สพฐ.เผยสถิติแต่ละปีมีเด็กจมน้ำกว่า 1,500 คน หรือเฉลี่ยวันละ 4 คน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนและปิดภาคเรียน ระบุสาเหตุมาจากเด็กขาดความรู้ในการว่ายน้ำ และขาดแหล่งน้ำในการเรียนรู้ ประสานกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาจัดสร้างสระว่ายน้ำในอำเภอต่างๆ พร้อมจัดบุคลากรสอนว่ายน้ำแก่เด็กๆ ในพื้นที่
นายมังกร กุลวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลในแต่ละปีมีเด็กจากทั่วโลกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 230,000 คน โดยในจำนวนดังกล่าวร้อยละ 50-80 เกิดการเสียชีวิตเพราะว่ายน้ำไม่เป็น และจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่าในแต่ละปีมีเด็กที่ต้องเสียชีวิตโดยการจมน้ำตายกว่า 1,500 คน เฉลี่ยวันละ 4 คน ทั้งนี้ นับเป็นการเสียชีวิตในอัตราที่สูงกว่าอุบัติเหตุจราจรถึง 2 เท่า ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี และในจำนวนนี้ยังเป็นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนเป็นส่วนใหญ่ โดยอัตราการเสียชีวิตดังกล่าวนับวันจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้น สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ขาดครูที่ให้ความรู้ในการว่ายน้ำ การลอยตัวในน้ำ และขาดแหล่งน้ำสำหรับการเรียนรู้
รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า จากข้อมูลยังพบอีกว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตสูงสุดในแหล่งน้ำภายในที่อยู่อาศัย และภาชนะกักเก็บน้ำ เช่น สระว่ายน้ำ อ่างน้ำ ถังน้ำ กะละมัง ส่วนเด็กที่อายุสูงกว่า 5 ปี จะเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น สระน้ำ ทะเลสาบ แม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร ชายหาด นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำส่วนใหญ่จะอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะไม่ดี รายได้ต่ำ ผู้นำครอบครัวหรือผู้ดูแลมีการศึกษาต่ำ และเพศชายจะเสียชีวิตจากการจมน้ำมากกว่าเพศหญิง 2-5 เท่า โดยช่วงฤดูร้อน ช่วงปิดภาคเรียนและช่วงบ่ายเป็นช่วงที่มีการจมน้ำมากที่สุด ส่วนภาคที่มีอัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมากที่สุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ตามลำดับ จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ใน 3 อันดับแรกต่อเนื่องกัน 3 ปี คือ ฉะเชิงเทรา ระยอง และปราจีนบุรี
“ จากเหตุดังกล่าว สพฐ.เห็นว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นส่วนราชการที่มีทรัพยากรบุคคลที่สามารถจะให้ความช่วยเหลือในการให้ความรู้ในการว่ายน้ำได้เป็นอย่างดี ดังนั้น สพฐ.จึงได้ขอความอนุเคราะห์ช่วยพิจารณาสนับสนุนให้มีการจัดสร้างสระว่ายน้ำไว้ในอำเภอต่างๆ และจัดบุคลากรไปให้ความรู้ในการว่ายน้ำให้แก่เด็กๆในอำเภอต่างๆ และจัดบุคลากรไปให้ความรู้ในการว่ายน้ำให้แก่เด็กๆในอำเภอนั้นๆ เพื่อเป็นการป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็ก ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการสนับสนุนในระดับหนึ่ง”นายมังกรกล่าว
