม โดยผลต่าง ค่า FOB ถึงตันละ 1 หมื่นบาทโดย
ต่อจากนี้ทางชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร และสมาคมโรงสีข้าวไทย จะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้เอาเปรียบอีกแล้ว โดยจะรวมตัวกันเคลื่อนไหวขั้นแรกจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำลง และให้แก้ไขปัญหาคอขวดกับพ่อค้าคนกลาง ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการที่ทำให้ราคาข้าวต่ำลงจนถึงทุกวันนี้ และเป็นปัญหาสำคัญในการสร้างความเดือดร้อนไม่ยุติธรรมให้กับชาวนา โดยจะให้รัฐบาลใช้ตลาดล่วงหน้าเป็นกลไกของการกำหนดราคาข้าวทั้งหมด
อีกทั้งเร่งหามาตรการแทรกแซงราคาข้าวหรือมาตรการการจำนำข้าวให้กับชาวนา หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาราคาข้าวให้ชาวนา ทางสมาคมโรงสีข้าวไทยจะนำออเดอร์การขายข้าวให้กับต่างประเทศทั้งหมดมาแฉให้สื่อมวลชน และฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงฝ่ายค้าน ให้ได้รู้ว่าขบวนการขี่หลังชาวนา และบีบคอพ่อค้าโรงสีท้องถิ่น ที่เป็นกลไกรับซื้อข้าวจากชาวนาทุกวันนี้มีใครชักใย และกินหัวคิวผลประโยชน์ที่ชาวนาควรได้ให้กับสาธารณะชนได้ทราบ และตีแผ่ต่อไป
ส่วนกรณีที่โรงสีหลายแห่งไม่สามารถเปิดรับซื้อข้าวจากชาวนาในระยะนี้ได้ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง เพราะการส่งมอบข้าวไปให้กับรัฐบาลความจริงแล้วน่าจะได้รับเงินอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าเมื่อโรงสีท้องถิ่นแปรรูปข้าวสารแล้วขายให้กับรัฐบาลเพื่อนำส่งออก กว่าจะได้เงินต้องใช้เวลานานกว่า 60 วันโรงสียังไม่ได้รับเงินจึงทำให้โรงสีต่างๆ ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินมาหมุนเวียนซื้อข้าวกับชาวนาได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข
นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร ให้ความเห็นต่อปัญหาราคาข้าวในประเทศตกต่ำ จนทำให้เกิดแรงกดดันให้รัฐบาลประกาศรับจำนำในราคาตันละ 14,000 บาท/ตัน (ความชื้น 15%) ขณะนี้ว่า ประการแรกเกิดจากกลุ่มผู้ส่งออกข้าว หรือพ่อค้าคนกลางที่มีอยู่ 5 บริษัทใหญ่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมาเฟียผู้ส่งออก เอาเปรียบกดราคาการรับซื้อข้าวสารจากสมาคมโรงสีข้าวไทยอย่างไม่เป็นธรรม โดยผลต่าง ค่า FOB ถึงตันละ 1 หมื่นบาทโดย
ต่อจากนี้ทางชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร และสมาคมโรงสีข้าวไทย จะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้เอาเปรียบอีกแล้ว โดยจะรวมตัวกันเคลื่อนไหวขั้นแรกจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำลง และให้แก้ไขปัญหาคอขวดกับพ่อค้าคนกลาง ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการที่ทำให้ราคาข้าวต่ำลงจนถึงทุกวันนี้ และเป็นปัญหาสำคัญในการสร้างความเดือดร้อนไม่ยุติธรรมให้กับชาวนา โดยจะให้รัฐบาลใช้ตลาดล่วงหน้าเป็นกลไกของการกำหนดราคาข้าวทั้งหมด
อีกทั้งเร่งหามาตรการแทรกแซงราคาข้าวหรือมาตรการการจำนำข้าวให้กับชาวนา หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาราคาข้าวให้ชาวนา ทางสมาคมโรงสีข้าวไทยจะนำออเดอร์การขายข้าวให้กับต่างประเทศทั้งหมดมาแฉให้สื่อมวลชน และฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงฝ่ายค้าน ให้ได้รู้ว่าขบวนการขี่หลังชาวนา และบีบคอพ่อค้าโรงสีท้องถิ่น ที่เป็นกลไกรับซื้อข้าวจากชาวนาทุกวันนี้มีใครชักใย และกินหัวคิวผลประโยชน์ที่ชาวนาควรได้ให้กับสาธารณะชนได้ทราบ และตีแผ่ต่อไป
ส่วนกรณีที่โรงสีหลายแห่งไม่สามารถเปิดรับซื้อข้าวจากชาวนาในระยะนี้ได้ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง เพราะการส่งมอบข้าวไปให้กับรัฐบาลความจริงแล้วน่าจะได้รับเงินอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าเมื่อโรงสีท้องถิ่นแปรรูปข้าวสารแล้วขายให้กับรัฐบาลเพื่อนำส่งออก กว่าจะได้เงินต้องใช้เวลานานกว่า 60 วันโรงสียังไม่ได้รับเงินจึงทำให้โรงสีต่างๆ ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินมาหมุนเวียนซื้อข้าวกับชาวนาได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข