xs
xsm
sm
md
lg

อดีต ส.ส.เมินให้การซื้อเก้าอี้ ปธ.วุฒิฯ กมธ.ได้แค่ประณาม-ส่ง ตร.สาวต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รสนา โตสิตระกูล
สอบซื้อเก้าอี้ประธานวุฒิฯ ถึงทางตัน อดีต ส.ส.ที่ถูกกล่าวหาทำไขสือ ไม่ยอมมาชี้แจงกรรมาธิการ “รสนา” รับจนแต้ม หลักฐานไม่เพียงพอ เตรียมสรุป ทำได้แค่ประณาม หนุน 32 ส.ว.ยื่นเรื่องให้ตำรวจสาวต่อ

วันนี้ (3 ก.ค.) นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาสอบสวนเรื่องข่าวการให้ค่าตอบแทนในการเลือกประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ 32 ส.ว.นำโดย นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ร่วมกันเข้าชื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ตามที่มีผู้กล่าวอ้างว่า มีการให้สินบนสมาชิกวุฒิสภาในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานวุฒิสภา ว่า กรรมาธิการตรวจสอบเรื่องนี้ และได้รายงานผลการสอบสวนต่อวุฒิสภาไปแล้วว่า นอกเหนือจากการบอกข่าวด้วยวาจาของ ส.ว. กรณีมีอดีต ส.ส.คนหนึ่ง ติดต่อเข้ามาให้เลือก ส.ว.คนหนึ่งซึ่งเป็นพี่ชาย ให้ได้รับตำแหน่งและจะแลกเปลี่ยนด้วยการให้การดูแล ก็ไม่มีพยานอื่นใด และก็ไม่มีการพูดชัดเจนว่า เงื่อนไขในการดูแลนั้นคืออะไร ทั้งนี้ เบอร์โทรศัพท์ของอดีต ส.ส.ที่ติดต่อมายัง ส.ว.เมื่อกรรมาธิการติดต่อไป ก็พบว่า ใช่บุคคลดังกล่าว แต่เชิญมา 2 ครั้ง ก็ไม่มา ตอนแรกกรรมาธิการจึงให้ผู้ที่ได้รับการติดต่อตัดสินใจเองว่าจะไปแจ้งความหรือไม่ แต่ตอนหลังก็คิดว่า เป็นการผลักภาระ

“ส่วนเรื่องเงิน 1 ล้านบาท และรถเบนซ์ 1 คันที่ข่าวลงว่า มีอดีตนักการเมืองใหญ่ในบ้านเลขที่ 111 ให้การสนับสนุน ส.ว.อีกคนหนึ่งเป็นประธานนั้น สืบไม่ถึงเลย ฉะนั้น เมื่อพยานหลักฐานน้อยมาก จึงสรุปว่า ณ ขณะนี้ ให้ยุติเรื่อง แต่ให้เป็นการปรามนักการเมืองที่ข้ามห้วยเข้ามาเจรจา ว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงต้องประณามให้เป็นที่ปรากฏ และต่อไปถ้ามีข้อมูลเพิ่มขึ้นก็อาจรื้อฟื้นขึ้นมาสอบต่อได้ ซึ่งเมื่อรายงานในที่ประชุมวุฒิสภา ที่ประชุมก็มีมติว่า ให้กรรมาธิการนำรายงานกลับไปปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้น จากนั้นกรรมาธิการก็พยายามตรวจสอบเพิ่มเติมดูแล้ว แต่พยานหลักฐานน้อยจริงๆ จึงได้ข้อสรุปแบบเดิม แต่ปรับถ้อยคำให้มีความชัดเจนขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปครั้งสุดท้าย” นางสาวรสนา กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้รายงานฉบับใหม่ทำเสร็จแล้ว แต่กรรมาธิการยังไม่ได้ประชุมสรุป และไม่ได้ระบุตัวบุคคลเช่นเดิม โดยกรรมาธิการไม่มีพยานหลักฐานพอที่จะดำเนินการไปถึงจุดนั้น เมื่อ ส.ว.32 คน ร้องไปยังกองปราบฯ ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ตำรวจอาจจะมีอำนาจหน้าที่เรียกพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการพิจารณาได้ ไม่เหมือนกับกับกรรมาธิการ ที่เชิญพยานปากใดมา ก็ไม่มีใครให้ความร่วมมือเลย ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานพอสมควร

ขณะที่ พล.ต.ต.ขจรสัยวัตร์ ส.ว.หนองคาย ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ที่ 32 ส.ว.ไปร้องกองปราบ ไม่น่ามีปัญหา และตนเห็นด้วย เพราะเคยแสดงความเห็นในที่ประชุมกรรมาธิการแล้วว่า กรรมาธิการไม่มีอำนาจในการสอบสวน หากทำกันเองก็จะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ตนและเพื่อน ส.ว.ส่วนหนึ่ง จึงเสนอให้วุฒิสภาส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมกรรมาธิการไม่เห็นด้วย กรรมาธิการจึงทำเท่าที่ทำได้ ส่วนรายงานฉบับใหม่ เป็นเพียงการเสนอให้วุฒิสภารับทราบว่า มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างไร เช่น มีการโทรศัพท์หากัน แต่ไม่ได้ระบุไปถึงตัวบุคคล สุดท้ายก็ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอจึงมีผลสรุปว่า ควรยุติการสอบสวนเรื่องนี้

ด้าน พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้กรรมาธิการทำรายงานฉบับใหม่เสร็จแล้ว และจะประชุมสรุปอีกครั้ง จากนั้นจะส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาตอนเปิดสมัยประชุม ส่วนที่ 32 ส.ว.ร้องทุกข์ต่อกองปราบฯ ตนเห็นด้วยเพราะ ส.ว.ทุกคนสามารถเป็นผู้เสียหายได้ ซึ่งตำรวจอาจจะคลี่คลายความสับสนในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะผลสอบของกรรมาธิการ สามารถชี้มูลได้ว่า มีความเคลื่อนไหวที่จะทำผิดจริง เพียงแต่ขาดพยานหลักฐานที่จะสาวไปถึงต้นตอของการกระทำผิด
กำลังโหลดความคิดเห็น