ศธ.ยันที่ประชุมเห็นชอบเสนอของบปี 52 3 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปี 51 2 หมื่นกว่าล้านบาท โดยที่งบกว่า 1.7 พันล้านบาทที่จัดสรรให้ สช.เพื่อใช้เป็นเงินอุดหนุนการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดหนุนงบกองทุนสงเคราะห์
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก เพื่อพิจารณาปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 เสนอต่อสำนักงบประมาณ ซึ่งมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมยืนยันเห็นชอบให้เสนอของบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2552 ของหน่วยงานในสังกัด ศธ.เป็นวงเงินทั้งสิ้น 331,076.9436 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณรายจ่าย 330,069.1836 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากที่ได้รับในปี 2551 จำนวน 25,984.0254 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.63 และเป็นงบประมาณกองทุนฯ 1,007.76 ล้านบาท เพิ่มจากที่ได้รับปี 2551 จำนวน 650 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.04
ในส่วนงบประมาณรายจ่ายนั้น แบ่งเป็น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับงบ 209,167.6367 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.89 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 74,562.9438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.22 สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สป.) 26,806.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.78 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) 16,869.977 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.99 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 238.4153 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.52 และหน่วยงานในกำกับ 2,423.5308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.84
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ในส่วนของสำนักงานปลัดฯ ได้รับการจัดสรรงบเพิ่มขึ้นถึง 2,824 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.78 โดยสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) 1,712 ล้านบาท สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) 500 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 119 ล้านบาท และเป็นงบสนับสนุนโครงการใหม่ๆ ที่จะเริ่มดำเนินการในปีนี้ อาทิ โครงการพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนทางไกล 370 ล้านบาท งบอุดหนุนเครือข่ายการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 13 ล้านบาท งบพัฒนาค่ายลูกเสือ 20 ล้านบาท โครงการอุดหนุนทุนการศึกษาเด็กสภาวะยากลำบากในเขตพื้นที่พิเศษภาคใต้ ชายแดนและชาวเขา เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 56 ล้านบาท
“สำหรับงบประมาณ สช.ที่ได้เพิ่มขึ้นนั้น เพื่อใช้เป็นเงินอุดหนุนการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดหนุนงบกองทุนสงเคราะห์ ได้รับเพิ่มอีก 300 ล้านบาท เพื่อเตรียมการสมทบให้ครูโรงเรียนเอกชนนอกระบบและบุคลากรการศึกษาทั้งโรงเรียนในระบบและนอกระบบที่จะเข้ากองทุนตั้งแต่ 1 ต.ค.2551 เป็นต้นไป” นางจรวยพร กล่าว
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก เพื่อพิจารณาปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 เสนอต่อสำนักงบประมาณ ซึ่งมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมยืนยันเห็นชอบให้เสนอของบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2552 ของหน่วยงานในสังกัด ศธ.เป็นวงเงินทั้งสิ้น 331,076.9436 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณรายจ่าย 330,069.1836 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากที่ได้รับในปี 2551 จำนวน 25,984.0254 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.63 และเป็นงบประมาณกองทุนฯ 1,007.76 ล้านบาท เพิ่มจากที่ได้รับปี 2551 จำนวน 650 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.04
ในส่วนงบประมาณรายจ่ายนั้น แบ่งเป็น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับงบ 209,167.6367 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.89 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 74,562.9438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.22 สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สป.) 26,806.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.78 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) 16,869.977 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.99 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 238.4153 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.52 และหน่วยงานในกำกับ 2,423.5308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.84
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ในส่วนของสำนักงานปลัดฯ ได้รับการจัดสรรงบเพิ่มขึ้นถึง 2,824 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.78 โดยสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) 1,712 ล้านบาท สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) 500 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 119 ล้านบาท และเป็นงบสนับสนุนโครงการใหม่ๆ ที่จะเริ่มดำเนินการในปีนี้ อาทิ โครงการพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนทางไกล 370 ล้านบาท งบอุดหนุนเครือข่ายการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 13 ล้านบาท งบพัฒนาค่ายลูกเสือ 20 ล้านบาท โครงการอุดหนุนทุนการศึกษาเด็กสภาวะยากลำบากในเขตพื้นที่พิเศษภาคใต้ ชายแดนและชาวเขา เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 56 ล้านบาท
“สำหรับงบประมาณ สช.ที่ได้เพิ่มขึ้นนั้น เพื่อใช้เป็นเงินอุดหนุนการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดหนุนงบกองทุนสงเคราะห์ ได้รับเพิ่มอีก 300 ล้านบาท เพื่อเตรียมการสมทบให้ครูโรงเรียนเอกชนนอกระบบและบุคลากรการศึกษาทั้งโรงเรียนในระบบและนอกระบบที่จะเข้ากองทุนตั้งแต่ 1 ต.ค.2551 เป็นต้นไป” นางจรวยพร กล่าว