xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด กช.เห็นชอบเกณฑ์คัดบุคคลเป็นกรรมการให้อำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จรวยพร” เผยบอร์ด กช.เห็นชอบร่างระเบียบใหม่ 4 ฉบับ หลักเกณฑ์คัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการ โดยจะมีอำนาจวินิจจัยข้อพิพาทต่างๆ และคุ้มครองการทำงาน
นางจรวยพร  ธรณินทร์ ปลัด ศธ.
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการ กช.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จำนวน 4 ร่าง เพื่อรองรับ พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ได้แก่ 1.ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการคุ้มครองการทำงาน ซึ่งประกอบด้วย เลขาธิการ กช.เป็นประธาน ผู้แทนกรมสวัสดิการแรงงาน ผู้แทนงานประกันสังคม ผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์ ผู้แทนฝ่ายโรงเรียน จำนวน 3 คน ผู้แทนฝ่ายผู้อำนวยการหรือครูหรือบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 3 คน เป็นกรรมการ นิติกรของ สช.เป็นเลขานุการ รวมทั้งสิ้น 10 คน

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ชุดนี้จะมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และมีอำนาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดข้อขัดแย้งรับเรื่องราวร้องทุกข์ระหว่างผู้รับใบอนุญาตกับผู้อำนวยการ ครู หรือบุคลากรทางการศึกษา และวินิจฉัยการจ่ายเงินชดเชยและเงินทดแทนให้แก่ผู้อำนวยการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับในส่วนของเขตพื้นที่นั้นจะใช้ชื่อว่าคณะกรรมการประนีประนอมการทำงาน

สำหรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายโรงเรียนและฝ่ายอำนวยการหรือครูหรือบุคลากรทางการศึกษา 1.ต้องมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงานและมีเวลาที่จะปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการด้วย นอกจากนั้น ผู้แทนฝ่ายโรงเรียนจะต้องเป็นผู้รับใบอนุญาตผู้ลงนามแทนโรงเรียนไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนผู้แทนฝ่ายอำนวยการหรือครูหรือบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่นั้นๆ มีเวลารวมกันไม่น้อยกว่า 5 ปี

2.ร่างประกาศสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ เรื่อง การรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการกองทุนสงเคราะห์ ซึ่งคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ประกอบด้วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน เลขาธิการ กช. และผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ และผู้แทนจากประกอบด้วย ผู้แทนผู้อำนวยการ ผู้แทนครู และผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน สมาคมเกี่ยวกับโรงเรียนเอกชน 1 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน

3.ร่างระเบียบฯ ว่าด้วย การกำหนดจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในระบบ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการกำหนดนิยามคำว่า “บุคลากรทางการศึกษา” ซึ่งหมายความถึง ผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในโรงเรียน ได้แก่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานทะเบียนวัดผล ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานแนะแนว ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานบริหารงานทั่วไป ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานบรรณารักษ์ และผู้ปฏิบัติหน้าที่งานเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งนอกเหนือจากนี้จะให้ถือเป็นผู้ปฏิบัติงานอื่นของโรงเรียนเอกชน

และ 4.ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเอกชนในระบบ
โดยระเบียบฯ นี้มีสาระสำคัญในการกำหนดให้โรงเรียนดำเนินการจัดทำทะเบียนครู ทะเบียนบุคลากรทางการศึกษา ทะเบียนเจ้าหน้าที่ ซึ่งโรงเรียนสามารถจัดทำในรูปแบบเอกสารปกติตามแบบที่ สช.กำหนด หรือจัดทำเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยมีรูปแบบที่ตามที่ สช.กำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ โดยโรงเรียนจะต้องเก็บรักษาเอกสารดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ครบถ้วน ปลอดภัยและสามารถใช้อ้างอิงได้ตลอดไป และห้ามทำลาย
กำลังโหลดความคิดเห็น