xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สาวถึงต้นตอตัวการพิมพ์ตำราเถื่อน ยันคน ศธ.-สกสค.ไม่เกี่ยวข้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สกสค.โชว์ปลื้ม! เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวถึงต้นตอตัวการใหญ่ลักลอบพิมพ์ตำราเรียนเถื่อนกว่า 5 หมื่นเล่ม เผยเป็นอดีตคณะกรรมการสภาการศึกษา แต่ไม่ใช่ข้าราชการ ยันไม่มีคนใน ศธ.และ สกสค.เข้าไปเกี่ยวข้อง “พงศกร” มั่นใจปลอดอิทธิพลการเมืองรู้เห็น ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา ยึดแท่นพิมพ์เรียบ 2 ผู้ต้องหาเจ้าของโรงพิมพ์มอบตัวแล้ว องค์การค้าฯ เล็งดำเนินคดีแยกต่างกรรมต่างวาระเอาโทษหนักสุด

นายจิตรนรา นวรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 5 ในฐานะกรรมการขององค์การค้าสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการจับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ปลอมแปลงหนังสือตำราแบบเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งได้เข้าจับกุมเมื่อเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมากว่า 50,000 เล่มว่า จากการสืบสวนขององค์การค้าฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) พบว่าผู้กระทำผิดในการปลอมตำราแบบเรียนดังกล่าว มีด้วยกันทั้งสิ้น 4 คน ซึ่ง ปศท. และองค์การค้าของ สกสค.ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเข้ายึดแท่นพิมพ์ 4 แท่น แท่นตัดกระดาษ แท่นพับกระดาษ 2 แท่น รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท จากโรงพิมพ์ แอลทีเพรส ซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 เขตบางพลัด กทม.ซึ่งทีมงานได้เคยเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 พบเอกสารใบสั่งกระดาษ ตารางแผนการผลิต และใบส่งเพลท ที่มีชื่อรายการหนังสือเรียนขององค์การค้าของ สกค. ปรากฏอยู่ในเอกสาร และ ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน คือ นายเปรมกมล ทินกร ณ อยุธยา เจ้าของโรงทำเพลทเอเซียแปซิฟิก, นายสุริยา อัศวมณี เจ้าของโรงพิมพ์แอลทีเพรส, นายวรพันธ์ ทรัสยา เจ้าของโรงพิมพ์เอเซีย แปซิฟิก และน.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วเชียงใต้ ผู้ว่าจ้างพิมพ์ ขณะนี้ นายเปรมกมล ทินกร ณ อยุธยา และนายสุริยา อัศวมณี ได้เข้ามอบตัวแล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ตำรวจกำลังติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีต่อไป

“สำหรับ น.ส.จันทร์เพ็ญ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการสภาการศึกษาถือเป็นตัวการใหญ่ เพราะพบว่าการจ้างโรงพิมพ์ หรือการสั่งพิมพ์หนังสือแบบเรียนเถื่อนทั้งหมด กระทำในนาม น.ส.จันทร์เพ็ญทั้งสิ้น ส่วนนายวรพันธ์เป็นผู้ดำเนินการจัดพิมพ์ จัดหากระดาษที่ใช้พิมพ์หนังสือตำราปลอม นำฟิล์มและเพลทหนังสือเรียนปลอมไปส่งให้โรงพิมพ์ ซึ่งผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 8 แสนบาท อย่างไรก็ตามการกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้งหมดเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระหาก สกสค.สั่งฟ้องแยกตามกรรม ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษสูงมาก เพราะเพียงปีเดียวมีการลักลอบพิมพ์หนังสือเถื่อนถึง 3 ครั้ง และพิมพ์หลายเล่ม โดย สกสค.อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินฟ้องร้องอย่างไร” นายจิตนรากล่าว

นายจิตนรา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานว่าร้านค้าที่นำแบบเรียนเถื่อนไปจำหน่าย ที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ทั้ง 4 ร้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น น่าจะรู้เห็นเป็นใจกับผู้กระทำผิดทั้งหมด เพราะนอกจากการจำหน่ายหนังสือแบบเรียนเถื่อนจะได้ส่วนลดจำนวนมากแล้ว หากร้านค้าหนังสือแบบเรียนร้านใดมีหนังสือขององค์การค้าจำหน่ายก่อน ก็จะได้เปรียบเพราะสามารถขายสินค้าอื่นๆ พ่วงให้กับผู้ปกครอง หรือทางโรงเรียนได้อีกด้วย จึงเป็นแรงจูงใจให้ร้านค้ายอมรับหนังสือเถื่อนไปจำหน่าย

ด้าน นายพงศกร อรรณนพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ผลการสืบสวนขณะนี้ยังไม่พบว่ามีข้าราชการของ ศธ.หรือเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด นอกจากผู้กระทำความผิดรายหนึ่งที่เคยเป็นอดีตกรรมการสภาการศึกษาเท่านั้นและไม่ได้เป็นข้าราชการ ซึ่ง สกสค.จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปว่ายังมีผู้ใดมีส่วนร่วมในการกระทำผิดอีก และให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับผู้กระทำผิดทุกราย เชื่อว่าหากเราเอาจริงกับการลงโทษผู้กระทำผิดขั้นสูงสุด ต่อไปจะไม่มีผู้ใดกล้าทำผิดอีก นอกจากนี้ ตนได้กำชับให้องค์การค้าของ สกสค.หารูปแบบวิธีการพิมพ์หนังสือตำราเรียนให้ปลอมแปลงยากขึ้น หรือหากมีการปลอมแปลงก็ให้สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย ทั้งจากผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยสายตา รวมทั้งให้องค์การค้าฯ วางระบบควบคุมการจำหน่ายและการกระจายหนังสือตำราแบบเรียนใหม่ให้ตรวจสอบได้ว่า หนังสือแต่ละเล่มมีหมายเลขใด ส่งไปจำหน่ายที่ไหน หรือส่งไปโรงเรียนใด หากมีการพิมพ์ตำราปลอมออกมาขายก็สามารถตรวจสอบได้ทันที

“นอกจากนี้ ได้สั่งการให้องค์การค้าฯ จัดระบบตัวแทนร้านค้าเสียใหม่ ร้านค้าใดที่ตรวจสอบพบว่านำหนังสือตำราแบบเรียนปลอมมาขายโดยรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มผู้กระทำผิด ให้พิจารณายกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับร้านค้าที่ร่วมกระทำผิดด้วย อีกทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการจัดพิมพ์หนังสือตำราเรียนในปีต่อๆ ไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตขึ้นอีก และให้ผู้ใช้หนังสือได้มั่นใจในคุณภาพในหนังสือของ ศธ.ด้วย”นายพงศกรกล่าว

“การจับกุมครั้งนี้เราสามารถสาวไปถึงตัวผู้กระทำผิดได้ทั้งหมด และมั่นใจได้ว่าไม่มีนักการเมืองหรืออิทธิพลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นเราคงไม่สามารถจับกุมตัวการใหญ่ได้” รมช.ศึกษาธิการกล่าว

อนึ่ง การจับกุมหนังสือแบบเรียนเถื่อนนั้น สกสค.ได้ประสานงานกับ ปศท.เข้าล่อซื้อหนังสือแบบเรียนเถื่อนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และสามารถจับกุมร้านค้าแบบเรียนเถื่อนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ 4 ร้าน พร้อมยึดหนังสือแบบเรียนเถื่อนได้กว่า 50,000 เล่ม นำมาสู่การขยายผล และสาวถึงต้นตอผู้กระทำผิดได้ในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น