“เลี้ยบ” เข็นคนออมสิน นั่ง ผอ.เอสเอ็มแอล ชงเข้า ครม.

“รมว.คลัง” เตรียมชง ครม.ดันคนออมสินนั่ง ผอ.เอสเอ็มแอล อังคารนี้ พร้อมจี้ออกระเบียบสำนักนายกฯให้ถูกกฎหมาย ป้องครหา ขณะที่จำนวนชุมชนหมู่บ้านที่จะได้รับงบประมาณรวมแล้วเกือบ 8 หมื่นแห่งทั่วประเทศ

วันนี้ (20 เม.ย.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ระหว่างพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเอสเอ็มแอล (สพศ.) ซึ่งคาดว่าจะทาบทามให้นายสุพจน์ อาวาท กรรมการผู้จัดการ สำนักกองทุนพัฒนาเมืองในภูมิภาค ที่อยู่ในความดูแลของธนาคารออมสิน เข้ามารับตำแหน่ง เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญการบริหารจัดการด้านชุมชน ซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันให้โครงการเอสเอ็มแอล สามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังได้เห็นชอบในประกาศแนวทางการดำเนินงานของเอสเอ็มแอล คาดว่า จะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.วันที่ 22 เม.ย.นี้ พิจารณาให้ร่างประกาศเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การดำเนินงานของเอสเอ็มแอล มีผลทางกฎหมายและให้สอดคล้องกับแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานต่างๆ คล่องตัวและถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีคำครหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างประกาศเอสเอ็มแอล จะประกอบด้วยลักษณะของหมู่บ้านและชุมชนที่จะได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหมู่บ้านหรือชุมชน หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกโครงการ ขั้นตอนการดำเนินโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณ การจัดสรรงบประมาณให้กับหมู่บ้านและชุมชน การดำเนินงานของหมู่บ้านและชุมชน การกำหนดเงื่อนไขของผู้มีสิทธิในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของหมู่บ้านและชุมชน การบริหารจัดการโครงการ การรายงานผลการดำเนินงาน และการลงทะเบียนทรัพย์สิน

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารจัดการโครงการเอสเอ็มแอลในแต่ละหมู่บ้านและชุมชน โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หมู่บ้านและชุมชน ต้องแต่งตั้งคณะผู้รับผิดชอบในการลงชื่อเบิกจ่ายเงิน คณะผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้รับผิดชอบการกำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง คณะผู้รับผิดชอบการติดตาม ควบคุม และตรวจสอบ คณะละ 3 คน รวมทั้งกำหนดมีผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชี จำนวน 2 คน

สำหรับการแบ่งขนาดของหมู่บ้านและชุมชน ใหม่เป็น 7 ขนาดนั้นได้ทำให้มีหมู่บ้านและชุมชนที่จะได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 509 แห่ง รวมเป็น 78,810 แห่ง โดยได้เงินงบประมาณตั้งแต่ 50,000-350,000 บาท ตามขนาดจำนวนประชากร