xs
xsm
sm
md
lg

“เก็บยิ้ม” หนังสั้นคนพิการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เก็บยิ้ม”  เป็น 1 ใน 5 หนังสั้นที่เข้ารอบสุดท้ายจากการประกวด Disability Film Awards 2008 ในงานเทศกาลภาพยนตร์และการสัมมนาเรื่องความพิการ DISABILITY film festival & seminar 2008 ของ โสภณ ฉิมจินดา” วัย 31 ปี ผู้พิการนั่งวีลแชร์ ซึ่งเมื่อ 5 ปี ที่แล้วเขาประสบอุบัติเหตุรถตกเหว ทำให้ต้องกลายเป็นมนุษย์ล้อ บ่อยครั้งที่เขามักถูกมองด้วยสายตาที่เวทนา เขาจึงได้หยิบมุมมองนั้นมาเล่าเป็นหนังสารคดีเหน็บแนม โดยเล่นเองและกำกับเอง
โสภณ ฉิมจินดา
โสภณ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำหนังสั้น ว่า แนวคิดในการทำหนังสั้นเรื่องเก็บยิ้มเป็นมุมมองความรู้สึกที่ว่า ทุกวันนี้ในสังคมไม่มีพื้นที่สำหรับผู้พิการแม้แต่ฟุตปาธ เพราะไม่มีทางลาดให้แก่ผู้พิการ สภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อผู้พิการ ดังนั้น สิ่งแวดล้อมจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของปัญหาแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ ใจ
 
โสภณ มองว่า อยากให้ผู้คนในสังคมเปิดใจ ให้คนพิการอยู่ร่วมในสังคมอย่างเท่าเทียม โดยใช้หนังสร้างความเข้าใจเพื่อเปลี่ยนมุมมองของคนในสังคม และเข้าใจคนพิการมากยิ่งขึ้น
เก็บยิ้ม เป็นเรื่องราวใน 1 วัน ที่ได้ถ่ายทำแบบเรียลิตี ที่โสภณเดินทางจากสยามพารากอนไปมาบุญครองด้วยรถวีลแชร์ ซึ่งสิ่งที่ได้พบเจอบนฟุตปาธ 2 ข้างทาง มีคนปกติที่เป็นคนขอทาน คนเร่ร่อน คนชรา เรียกว่าเดินไปตรงไหนก็เจอ ขณะเดียวกัน กลับเห็นคนพิการนั่งขายของ แต่คนพิการกลับถูกมองว่าไม่มีศักยภาพต้องรอรับเพียงความช่วยเหลือเท่านั้น นั่นเป็นภาพจริงที่เกิดขึ้นในสังคม
 
“ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความพิการเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหรือไม่ เมื่อพิจารณาดีแล้ว กลับมองว่า ความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่กลับเป็นความหลากหลายที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ซึ่งตั้งแต่ผมประสบอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้ผมยังใช้ชีวิตปกติทุกอย่าง เป็นคนที่ชอบเที่ยวชอบเดินทางอย่างไร ก็ยังทำเหมือนเดิม ไม่เอาความพิการมาปิดกั้น”

โสภณ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง โดยการมองโลกในแง่ดี แสดงความรู้สึก ต่อผู้คน ต่อคนที่ได้พบเจอด้วยรอยยิ้ม สร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ใน 1 วันที่ได้ก้าวเดิน เพราะจริงๆ แล้วคนอาจจะไม่ได้พิการ แต่สภาพแวดล้อมต่างหากที่ทำให้เป็นคนพิการ
 
โสภณ บอกด้วยว่า การทำหนังสั้นครั้งนี้ถือว่ายากลำบากมาก เพราะผู้พิการมีข้อจำกัดมากมาย ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จนเกือบขอสละสิทธิ์หลายครั้ง แต่เพราะได้กำลังใจดีๆ จากคณะกรรมการที่ให้โอกาส เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่ผู้พิการคนอื่นๆ จึงทำให้ฮึดอีกครั้ง ดังนั้น การถ่ายทอดหนังสั้น “เก็บยิ้ม” ออกมาก็หวังว่าคนจะชอบ และมาถึงตรงนี้ได้ก็ถือว่าที่สุดแล้ว ไม่ได้หวังรางวัลใดๆ
 
ขณะที่ สุภาพ หริมเทพาธิป กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบโอสโคป บอกว่า นอกจากหนังสั้นเรื่องเก็บยิ้ม เรื่องของโสภณแล้วยังมีหนังสั้นอีก 4 เรื่อง ที่ได้เข้ารอบ คือ 1.In the music box เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ให้ของขวัญแฟนสาวเป็นกล่องดนตรีทั้งๆ ที่เขาและแฟนไม่มีโอกาสได้ยินเสียงอันไพเราะของมัน 2.ความหมายของ “บอย” สารคดี 1 วัน ตามติดชีวิตเด็กวัด ผู้ที่สายตารางเลือน 3.ระหว่างทาง สารคดีค้นหาความฝันของนักปิงปองหูหนวกที่เชื่อว่าตนเองไม่มีความฝัน และ 4.เด็กในสนาม เด็กขาพิการที่ฝันอยากเตะบอล
 
ทั้ง 5 เรื่อง ต่างถ่ายทอดเรื่องราว ความพิการ...คนพิการ ในมุมมองของผู้พิการเอง และมุมมองของคนปกติและแม้ว่า มุมมองอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างแต่ทุกเรื่องล้วนเป็นมุมมองผ่านสายตาด้วยความพยายามทำความเข้าใจที่เป็นภาพสะท้อนภาพทิศทางของสังคม เหมือนเป็นการเปิดประตู เปิดใจ ทำความเข้าใจโลกของผู้พิการมากขึ้น
 
“ที่ผ่านมา การถ่ายทอดผ่านมุมมองของหนัง ส่วนใหญ่เป็นหนังต่างประเทศ เช่น ฟอเรสต์ กัมป์ แต่ไม่มีหนังไทยที่ทำหนังแนวนี้ออกมาเลย เรื่องสุดท้ายที่จำได้ คือเรื่อง ผู้ชายชื่นต้น...ผู้หญิงชื่อนุช งานครั้งนี้จึงเป็นการมองในอีกแง่มุมหนึ่งผ่านออกมาจากภายใน” สุภาพ ให้ภาพ

สำหรับ งาน “เทศกาลภาพยนตร์และการสัมมนาเรื่องความพิการ Disability film festival & seminar 2008” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มิ.ย.นี้ ที่ รร.เซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 22 โดยภายในงานมีกิจกรรมดีๆ มากมายสำหรับคนปกติและคนพิการ ทั้งสาระ ความรู้ ความบันเทิง อย่างการสัมมนาเรื่อง “ศาสนาพุทธกับความพิการ” ที่จะเปิดประเด็นการสนทนาด้วยหนังสั้นฝีมือ “นิพพาน” การถกเรื่อง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นอกจากนี้ ยังมี 5 สุดยอดหนังนานาชาติเล่าเรื่องพิการอย่างบันเทิงและบันดาลใจอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น